"ห้างขายยา" ตีตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ หลังบุกไปอัด ซาร์บรุ๊คเค่น ทีมระดับ เรกิโอนาลลีกา แบบไม่ยาก 3-0 โดยจะเข้าไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 2 ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ รอพบผู้ชนะระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค หรือไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ในศึกเดเอฟเบ โพคาล รอบรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันอังคารที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา

สนาม : แฮร์มันน์ นอยแบร์เกออร์ สตาดิโอน

ศึกเดเอฟเบ โพคาล รอบรองชนะเลิศ 2019-20 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าบ้าน ซาร์บรุ๊คเค่น ทีมจากนอกลีก เรกิโอนาลลีกา ซึ่งหักปากกาเซียนพร้อมสร้างประวัติศาสตร์ เดเอฟเบ ที่เป็นทีมนอกลีกทีมแรก ที่เข้ามาเล่นในรอบรองชนะเลิศ โดยพบ เลเวอร์คูเซ่น ทีมจากบุนเดสลีกา

โดยเจ้าบ้านฝากความหวังการพังตาข่ายไว้ที่ สตีเว่น เซลเนอร์ และเซบาสเตียน ยาค็อบ คู่หัวหอก ส่วนทีมเยือน "ห้างขายยา" ไร้ ไค ฮาแวร์ทซ์ ดาวยิงตัวเก่งที่บาดเจ็บ แนวรุกส่ง ฟลอเรียน เวิร์ทซ, เปาลินโญ่, มุสซ่า ดิยาบี้ และให้ ลูคัส อลารีโอ ยืนหน้าเป้า

เริ่มเกมครึ่งแรก ทัพห้างยาเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า นาทีที่ 6 ได้ลุ้นจากจังหวะยิงนอกกรอบของ เคเร็ม เดมีร์บาย แต่บอลไปแฉลบ สตีเว่น เซลเนอร์ ออกหลังเป็นเตะมุม

นาที 11 เลเวอร์คูเซ่น มาได้ประตูออกนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ เคเร็ม เดมีร์บาย ตักบอลข้ามหัวแนวรับเจ้าถิ่นให้ มุสซ่า ดิยาบี้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปวอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่จับ บอลลอดขา ดาเนียล บาท์ซ เข้าไปอย่างสวยงาม

นาที 17 ห้างยา ชวดโอกาสได้เม็ดที่สองอย่างน่าเสียดาย หลัง เปาลินโญ่ จ่ายบอลให้ ชาร์ลซ์ อารานกีซ ล็อกหนีแนวรับเจ้าถิ่นอย่างเหนือชั้น แต่จังหวะซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟของ ดาเนี่ยล บาท์ซ

กระนั้น อีก 2 นาทีถัดมา เลเวอร์คูเซ่น มาได้ประตูนำห่างออกไป 2-0 บอลจาก เคเร็ม เดมีร์บาย ครอสไปในกรอบ 6 หลา ดาเนียล บาท์ซ นายด่านเจ้าถิ่นชกบอลไม่พ้นมาเข้าทาง ลูคัส อลารีโอ วอลเลย์ด้วยซ้ายเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างเด็ดขาด

นาที 21 เจ้าบ้านได้โอกาสส่องเข้ากรอบหนแรก หลัง ทิม กอลลี่ย์ ไหลบอลให้ สตีเว่น เซลเนอร์ ซัดนอกกรอบแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ ลูคัส ราเดชกี้

นาที 36 มุสซ่า ดิยาบี้ ใช้ความเร็ววิ่งไปเก็บบอลก่อนจะฝากเข้ากลางให้ เปาลินโญ่ ตั้งป้อมซัดไกลกว่า 25 หลาแต่บอลเลียดไปตรงตัวนายด่าน ซาร์บรุ๊คเค่น อีกนาทีต่อมา ดิยาบี้ ครอสไปเสาสองให้ เคเร็ม เดมีร์บาย เทกตัวขึ้นโขกแต่ก็ยังไปตรงตัว ดาเนียล บาท์ซ รับไว้ได้อีก

จบครึ่งแรก ซาร์บรุ๊คเค่น ตามหลัง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 0-2

ครึ่งหลัง ปีเตอร์ บอสซ์ นายใหญ่ของ "ห้างขายยา" เปลี่ยนรวดเดียวสองคนถอดเอา ฟลอเรียน เวิร์ทซ และเอ็ดมอนด์ แทปโซบา ออก แล้วส่ง คาริม เบลลาราบี้ กับ โจนาธาน ทาห์ ลงเล่นแทน

