"เรือใบสีฟ้า" ป้องกันแชมป์ คาราบาว คัพ ได้สำเร็จ หลังหวดเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นับเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ 3 ปีติดต่อกัน (2018, 2019 และ2020) และเป็นสมัยที่ 7 ของสโมสร โดยมี ยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว นักร้องเพื่อชีวิตชื่อดังของไทยขึ้นมอบเหรียญรางวัลและถ้วยแชมป์

สนาม : เวมบลีย์

ศึกคาราบาว คัพ 2019-20 นัดชิงชนะเลิศ แอสตัน วิลล่า ที่ดับความหวัง เลสเตอร์ ซิตี้ เข้ามาชิงดำด้วยสกอร์รวม 3-2 ผ่านเข้ามาพบกับแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่รอบตัดเชือกผ่านคู่ปรับร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยประตูรวม2นัด 3-2

เกมนี้ ดีน สมิธ กุนซือของ "สิงห์ผงาด" วาง เอ็มบ์วาน่า ซามัตต้า หน้าเป้าโดยมี แจ็ค กรีลิช ปั้นเกมรุกร่วมกับ อันวาร์ เอล กาซี่

ออกสตาร์ทมาแค่ 3 นาทีแรก แอสตัน วิลล่า เกือบได้เฮก่อนเมื่อ อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้ เปิดบอลมาในกรอบให้ อันวาร์ เอล กาซี่ เทกตัวขึ้นโขกเดี่ยวบอลพุ่งเฉียดคานออกไปนิดเดียว

จากนั้นลูกทีมของ เป๊ป ครองบอลได้ชัดเจนกว่า นาทีที่ 10 เกือบชิงขึ้นนำเช่นกัน อิลคาย กุนโดกัน ครอสบอลด้วยขวาข้างถนัดเข้ามาในเขตโทษ "กุน" อเกวโร่ ถึงบอลก่อนแต่โขกเหินคานออกไป

หลังขึงเกมรุกอยู่นาน นาที 21 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 ราฮีม สเตอร์ลิง ผ่านบอลเข้ากลางให้ โรดรี้ ตักบอลลึกข้ามแนวรับถึง ฟิล โฟเด้น โขกย้อนมาเสาแรกให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' เอี้ยวตัววอลเลย์ไปแฉลบ ไทโรน มิงก์ส เข้าไป

นาที 24 วิลล่าโต้ขึ้นมาแล้วได้ส่องเข้ากรอบเป็นหนแรก แจ็ค กรีลิช จ่ายขึ้นหน้าต่อให้ อัลวาร์ เอล กาซี่ หวดด้วยขวาบนเส้น 18 หลาบอลพุ่งแต่ยังไปเข้าซอง เคลาดิโอ บราโว่

อีกสองนาทีถัดมา ทัพเรือใบเกือบได้เฮเม็ดที่สอง ซินเชนโก้ ขวางบอลยาวจากซ้ายไปขวาให้ ฟิล โฟเด้น จับบอลลงด้วยซ้ายสุดเนียนก่อนแต่งจังหวะตะบันด้วยซ้ายไปแฉลบ แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ เฉียดเสาไกลออกไปหวุดหวิด

นาทีที่ 30 กุนโดกัน ครอสบอลไปติด แจ็ค กรีลิช ก่อนมาโดนห้องเครื่องชาวเยอรมันอีกที ทว่าไลน์แมนกลับชี้ไปมุมธงเป็นลูกเตะมุม ก่อนที่ กุนโดกัน จะเปิดมาที่จุดนัดพบกลางประตูให้ โรดรี้ ที่โฉบมาโขกเน้นๆกดบอลตกพื้นสวนตัว ออร์ยาน นีลันด์ เข้าไป แมนฯซิตี้ นำห่าง 2-0

ลูกทีมของเป๊ปยังไม่ผ่อนเกมรุกดาหน้าไล่ถล่ม นาที 35 เกือบได้เม็ดที่สาม หลัง ราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งมาตะบันด้วยขวาเน้นๆบอลพุ่งไปติด ไทโรน มิงก์ส ช่วยบล็อคให้วิลล่าไม่เสียประตู

