16
ก.พ.
มาเน่ฮีโร่ซัดชัย! ลิเวอร์พูลบุกเฉือนนอริชหวิว ขอเฮอีก5นัดฉลองแชมป์


ลิเวอร์พูล เดินหน้าคว้าชัยเป็นนัดที่ 25 ในลีกหลังเร่งเครื่องช่วงครึ่งหลังก่อนบุกอัด นอริช แบบหวุดหวิด 1-0 และเป็น ซาดิโอ มาเน่ ที่เป็นฮีโร่ซัดประตูชัย พาทีมทิ้ง "เรือใบสีฟ้า" เป็น 25 คะแนน และขอชนะอีก 5 เกมเท่านั้นจะฉลองแชมป์ลีกทันที ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม : แคร์โรว์ โร้ด

เกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 26 เมื่อวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รองบ๊วยของลีก นอริช รับการมาเยือนของ จ่าฝูง ลิเวอร์พูล ที่ยังไร้พ่ายเกมนี้หากบุกมาคว้าสามแต้มจะนำ "เรือใบสีฟ้า" 25 คะแนนทันที

นอริช ฝากความหวังล่าตาข่ายไว้ที่ ตีมู ปุ๊กกี้ ส่วนอาคันตุกะลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนผู้เล่นจากชุดเก่งแค่ 2 ตำแหน่ง นาบี เกอิต้า และอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงตัวจริงส่วน ซาดิโอ มาเน่ หายเจ็บกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรอง

ออกสตาร์ทเกมมาได้ไม่ถึงนาที "หงส์แดง" ทักทายก่อนเลย โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ไหลออกขวาให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตั้งป้อมซัดไกลแต่บอลหลุดกรอบออกไปเยอะ

อีก 6 นาทีต่อมา หงส์แดงได้โอกาสยิงเข้ากรอบหนแรก หลังบอลปลิ้นมาเข้าทาง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แต่บอลเบาไปเข้ามือ ทิม ครูล

เข้าสู่นาทีที่ 26 เจ้าถิ่น นอริช ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกอย่างรวดเร็วหลัง แซม ไบแรม แบ็กซ้ายมีอาการเจ็บที่กล้ามเนื้อเล่นต่อไม่ไหลก่อนจะส่ง จามาล ลูอิส ลงเล่นแทน

นาที 35 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นขึ้นนำ หลังบอลยาวไดเร็กมาให้ ลูคัส รุปป์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลกับอลีสซง ก่อนจะเลือกจ่ายสั่นให้ ปุ๊กกี้ ที่เติมขึ้นมาแต่นายด่านหงส์แดงยังเร็วใช้มือปัดบอลก่อนถึงเท้าปุ๊กกี้ไว้ได้

ช่วงทดเจ็บหงส์แดงได้ลุ้นอีกที นาที 45+1จากลูกเตะมุม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดมาให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แต่บอลหลุดกรอบออกไป

จบครึ่งแรก นอริช ยังเสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0

ครึ่งหลัง นาที 52 เจ้าถิ่นแก้เกมมาดี มีโอกาสลุ้นประตูเช่นกันหลัง ท็อดด์ แคนท์เวลล์ เบียดเข้าไปก่อนสับไกซัดมุมแคบบอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย

นาที 57 หงส์แดงได้โอกาสส่องเข้ากรอบเป็นครั้งที่ 2 หลัง นาบี เกอิต้า ซัดไกลบอลพุ่งแรงแต่ยังไปตรงตัว ทิม ครูล ปัดออกหลัง

อีกสองนาทีถัดมาทีมเยือนพลาดได้ประตูอีก ซาลาห์ หวดด้วยซ้ายในกรอบ ทิม ครูล พุ่งปัด ก่อนจะโดน นาบี เกอิต้า ตามไปซ้ำแต่ก็ยังไม่ผ่านทิม ครูล ที่โชว์ซูเปอร์เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ

เกมผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมง เจอร์เก้น คล็อปป เปลี่ยนรวดเดียวสองคนส่ง ซาดิโอ มาเน่ และฟาบินโญ่ ลงไปเล่นแทน จอร์จินโย่ ไวนัลดุม และอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

นาที 72 แฟนนอริชเกือบได้เฮ หลังบอลสวนกลับ ท็อดด์ แคนท์เวลล์ จ่ายเข้ากลางมาให้ อเล็กซานเดอร์ เท็ตเตย์ หวดด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งติดไซด์ก้อยไปชนเสา ชนิดที่เกือบทำให้ อลีสซง เสียท่า

แต่กลายเป็น "หงส์แดง" ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ บอลวางยาวของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เข้าไปในกรอบให้ ซาดิโอ มาเน่ ดูดบอลลงก่อนหมุนตัวยิงด้วยซ้ายเบียดเสาแรกเข้าไป

ท้ายเกม ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังครองเกมได้เหนือกว่า แม้จะยิงเพิ่มไม่ได้แต่รักษาสกอร์จนจบเกม ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะ นอริช หวุดหวิด 1-0 คว้าสามแต้มพร้อมรั้งจ่าฝูงยาวๆโดยทิ้งอันดับ 2 แมนฯซิตี้ ไปไกลถึง 25 คะแนน แม้จะแข่งมากกว่า 1 เกมก็ตาม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

นอริช ซิตี้ (4-2-3-1) : ทิม ครูล - แม็กซ์ อารอนส์, คริสโตฟ ซิมเมอร์มันน์, แกรนท์ แฮนลี่ย์ , แซม ไบแรม - อเล็กซานเดอร์ เท็ตเตย์, เคนนี่ แม็คลีน - ลูคัส รุปป์, ออนเดรจ์ ดูด้า, ท็อดด์ แคนท์เวลล์ - ตีมู ปุ๊กกี้

ผู้จัดการทีม : ดาเนี่ยล ฟาร์เค่

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - นาบี เกอิต้า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

ผู้ตัดสิน : สจ๊วร์ต แอ็ตต์เวลล์

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.