|
7
มี.ค. ลิเวอร์พูลเลิกฝืดรัวแซงบอร์นมัธหืด ขออีก9แต้มซิวแชมป์
ลิเวอร์พูล กลับมาเก็บชัยนัดแรกในรอบ 3 เกมทุกรายการหลังรัวแซง บอร์นมัธ เอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-1 จากประตูของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ พาทีมเก็บ 3 แต้มพร้อมขยับหนี แมนฯ ซิตี้ รองฝูง 25 แต้มชั่วคราว และขอเก็บอีกเพียง 9 คะแนนจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ทันที ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรกประจำวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม 2563 ที่สนามแอนฟิลด์ เป็นการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล จ่าฝูง พบ บอร์นมัธ ทีมอันดับ 18 ของตารางที่กำลังดิ้นรนหนีตกชั้น เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล มีปัญหาการจัดทัพพอสมควรเมื่อไร้แข้งตัวหลักอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อลีสซง เบ็คเกอร์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่มีอาการบาดเจ็บ ด้าน บอร์นมัธ อดใช้งาน แฮร์รี่ วิลสัน ปีกที่ยืมไปจากลิเวอร์พูล ทำให้ จูเนียร์ สตานิสลาส ลงช่วยแนวรุกแทน โจชัว คิง ที่มีอาการบาดเจ็บ ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เปิดฉากบุกใส่ทันที แต่กลายเป็น บอร์นมัธ ที่ใช้โอกาสสวนกลับเร็ว ฟิลิปป์ บิลลิ่ง จ่ายให้ เจฟเฟร์ซอน เลร์มา กระชากมาถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจ่ายเรียดเข้ากลางให้ คัลลั่ม วิลสัน ได้ชาร์จจ่อๆระยะเผาขนเข้าไปไม่เหลือส่ง บอร์นมัธ พลิกขึ้นนำก่อน 1-0 ใน น.9 หลังจากนั้นยังเป็นโอกาสลุ้นของทีมเยือนจากจังหวะเตะมุม ใน น.14 นาธาน อาเก้ ได้ขึ้นโขกเหน่งๆแต่ อาเดรียน โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกไปได้หวุดหวิด เกมเปิดหน้าแลกกันสนุก ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นตีเสมอ น.17 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จ่ายทะลุ่องให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หลุดไปซัดในเขตโทษ แอรอน แรมส์เดล พุ่งปัดไว้ได้ น.19 บอร์นมัธ ต้องใช้โควต้าเปลี่ยนตัวคนแรกหลังจาก สตีฟ คุ้ก มีอาการเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวแล้วเป็น แจ็ค ซิมพ์สัน ลงมาเล่นแทน อย่างไรก็ตาม น.25 "หงส์แดง" ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะความผิดพลาดของ แจ็ค ซิมพ์สัน ตัวสำรอง พยายามเลี้ยงหลบ ซาดิโอ มาเน่ หน้าเขตโทษแต่โดนฉกบอลได้ ก่อนที่ดาวยิงเซเนกัลจะไหลบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จับก่อนหนึ่งจังหวะแล้วยิงหักข้อด้วยซ้ายบอลเบียดเสาเข้าไปอย่างเหนือชั้น พอได้ประตูตีเสมอเจ้าถิ่นโหมบุกใส่เป็นพายุ และมาได้ประตูแซงนำ 2-1 เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เติมขึ้นมาจ่ายจากบริเวณกลางสนามให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านมือ แรมส์เดล เข้าประตูไป ใน น.33 ช่วงที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำอยู่ 2-1 ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึง น.60 บอร์นมัธ ชวดได้ประตูตีเสมอแบบเหลือเชื่อจากจังหวะกระดกบอลข้าม อาเดรียน ของ ไรอัน เฟรเซอร์ บอลกำลังจะข้ามเส้นอยู่แล้ว แต่ เจมส์ มิลเนอร์ วิ่งตามมาสกัดออกไปได้แบบหวุดหวิด น.66 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นนำลูกสามจากจังหวะเตะมุมของ อาร์โนลด์ แล้วเป็น ฟาน ไดค์ ได้ขึ้นโขกแต่บอลยังไปตรงตัว แรมส์เดล รับเข้าซอง หลังจากนั้นยังเป็นลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ครองเกมเหนือกว่าชัดเจน น.77 ซาลาห์ ได้ลุ้นประตูที่สองของตัวเอง หลังพยายามหลอกยิงที่เสาแรก แต่ แรมส์เดล พุ่งปัดออกหลังไปได้ เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ บอร์นมัธ 2-1 รายชื่อนักเตะทั้งสอง ลิเวอร์พูล : อาเดรียน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, เจมส์ มิลเนอร์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ บอร์นมัธ : แอรอน แรมส์เดล, แจ็ค สเตซี่ย์, สตีฟ คุ้ก, นาธาน อาเก้, อดัม สมิธ, ฟิลิป บิลลิ่ง, เจฟเฟอร์สัน เลร์มา, ลูอิส คุ้ก, จูเนียร์ สตานิสลาส, คัลลั่ม วิลสัน, ไรอัน เฟรเซอร์ |
|