27
ก.พ.
เดอ บรอยน์ซัดชัยพาแมนซิตี้บุกทุบเรอัลมาดริด10คนท้ายเกม


เรอัล มาดริด แม้จะได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก อีสโก้ ทว่ามาเสียสองประตูในช่วง 5 นาทีให้ "เรือใบสีฟ้า" จาก กาเบียล เชซุส และจุดโทษของ เควิน เดอ บรอยน์ ส่งผลให้ แมนฯซิตี้ บุกคว้าชัย 2-1 โดยเกมนี้ "ราชันชุดขาว" ต้องเหลือแค่ 10 คนช่วงท้ายเกมหลัง เซร์คิโอ รามอส โดนใบแดงไล่ออก ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา เรอัล มาดริด แชมป์รายการนี้ 13 สมัย เปิด ซานติอาโก้ เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ซีเนดีน ซีดาน เกมนี้ไร้ เอแด็น อาซาร์ ที่บาดเจ็บยาว ส่งสามแนวรุกอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์, คาริม เบนเซม่า และอีสโก้ ส่วนทางฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แมตช์นี้จัดสามแนวรุกเช่นกันส่งทั้ง ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส และแบร์นาร์โด้ ซิลวา โดยมี เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' เป็นสำรองข้างสนาม

ช่วง 15 นาทีแรก ทั้งสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวัง นาที 16 "ราชันชุดขาว" ได้ลุ้นขึ้นนำจากจังหวะเก็บบอลแถวสองของ ราฟาแอล วาราน หวดด้วยซ้ายหน้าหัวกระโหลก ทว่าบอลพุ่งเหินคานออกไปไกล

นาที 20 ลูกทีมของ เป๊ป เกือบทำช็อกเจ้าถิ่น หลังเควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลตัดแนวรับให้ ริยาด มาห์เรซ ทะลุหลุดเข้าไปก่อนล็อกหนี วาราน แล้วยิงด้วยขวา บอลไปติดเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ อย่างน่าเสียดาย

โอกาสเป็นชิ้นเป็นอันกลายเป็น แมนฯซิตี้ ที่ทำได้ดีกว่า นาที 28 เกือบเป็นทีมเยือนที่ได้ลุ้นนำอีกหนหลัง ริยาด มาห์เรซ จ่ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายแต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบหมดลุ้น

ไม่ถึงสองนาทีต่อมา แฟนเจ้าถิ่นหวิดได้เฮบ้าง เมื่อ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ครอสบอลมากลางประตู คาริม เบนเซม่า เทกตัวโขกย้อนไปเสาแรกแต่ยังโดน เอแดร์ซอน พุ่งปัดออกมา วินิซิอุส จูเนียร์ พยายามตามมาซ้ำแต่เสียหลักทำให้ยิงแป้กพลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย

นาที 33 เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ แนวรับซิตี้เล่นต่อไม่ไหวทำให้ เป๊ป ต้องเปลี่ยนคนแรกอย่างเร่งด่วนด้วยการส่ง แฟร์นานดินโญ่ ลงไปเล่นแทน

นาที 37 "เรือใบสีฟ้า" ได้ลุ้นอีกรอบบอลทะลุช่องของ กาเบรียล เชซุส ให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์

ท้ายเกมทีมเยือนยังบุกกดดันเข้าใส่มากกว่า ช่วงทดเจ็บ นาที 45+2 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดเตะมุมมาโดน ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดบอลออกมาเข้าทาง กาเบีรยล เชซุส หวดซ้ำเข้าไป เซร์คิโอ รามอส พยายามสกัดแต่กลายเป็นปลิ้นจะเข้าประตูตัวเองอยู่แล้ว ทว่ายังดีที่ คาเซมีโร่ อยู่ตรงนั้นจึงสกัดบอลออกไปหวุดหวิด

จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ยังเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0

ครึ่งหลัง นาที 50 คาเซมีโร่ ทำเสียบอลก่อนโดน เควิน เดอ บรอยน์ โต้กลับกระชากขึ้นมาถึงหน้ากรอบแล้วไหลออกขวาให้ ริยาด มาห์เรซ เลี้ยงกินตัวแล้วปั่นด้วยซ้าย บอลโค้งไม่พอหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว

