7
มิ.ย.
มุลเลอร์จ่าย2-เลวานโขกปิด! บาเยิร์นไม่มีแผ่วรัวแซงเลเวอร์ ทิ้งรองฝูง10แต้ม

d4b2e2a4bc58ad8bf5b23df6def5cdbe.jpg

แม้เกมนี้จะถูกขึ้นนำไปก่อน แต่ บาเยิร์น มิวนิค ยังโชว์สมราคาพลิกกลับมาเอาชนะ เลเวอร์คูเซ่น 4-2 โดยเกมนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำประตูที่ 44 ได้ในฤดูกาลนี้ พร้อมทำให้ทัพ "เสือใต้" มีแต้มทิ้งห่าง ดอร์ทมุนด์ รองจ่าฝูง 10 แต้มแต่แข่งมากกว่า 1 นัดจ่อแชมป์เต็มที ในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน ประจำวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2563 ที่สนาม ไบ อารีน่า ระหว่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมอันดับ 5 ของตาราง พบ บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูง

เกมนี้ ทัพ ''ห้างขายยา'' ของเทรนเนอร์ ปีเตอร์ บอสช์ มีข่าวร้ายเมื่อหมดสิทธิ์ใช้งาน ไค ฮาแวร์ทซ์ มิดฟิลด์ตัวเก่งที่มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อก่อนเกม ทำให้ ลูคัส อลาริโอ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแทนแล้วดัน มุสซ่า ดิยาบี้ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า ประสานงานร่วมกับ นาเดียม อามิรี่ ที่จะประจำการทางฝั่งขวา

ขณะที่ บาเยิร์น มิวนิคภายใต้การคุมทีมของ ฮันส์ ดีเตอร์-ฟลิค เกมนี้ไม่มีปัญหาในการจัดทัพส่งตัวรุกลงเต็มสูบทั้ง คิงส์เล่ย์ โกมัน, โธมัส มุลเลอร์, แซร์จ นาบรี้ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ลงล่าตาข่าย

ครึ่งแรกเกมดำเนินมาถึง นาทีที่ 10 เลเวอร์ฯ เป็นฝ่ายพลิกได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 เมื่อ ยูเลี่ยน เบาม์การ์ทลิงเกอร์ จ่ายทะลุช่องให้ ลูคัส อลาริโอ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ ตุงตาข่าย ผู้ช่วยยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน แต่ผู้ตัดสินเช็กสัญญาณวีเออาร์กลับคำตัดสินให้เป็นประตู

เกมเปิดหน้าแลกกันสนุก นาที 15 บาเยิร์นฯ ได้โอกาสลุ้นครั้งแรกจากจังหวะเตะมุมแล้วเป็น เลออน โกเร็ทซ์ก้า ได้ขึ้นโขกแต่บอลตรงตัว ลูคัส ราเดชกี้ รับเข้าซองสบาย

หลังจากนั้นทัพ "เสือใต้" เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้เปิดเกมบุกเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียว และมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะตัดเกมแดนกลางสนามของ เลออน โกเร็ทซ์ก้า ก่อนจะจ่ายทะลุช่องให้ คิงส์เล่ย์ โกมัน หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านมือ ลูคัส ราเดชกี้ เป็นประตู

นาที 39 ดาวิด อลาบา เปิดให้ โธมัส มุลเลอร์ พักอกหนึ่งจังหวะก่อนจะหวดด้วยขวาได้เขตโทษบอลหลุดเสาไกลออกไป

จนกระทั่ง นาที 42 บาเยิร์น ได้ประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 จนได้ เลออน โกเร็ทซ์ก้า กระชากเข้าเขตโทษแล้วซัดเรียดด้วยซ้ายบอลเสียบมุมเสาไกลเข้าไปอย่างเหนือชั้น

นาที 44 ทีมเยือนพลาดได้ลูกสามเมื่อ แซร์จ นาบรี้ หลุดเดี่ยวแต่ยิงไปติดเซฟของ ลูคัส ราเดชกี้ แต่ถึงกระนั้นช่วงทดเจ็บ 45+1 โจชัว คิมมิช เปิดยาวให้ นาบรี้ วิ่งมากระดกบอลข้ามตัว ราเดชกี้ เข้าประตูไป ให้ บาเยิร์น นำห่าง 3-1 ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเปิดฉากมา บาเยิร์น โหมเข้าใส่ทันที และได้ทักทายก่อน นาที 50 คิงส์เล่ย์ โกมัน ไหลย้อนมาให้ โธมัส มุลเลอร์ บริเวณหัวกระโหลกวิ่งมาแปตามน้ำบอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว

หลังจากนั้น บาเยิร์น ยังเดินหน้าล่าประตูต่อเนื่อง นาที 66 โธมัส มุลเลอร์ เปิดจากกราบขวาให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ขึ้นโหม่งเหน่งๆไม่เหลือให้ บาเยิร์น หนีเป็น 4-1

อย่างไรก็ตามช่วงท้ายเกม นาที 89 เจ้าถิ่นมีฮึดได้ประตูไล่มาเป็น 2-4 ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ เจ้าหนูวัย 17 ตัวสำรอง ล็อกเข้าซ้ายแล้วปั่นเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม บาเยิร์น มิวนิค บุกถล่ม เลเวอร์คูเซ่น 4-2 เก็บชัย 9 นัดรวดในลีก ส่วนทีม "ห้างยา" ยังรั้งที่ 5 มีลุ้นโควต้าลุยชปล.ต่อไป

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เลเวอร์คูเซ่น (3-4-3) : ลูคัส ราเดชกี้ - อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช, เอ็ดมอนด์ แทปโซบา, สเวน เบนเดอร์, ดาเนี่ยล ซิงกราเฟ่น - ชาร์ลซ์ อารานกีซ, ยูเลี่ยน เบาม์การ์ทลิงเกอร์ (เปาลินโญ่ น.62), เลออน ไบลีย์ (คาเร็ม เดเมียร์บาย น.46), คาริม เบลลาราบี้ (ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ น.46) - นาเดียม อามิรี่ (เวนเดล น.46), ลูคัส อลาริโอ, มุสซ่า ดิยาบี้

เทรนเนอร์ : ปีเตอร์ บอสช์

บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - เบนฌาแม็ง ปาวาร์, เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ่ เดวิส (ลูก้าส์ แอร์กนองเดซ น.85) - โยชัว คิมมิช, เลออน โกเร็ทซ์ก้า (ฆาบี มาร์ติเนซ น.74) - คิงส์เล่ย์ โกมัน (อิวาน เปริซิช น.67), โธมัส มุลเลอร์, แซร์จ นาบรี้ (ติอาโก้ อัลคันทาร่า น.74) - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

เทรนเนอร์ : ฮันส์ ดีเตอร์-ฟลิค

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.