นาที 47 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นตีไข่แตก หลัง ฟาโนล เพอร์เดดาจ์ ครอสบอลเข้ามาโดน เซบาสเตียน ยาค็อบ บอลเปลี่ยนทางเกือบเสียบเสาแรกแต่ดีที่ ลูคัส ราเดชกี้ สมาธิดีพุ่งรับบอลไว้ได้

นาที 58 เลเวอร์คูเซ่น มาพังประตูนำโด่งเป็น 3-0 จากจังหวะที่ ดิยาบี้ โซโล่เดี่ยวเลี้ยงเข้าไปติดแนวรับเจ้าถิ่น แต่บอลยังมาเข้าทาง เคเร็ม เดมีร์บาย ยกบอลหลบอย่างเหนือชั้น ก่อนตบจากเส้นหลังเข้ากลางมาให้ คาริม เบลลาราบี้ แปด้วยขวาเข้าไป

นาที 67 ซาร์บรุ๊คเค่น นานๆจะมีโอกาสโต้กลับ แต่ก็เกือบได้ลุ้นตีไข่แตก หลัง ฟาโนล เพอร์เดดาจ์ ครอสเข้าไปในกรอบ 10 หลาให้ ทิม กอลลี่ย์ วิ่งมายิงด้วยขวาแต่บอลยังไปตรงตัว ลูคัส ราเดชกี้

นาที 72 เควิน โฟลันด์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาพาบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนแตะบอลให้ เปาลินโญ่ วิ่งมาอัดด้วยขวา แต่บอลเหินข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น

เปาลินโญ่ ที่วันนี้มีโอกาสเยอะมาก มีลุ้นอีกครั้งในนาที 76 หลัง เควิน โฟลันด์ ไหลถวายพานเข้าไปในกรอบแต่ห้องเครื่องชาวบราซิเลี่ยนดันยิงไม่คมเองไปติด ดาเนียล บาท์ซ ออกหลังไป

นาที 79 ดาเนียล บาท์ซ นายด่านเจ้าถิ่นเกือบทำพลาดหลังเตะบอลไปดี เปาลินโญ่ เก็บบอลได้แล้วแทงเร็วให้ คาริม เบลลาราบี้ หลุดไปทางขวาก่อนจะดึงหลบแล้วตะบันด้วยขวาเสาแรก บอลพุ่งไปตรงตัว บาท์ซ จนต้องทุบออกไป

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม เลเวอร์คูเซ่น บุกไปคว้าชัยเหนือ ซาร์บรุ๊คเค่น 3-0 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ เป็นหนแรกในรอบ 11 ปี โดยจะเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่างแชมป์เก่า บาเยิร์น มิวนิค หรือไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ในวันที่ 4 กรกฎาคม เดือนหน้า

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ซาร์บรุ๊คเค่น (4-4-2) : ดาเนียล บาท์ซ - แอนโธนี่ บาริลล่า, คริสโตเฟอร์ ชอร์ช (ราซิม บูลิช น.87), โบเน่ อาเฟอร์โร่, มาริโอ มึลเลอร์ (มาร์คุส เมนด์เลอร์ น.68) - ทิม กอลลี่ย์, ฟาโนล เพอร์เดดาจ์ (เจย์สัน เบรเท่นบัค น.69), มานูเอล ไซท์ซ, โทเบียส ยานิชเค่ (เคียนซ์ โฟรเซ่ น.46) - สตีเว่น เซลเนอร์, เซบาสเตียน ยาค็อบ (ฟาเบียน เอเซล น.78)

เทรนเนอร์ : ลูคัส ควาสเนี๊ยค

เลเวอร์คูเซ่น (4-2-3-1) : ลูคัส ราเดชกี้ - มิทเชลล์ ไวเซอร์, เอ็ดมอนด์ แทปโซบา (โจนาธาน ทาห์ น.46), สเวน เบนเดอร์ (อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช น.62), เวนเดลล์ - ชาร์ลซ์ อารานกีซ (เอเซเกล ปาลาซิออส น.70), เคเร็ม เดมีร์บาย - ฟลอเรียน เวิร์ทซ (คาริม เบลลาราบี้ น.46), เปาลินโญ่, มุสซ่า ดิยาบี้ (เควิน โฟลันด์ น.62) - ลูคัส อลารีโอ

เทรนเนอร์ : ปีเตอร์ บอสซ์

www.siamsport.co.th