|
14
มิ.ย. โกเร็ทซ์ก้ากดชัย! บาเยิร์นหืดเฉือนกลัดบัคหวิว เฮเกมหน้าแชมป์ทันที
บาเยิร์น มิวนิค เก็บอีกสามแต้มจนได้หลังบดเอาชนะ กลัดบัค ในช่วงท้ายเกมแบบหืดจับ 2-1 จากประตูชัยของ เลออน โกเร็ทซ์ก้า ในช่วงท้ายเกม ส่งผลให้นำจ่าฝูงหนี "เสือเหลือง" 7 คะแนน มี 73 แต้ม ซึ่งหากกลางสัปดาห์บุกไปคว้าชัยเหนือ เบรเมน จะทำให้ "เสือใต้" คว้าแชมป์ลีกทันที ในเกมบุนเดสลีกา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า "จ่าฝูง" บาเยิร์น มิวนิค ถูก "เสือเหลือง" ไล่จี้มาเหลือแค่ 4 แต้ม ทำให้เกมนี้เปิดบ้านรับมือ มึนเช่นกลัดบัค ต้องเน้นไว้ก่อนเพื่อทำช่องว่างให้นำห่างเป็น 7 คะแนนเหมือนเดิม เกมนี้ ฮันส์ ดีเทอร์-ฟลิค จัดทัพด้วยการหมุนเวียนผู้เล่นบ้างส่งบรรดาดาวรุ่งลงสนามรุ่นพี่ที่ติดโทษแบนอย่าง โธมัส มุลเลอร์ และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โดยแนวรุกวาง โจชัว เซิร์กซี เป็นหน้าเป้าโดยมี แซร์จ นาบรี้, มิกกาแอล กุยซ็องซ์ และอิวาน เปริซิช สนับสนุน ทางด้าน "สิงห์หนุ่ม" ไร้ อเลสซาน เพลอา ที่ติดโทษแบนทำให้แนวรุกวาง แพทริค เฮอร์มันน์, ลาร์ส ชตินเดิล และ มาร์คุส ตูราม ครึ่งแรก เริ่มเกมไปได้แค่ 10 นาที มึนเช่นกลัดบัค ต้องเปลี่ยนตัวก่อนอย่างรวดเร็ว หลัง มาร์คุส ตูราม แนวรุกตัวเก่งมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อจนเล่นไม่ไหวทำให้ต้องส่ง บรีล เอ็มโบโล่ ลงเล่นแทน นาที 12 โอกาสส่องหนแรกของ "เสือใต้" เกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลัง อิวาน เปริซิช พักอกเข้ากลางให้ มิกกาแอล กุยซ็องซ์ วอลเลย์ด้วยซ้ายไม่จับหลุดกรอบออกไป อีก 4 นาทีถัดมา โยนาส โฮฟหมันน์ หลุดเข้าไปส่งบอลผ่านตัว นอยเออร์ เข้าไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินได้สัญญาณจากห้องควบคุม VAR ก่อนปฎิเสธไม่ให้ประตูแก่ทีมเยือนทำให้สกอร์ยัง 0-0 นาที 22 "เสือใต้" ชวดได้ประตูแบบน่าเสียดายหลัง ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาแต่บอลยังไปโดน ยาน ซอมเมอร์ เซฟออกไปอย่างเหลือเชื่อ นาที 25 ทีมเยือนชวดโอกาสขึ้นนำบ้าง คราวนี้ ลาร์ส ชตินเดิล ครอสมาเสาไกลให้ บรีล เอ็มโบโล่ โขกจ่อๆแต่ยังไปติดเซฟของ นอยเออร์ แม้บอลมาเข้าทาง เอ็มโบโล่ อีกทีแต่ดันยิงด้วยซ้ายเข้าข้างตาข่าย กลายเป็น "สิงห์หนุ่ม" มาพลาดเอง หลังนาทีต่อมา มัทธิอัส กินเทอร์ คืนบอลให้ ยาน ซอมเมอร์ แต่นายด่านกลัดบัคที่ประมาทจ่ายบอลพลาดเข้ากลาง กลายเป็นส่งให้ โจชัว เซิร์กซี วิ่งมาแปด้วยขวาแบบไม่จับเข้าไป ให้ "เสือใต้" ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 26 นาที 37 บาเยิร์น มาพลาดบ้าง หลังทีมเยือนขึ้นเกมมาทางขวา แพทริค เฮอร์มันน์ ครอสปาดมาในกรอบ 6 หลา เบนฌาแม็ง ปาวาร์ พยายามวิ่งมาเคลียร์บอลแต่กลายเป็นสกัดด้วยขวาผิดเหลี่ยมทำเข้าประตูตัวเองไป กลัดบัค ไล่ตีเสมอสำเร็จ 1-1 ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก นาที 45+1 โยชัว คิมมิช เปิดฟรีคิกมาหน้ากรอบ บอลไปโดนแนวรับทีมเยือนสกัดไปเข้าหัว อิวาน เปริซิช สอดขึ้นมาโขกย้อยไปเสาไกลแต่น้ำหนักเบาไป ยาน ซอมเมอร์ ถอยไปรับไว้ได้ทัน จบครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิค ยังเสมอกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 1-1 เริ่มครึ่งหลังมา นาที 47 กลัดบัค เกือบแซงขึ้นนำหลัง รามี เบนเซไบนี่ แบ็กซ้ายครอสแรงเข้ามาในกรอบ 6 หลา มานูเอล นอยเออร์ พุ่งออกมาตัดพลาดบอลกระฉอกเกือบจะโดนซ้ำแล้วแต่มือ 1 ทีมชาติเยอรมันยังไวใช้เท้าสกัดบอลออกไป แม้บอลจะมาเข้าทาง สเตฟาน ไลเนอร์ ซัดด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งแรงเฉียดคานออกไปแบบได้เสียว นาที 54 อีกครั้งที่ "สิงห์หนุ่ม" สวนกลับมาเร็ว บรีล เอ็มโบโล่ แทงบอลออกขวาให้ แพทริค เฮอร์มันน์ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาเสาแรกแต่บอลยังไปตรงตัว นอยเออร์ ทุบบอลออกมาได้ นาที 62 เจ้าบ้านเปลี่ยนรวดเดียวสองคนถอดเอา ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ และมิกกาแอล กุยซ็องซ์ ออกแล้วส่ง คิงส์ลี่ย์ โกมัน และอัลฟอนโซ่ เดวิส ลงเล่นแทน "เสือใต้" เปิดเกมรุกเต็มสูบ นาที 66 แซร์จ นาบรี้ ได้วอลเลย์ด้วยขวาในกรอบ บอลไปแฉลบคริสโตฟ คราเมอร์ เปลี่ยนทางเกือบเสียบเสาแรกแต่ดีที่ ยาน ซอมเมอร์ ยังไวพุ่งปัดออกหวุดหวิด ท้ายเกม นาที 86 เบนฌาแม็ง ปาวาร์ มาแก้ตัวได้สำเร็จหลังหลุดขึ้นมาทางขวาก่อนปาดไปเสาแรกให้ เลออน โกเร็ทซ์ก้า วิ่งมายิงเปลี่ยนทางบอลเข้าประตูไป ให้ บาเยิร์น ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม บาเยิร์น มิวนิค บดเอาชนะ มึนเช่นกลัดบัค แบบหวุดหวิด 2-1 คว้าสามแต้มสำคัญ ทำให้มีเพิ่มเป็น 73 คะแนนหนีอันดับสองอย่าง ดอร์ทมุนด์ 7 แต้มเหมือนเดิม และถ้าวันอังคารที่ 16 ที่จะถึงคว้าชัยได้จะส่งผลให้ "เสือใต้" ป้องกันแชมป์ลีกซีซั่นนี้ทันที รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม บาเยิร์น มิวนิค (4-2-1-3) : มานูเอล นอยเออร์ - เบนฌาแม็ง ปาวาร์, เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ (อัลฟอนโซ่ เดวิส น.62) - โยชัว คิมมิช, เลออน โกเร็ทซ์ก้า - แซร์จ นาบรี้, มิกกาแอล กุยซ็องซ์ (คิงส์ลี่ย์ โกมัน น.62), อิวาน เปริซิช (ฆาบี มาร์ติเนซ น.88) - โจชัว เซิร์กซี (ควาซี อ็อคเยเร รีดท์ น.77) เทรนเนอร์ : ฮันส์ ดีเทอร์-ฟลิค มึนเช่นกลัดบัค (4-3-3) : ยาน ซอมเมอร์ - สเตฟาน ไลเนอร์, นิโค่ เอลเวดี้ (โทนี่ ยันท์ชเค้ น.46), มัทธิอัส กินเทอร์, รามี เบนเซไบนี่ - โฟลเรียน นอยเฮาส์, คริสโตฟ คราเมอร์, โยนาส โฮฟหมันน์ - แพทริค เฮอร์มันน์ (ออสการ์ เว้นดท์ น.70) , ลาร์ส ชตินเดิล, มาร์คุส ตูราม (บรีล เอ็มโบโล่ น.10 (ลาสซ์โล่ เบเนส น.88) เทรนเนอร์ : มาร์คุส โรเซ่ |
|