บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังโชว์สกิลสุดเจ๋งหลังแอสซิสต์อย่างงามให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ซัดประตูขึ้นนำก่อน สกอตต์ แม็คโทมิเน่ย์จะยิงทดเจ็บช่วยให้ "ปีศาจแดง" คว้าชัยเหนือ "เรือใบสีฟ้า" 2-0 ยึดอันดับ 5 มาครองได้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อ ลิเวอร์พูล ในการฉลองแชมป์เร็วขึ้นไปอีกเกม ในศึกพรีเมียร์ลีก ดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เจ้าถิ่น "ปีศาจแดง" ฟอร์มแจ่มแจ๋วมากไม่แพ้ทีมใดมา 9 เกมติดทุกรายการ แมตช์ล่าสุดในลีกบุกไปเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 1-1 เกมนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มาในระบบ 3-4-1-2 แดเนียล เจมส์ เล่นหน้าคู่กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล โดยมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส รับบทเพลย์เมกเกอร์หน้าต่ำ ขณะที่ โอเดียน อิกาโล่ มีชื่อเป็นตัวสำรอง

ส่วนทางฝั่ง "เรือใบสีฟ้า" ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ชนะรวดมา 5 เกมติดทุกรายการ เกมล่าสุดในลีกบุกไปคว้าชัยเหนือ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ซึ่งเกมนี้มาในระบบ 4-3-3 ข่าวร้ายคือ เควิน เดอ บรอยน์ ไม่ผ่านความฟิตไร้ก็ทั่งชื่อสำรอง แนวรุกสามประสานวาง ฟิล โฟเด้น, เซร์คิโอ อเกวโร่ และราฮีม สเตอร์ลิง

แค่ 10 นาทีแรก แมนฯซิตี้ เกือบมาบุกขึ้นนำไปก่อน ฟิล โฟเด้น จ่ายมาเสาไกลให้ ราฮีม สเตอร์ลิง พักด้วยหน้าขาก่อนจะปั่นด้วยขวาไปเสาสองแต่ ดาบิด เด เคอา ยังไวปัดออกไปได้ทัน

นาที 16 "ปีศาจแดง" มีลุ้นขึ้นนำบ้างจากจังหวะสวนกลับ เฟร็ด จ่ายให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แทงเร็วให้ แดเนียล เจมส์ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวามุมแคบแต่บอลยังไปตรงตัว เอแดร์ซอน

เจ้าบ้านเริ่มตั้งเกมได้มีโอกาสอีกครั้งในนาที 22 จาก มาร์กซิยาล ดูดบอลลงอย่างเนียนแต่ยิงไปติด โอตาเมนดี้ ถัดมาอีกนาที เจมส์ เรียกฟรีคิกได้หน้ากรอบ แต่บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซัดไปติดกำแพงของทีมเยือน

นาที 27 ผีแดงพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย หลัง มาร์กซิยาล หนีประกบจาก แฟร์นานดินโญ่ หลุดเข้าไปในกรอบทว่าดาวยิงชาวฝรั่งเศสดันเลือกไม่จ่ายให้ บรูโน่ กลับเลือกยิงเองและไปตรงตัว เอแดร์ซอน

กระนั้น นาทีที่ 30 แฟนเจ้าถิ่นเฮกันลั่น หลังได้ฟรีคิกอีกครั้งคราวนี้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส โชว์สกิลงัดบอลข้ามกำแพงให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หลุดเข้าไปวอลเลย์ด้วยขวาเสาแรกแบบไม่จับ บอลติดมือ เอแดร์ซอน ก่อนปลิ้นเข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อน 1-0

ครึ่งหลัง นาที 48 ราอีม สเตอร์ลิง แทงบอลให้ กุน อเกวโร่ หลุดเข้าไปซัดบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินหลังได้รับการเช็กจาก วีเออาร์ ปฎิเสธไม่ให้ประตูแก่ทีมเยือน

จากนั้นอีกนาทีถัดมา เอแดร์ซอน นายด่านของเรือใบเกือบทำให้ทีมเสียประตูที่สอง หลังจับบอลพลาด อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล พยายามพุ่งเข้ายิงระยะไม่ถึง 5 หลา แต่นายด่านชาวบราซิเลี่ยนยังแก้ตัววิ่งไปสไลด์ตัดบอลทิ้งไป

นาที 56 ซิตี้ได้ลุ้นทวงประตูคืนบ้าง จากจังหวะที่ ฟิล โฟเด้น เก็บบอลจากแถวสองได้ก่อนตะบันด้วยซ้ายนอกกรอบ บอลพุ่งเกือบมุดใต้คานแต่ เด เคอา ยังไวบินปัดข้ามคานออกไป

ผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แก้เกมด้วยการเปลี่ยนรวดเดียวสองราย ถอดเอา แบร์นาร์โด้ ซิลวา และเซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ออก แล้วส่ง ริยาด มาห์เรซ และกาเบรียล เชซุส ลงเล่นแทน

นาที 70 เกมสวนกลับของ แมนฯยูไนเต็ด เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สอง หลัง อารอน วาน-บิสซาก้า ทิ้งบอลยาวมาหน้าให้ แดเนียล เจมส์ สปีดไปรับบอลก่อนควบตัดเข้ากลางโยกหลบ โอตาเมนดี้ ก่อนตัดสินใจอัดด้วยขวามุมแคบไปติดเซฟของเอแดร์ซอน

ทัพเรือใบไม่ท้อลุยหนัก นาที 75 เกือบได้ลูกตีเสมอจากจังหวะเก็บบอลในกรอบของ กาเบรียล เชซุส หวดด้วยขวาเน้นๆเสาแรกแต่ ดาบิด เด เคอา ยังเหนียวเซฟไว้ได้อีก

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+6 เอแดร์ซอน ออกบอลพลาดโดน สกอตต์ แม็คโทมิเน่ย์ ตัดบอลได้ก่อนยิงสวนกว่า 35 หลาส่งบอลซุกตาข่าย เป็นประตูปิดกล่องให้ "ปีศาจแดง" ที่ปิดจ็อบคว้าชัยเหนือ แมนฯซิตี้ 2-0 คว้าสามแต้มขึ้นไปรั้งอันดับ 5

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-2-1) : ดาบิด เด เคอา - วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ - อารอน วาน-บิสซาก้า, เฟร็ด, เนมานย่า มาติช, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ (เอริก ไบยี่ น.78) - บรูโน่ แฟร์นันด์ส (โอเดียน อิ๊กกาโล่ น.87) - แดเนียล เจมส์, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (สกอตต์ แม็คโมมิเนย์ น.77)
ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ชูเอา กานเซโล่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, แฟร์นานดินโญ่, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (เบนฌาแม็ง เมนดี้ น.77) - แบร์นาร์โด้ ซิลวา (ริยาด มาห์เรซ น.60), โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน - ฟิล โฟเด้น, เซร์คิโอ อเกวโร่ (กาเบรียล เชซุส น.59) , ราฮีม สเตอร์ลิง

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

www.siamsport.co.th