|
23
ก.พ. เชซุสซูเปอร์ซับหวดชัยพาแมนซิตี้บุกเถือเลสเตอร์
แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล แม้จะเซฟจุดโทษของ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" แต่สุดท้ายต้านไม่ไหวโดนทีเด็ดอย่างตัวสำรอง กาเบรียล เชซุส ซัดประตูชัยพา แมนเชสเตอร์ ซิต้ บุกเฉือนชัยเหนือ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 คว้าสามแต้มรั้งรองจ่าฝูงต่อ ส่วน "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" แม้จะอยู่อันดับ 3 แต่ไม่ชนะมา 3 เกมติดต่อกันแล้ว ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม "บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก วีกที่ 27 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 เปิดคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่รั้งรองจ่าฝูง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เกมนี้กลับมาใช้ระบบ 3-5-2 วาง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ยืนล่าตาข่ายกับ เจมี่ วาร์ดี้ ที่ขึ้นปี 2020 ยังไม่ยิงเลยซักเม็ด ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ใช้สามแนวรุก ริยาด มาห์เรซ กลับมาลงตัวจริงประสานร่วมกับ เซร์คิโอ อเกวโร่ และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เกมเริ่มมาได้ถึง นาทีที่ 8 "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เกือบชิงขึ้นนำไปก่อน หลัง ยูริ ตีเลอมันส์ แทงบอลขึ้นหน้าให้ เจมี่ วาร์ดี้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดผ่านมือ เอแดร์ซอน ไปแล้วแต่บอลดันไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย อีกนาทีถัดมา "เรือใบสีฟ้า" ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง ริยาด มาห์เรซ เก็บบอลได้นอกกรอบก่อนปั่นด้วยซ้ายบอลพุ่งจะเสียบเสาไกลอยู่แล้วแต่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ยังไวบินปัดออกหวุดหวิด ทีมเยือนครองบอลได้เหนือกว่า นาที 16 ริยาด มาห์เรซ แทงเข้าไปในกรอบให้ กุน อเกวโร่ จ่ายบอลเร็วให้ อิลคาย กุนโดกัน วิ่งมาแปด้วยซ้ายบอลเบาไป ก่อนที่แคสเปอร์ ชไมเคิ่ลจะใช้ขาเซฟก่อนโดนเคลียร์ออกหลัง นาที 27 อิเฮียนาโช่ เรียกฟรีคิกระยะกว่า 25 หลา ก่อนที่ เจมส์ แมดดิสัน จะวิ่งมาปั่นบอลพุ่งไปชนแขน เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนไปเข้ามือ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรให้เล่นต่อไป นาที 37 ทัพจิ้งจอกมาได้ลุ้นฟรีคิกอีกครั้ง คราวนี้ เจมส์ แมดดิสัน ที่ถูกทำฟาวล์ลุกมาสังหารฟรีคิกอีกหน คราวนี้ปั่นบอลข้ามกำแพงจะมุดเสาแรกอยู่แล้วแต่ เอแดร์ซอน ยังเหนียวพุ่งปัดบอลออกหลังไปอีก ท้ายเกม นาที 40 เกมต้องหยุดลงชั่วคราวหลัง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ที่พยายามขึ้นโขกแต่โดน เอแดร์ซอน โมราเอส ออกมาปะทะกลางอากาศจนอดีตดาวเตะเรือใบสีฟ้าลงไปนอนกับพื้น ก่อนจะโดนหามออกข้างสนามและกลับเข้ามาเล่นได้ต่อไม่มีปัญหา ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เซร์คิโอ อเกวโร่ ปั่นบอลหนีมือ ชไมเคิ่ล เข้าประตูไปแล้วแต่โดนปฎิเสธหลังไลน์แมนยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน ทำให้จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ ยังเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0 ครึ่งหลัง ร็อตเจอร์ส เปลี่ยนตัวคนแรกถอดเอา เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ออกแล้วส่ง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ลงเล่นแทน และเพียงแค่ นาที 47 บาร์นส์ แผลงฤทธิ์ทันทีหลังโชว์สปีดแตะหนี เอมเมริค ลาป๊อร์กต์ จนถึงเส้นหลังแต่จังหวะปาดเข้าไปในกรอบ 6 หลาไปติดขา เอแดร์ซอน เสียก่อน นาที 53 เรือใบสีฟ้าได้ลุ้นเช่นกัน คราวนี้ โรดรี้ จ่ายบอลให้ เควิน เดอ บรอยน์ หวดด้วยขวาเต็มแรงเสาแรกแต่บอลยังไม่ผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ล้มตัวรับไว้ได้ นาที 60 แมนฯซิตี้ มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง อิลคาย กุนโดกัน หวดนอกกรอบไปโดนแขน เดนนิส ปราต ผู้ตัดสินเช็กจากห้องควบคุม VAR ก่อนชี้ให้เป็นจุดโทษแก่ทีมเยือน ทว่า เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' ดันยิงไม่ดีซัดไปกลางประตูไปติดขา แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เซฟช่วยเจ้าถิ่นไว้ได้ อีกสองนาทีถัดมา แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เป็นพระเอกอีก หลัง ริยาด มาห์เรซ แทงบอลให้ กุน อเกวโร่ หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาแต่บอลยังไปติดขา ชไมเคิ่ล ออกหลังอีกหน นาที 75 เจ้าบ้านได้ลุยขึ้นมาอีกที คราวนี้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ได้โอกาสซัดไกลด้วยขวาแต่บอลเหินคาานออกหลังไปไกล นาที 77 เป๊ป เปลี่ยนตัวคนที่สองส่ง กาเบรียล เชซุส ลงมาเล่นหน้าแทน เซร์คิโอ อเกวโร่ และเพียงแค่ 3 นาทีที่อยู่ในสนามแฟนเรือใบได้เฮทันที หลัง ริยาด มาห์เรซ เลี้ยงตะลุยเดี่ยวขึ้นมาแล้วจ่ายทะลุให้ เชซุส หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงเสาแรกผ่านตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ให้ แมนฯซิตี้ บุกมาขึ้นนำเจ้าบ้าน เลสเตอร์ 1-0 ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นไม่สามารถทวงประตูตีเสมอได้ จบเกม เลสเตอร์ เปิดบ้านพ่ายให้ แมนฯซิตี้ 0-1 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เลสเตอร์ (3-5-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - คักลาร์ โซยุนชู, จอนนี่ อีแวนส์, คริสเตียน ฟุคส์ - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, ยูริ ตีเลอมันส์, เดนนิส ปราต, เจมส์ แมดดิสัน, เบน ชิลเวลล์ - เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ น.46), เจมี่ วาร์ดี้ ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, แฟร์นานดินโญ่, เอมเมริค ลาป๊อร์กต์ (นิโกลัส โอตาเมนดี้ น.58), เบนฌาแม็ง เมนดี้ - เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน - ริยาด มาห์เรซ, เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'', แบร์นาร์โด้ ซิลวา ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์ |
|