ริยาด มาห์เรซ ที่เล่นได้โดดเด่น นาที 56 เลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษก่อนตะบันด้วยซ้ายบอลพุ่งไปตรงตัว กูร์กตัวส์ ไม่ถึงนาทีต่อมา มาห์เรซ ได้โอกาสซัดในกรอบด้วยขวาทางเสาไกลอีกครั้งแต่บอลยังไปติดมือ กูร์กตัวส์ อีก

เมื่อทีมเยือนทำไม่ได้กลายเป็นเจ้าถิ่นที่มีโอกาสน้อยกว่า ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 60 จากจังหวะที่ โรดรี้ ห้องเครื่องของเรือใบออกบอลสั้นไปโดน ลูก้า โมดริช ตัดบอลได้ก่อนก่อนกระดอนมาขึ้นหน้า ไคล์ วอล์คเกอร์ พยายามบังบอลแต่โดน วินิซิอุส จูเนียร์ วิ่งมาเบียดแย่งบอลกระชากเข้าไปในเขตโทษก่อนปาดมาหน้าประตูให้ อีสโก้ ที่ยืนโล่งๆ ซัดเลียดด้วยขวาผ่านเอแดร์ซอนเบียดโคนเสาเข้าไป

นาที 72 ทัพของ ซีดาน เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สอง อีสโก้ แตะเข้ากลางให้ รามอส ซัดด้วยขวาแต่บอลไปแฉลบแข้งเรือใบออกหลังไปหวุดหวิด

นาที 73 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แก้เกมด้วยการส่ง ราฮีม สเตอร์ลิง ลงไปเล่นแทน แบร์นาร์โด้ ซิลวา ีอกสองนาทีต่อมา "ชุดขาว" ส่งแกเร็ธ เบล ลงเล่นแทน วินิซิอุส จูเนียร์

แต่แล้ว นาที 78 เรือใบสีฟ้า มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 สำเร็จ บอลจาก เควิน เดอ บรอยน์ ตักมาหน้าประตูให้ กาเบรียล เชซุส เบียดรามอสเทกตัวโขกบอลลงพื้นหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เข้าไป

อีก 5 นาทีถัดมาแฟนบอลชุดขาวต้องเงียบกริบ เมื่อนาที 83 มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง ดานี่ การ์บาฆาล ไปเสียบ ราฮีม สเตอร์ลิง ล้มลงในเขตผู้ตัดสิน ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ ชาวอิตาลีชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ เควิน เดอ บรอยน์จะซัดเข้าไปไม่พลาดให้ แมนฯซิตี้ พลิกแซงขึ้นนำ 2-1

นาที 86 สถานการณ์ของเจ้าถิ่นแย่ลงไปอีก เมื่อ เซร์คิโอ รามอส มาโดนใบแดงไล่ออกหลังเป็นตัวสุดท้ายที่ไปดึง กาเบรียล เชซุส บนเส้น 18 หลา เป็นฟรีคิกของเรือใบ ทว่า ริยาด มาห์เรซ อัดด้วยซ้ายทะลุกำแพงไปเข้ามือ ติโบต์ กูร์กตัวส์

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกม เรอัล มาดริด เปิดรังพ่ายให้ แมนฯซิตี้ 1-2 ส่งผลให้ลูกทีมของ เป๊ป กุมความได้เปรียบในเกมแรกได้ก่อนกลับมาเฝ้ารังของตัวเองในวันที่ 17 มีนาคม เดือนหน้า

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ดานี่ การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม) (ใบแดง น.85), แฟร์กล็องด์ เมนดี้ - ลูก้า โมดริช (ลูกัส บาสเกซ น.84), เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, คาเซมีโร่ - วินิซิอุส จูเนียร์ (แกเร็ธ เบล น.75), คาริม เบนเซม่า, อีสโก้ (ลูก้า โยวิช น.84)

เทรนเนอร์ : ซีเนดีน ซีดาน

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ (แฟร์นานดินโญ่ น.33), เบนฌาแม็ง เมนดี้ - เควิน เดอ บรอยน์ (กัปตันทีม), โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน - ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส, แบร์นาร์โด้ ซิลวา (ราฮีม สเตอร์ลิง น.73)

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ผู้ตัดสิน : ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ (อิตาลี)

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.