ทว่าในนาที 41 แฟนสิงห์ผงาดมาได้เฮกันบ้าง หลัง จอห์น สโตนส์ เซ็นเตอร์แบ็กของซิตี้เสียหลักขึ้นโขกบอลพลาดไปชงให้ อันวาร์ เอล กาซี่ หลุดเข้าไปครอสบอลมาเสาแรกให้ เอ็มบ์วาน่า ซามัตต้า พุ่งโขกเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงามช่วยให้ แอสตัน วิลล่า คืนสู่เกมไล่ แมนฯซิตี้ มาเป็น 1-2 ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 52 แชมป์เก่าได้ลุ้นฟรีคิกทางด้านขวา อิลคาย กุนโดกัน เปิดไปเสาไกลโดน ไทโรน มิงก์ส เคลียร์ทิ้งออกมา บอลมาเข้าทาง ฟิล โฟเด้น วิ่งมาวอลเลย์กดพื้นบอลพุ่งเฉียดเสาสอง

เกมเริ่มเดือดขึ้น นาที 57 ราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งไปเอาคืนกระแทกใส่ เฟรเดริก ชิลแบร์ จนอดีตแข้งหงส์แดงได้รับใบเหลือง

นาที 72 มาร์เวลัส นากัมบา เข้าเสียบ เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน' อย่างน่าเกลียด ลี เมสัน ผู้ตัดสินวิ่งมาแจกใบเหลือง จนแข้ง "เรือใบ" ไม่พอใจกับจังหวะดังกล่าว

อีกสองนาทีต่อมา โรดรี้ เกือบพังประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ หลัง แมนฯซิตี้ ได้เตะมุม เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลมาเข้าหัว โรดรี้ โขกเน้นๆแต่ยังไปติดเซฟของ นีลันด์

นาที 80 แมนฯซิตี้พลาดลูกที่สามอย่างน่าเสียดาย หลัง แบร์นาร์โด้ ซิลวา กระชากบอลถึงเส้นหลังก่อนโยนมาเสาไกลให้ กุน อเกวโร่ ล้มตัววอลเลย์ถากเสาออกไปหวุดหวิด

นาที 88 วิลล่าเกือบได้ลูกตีเสมอหลัง คอเนอร์ ฮูริเฮน เปิดเตะมุมมาให้ บียอร์น เอ็นเกลส์ เทกโขกเต็มแรงบอลไปโดน เคลาดิโอ บราโว่ เซฟก่อนพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

นาทีสุดท้าย ทัพเรือใบสีฟ้าสวนกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว บอลมาถึง แบร์นาร์โด้ ซิลวา หลุดเข้าไปอัดด้วยซ้ายแต่ยังดีที่ ออร์ยาน นีลันด์ นายด่านวิลล่าพุ่งออกมาบล็อคบอลไว้ได้ทัน

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าชัยเหนือ แอสตัน วิลล่า 2-1 ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ และเป็นการคว้าแชมป์ 3 ปีติดต่อกัน (2018, 2019 และ2020) และเป็นสมัยที่ 7 ของสโมสร อีกทั้งยังซิวแชมป์รายการนี้ถึง 5 สมัยในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แอสตัน วิลล่า (3-4-2-1) : ออร์ยาน นีลันด์ - เฟรเดริก ชิลแบร์, บียอร์น เอ็นเกลส์, ไทโรน มิงก์ส, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ - ดั๊กลาส ลุยซ์, มาร์เวลัส นากัมบา - อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้ (มาห์มูด ฮัสซัน "เทรเซเกต์" น.70), แจ็ค กรีลิช, อันวาร์ เอล กาซี่ (คอเนอร์ ฮูริเฮน น.70) - เอ็มบ์วาน่า ซามัตต้า (เคนาน เดวิส น.80)

ผู้จัดการทีม : ดีน สมิธ

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เคลาดิโอ บราโว่ - ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, จอห์น สโตนส์, อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - ดาบิด ซิลบา (แบร์นาร์โด้ ซิลวา น.77), โรดรี เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน (เควิน เดอ บรอยน์ น.58) - ฟิล โฟเด้น, เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' (กาเบรียล เชซุส น.84), ราฮีม สเตอร์ลิง

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

www.siamsport.co.th