คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สังหารจุดโทษหลังผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์และชี้ให้ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ได้จุดโทษนาทีที่ 90+1 ช่วยให้บุกไล่ตีเสมอ "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน ไปแบบสุดมัน 1-1 โดยเกมนี้มิลานเหลือผู้เล่น 10 คนในนาทีที่ 72 ทั้งสองทีมต้องไปลุ้นต่ออีกนัดในบ้านยูเว่ ในศึกฟุตบอล โคปปา อิตาเลีย (รอบรองชนะเลิศ นัดแรก) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล โคปปา อิตาเลีย
(รอบรองชนะเลิศ นัดแรก)
วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563
เอซี มิลาน 1 - 1 ยูเวนตุส


สนาม : ซาน ซิโร่

คู่นี้สถิติพบกัน 5 นัดหลังสุดเป็น ยูเวนตุส คว้าชัยไปได้ทั้งหมด โดยล่าสุดในเกมลีกเมื่อปลายปีก่อน เปาโล ดีบาล่า ซัดประตูโทนช่วย ยูเว่เปิดบ้านเฉือนมิลานไป 1-0

"ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน เจ้าบ้านนัดนี้มาในระบบ 4-4-2 โดยหน้าคู่สังหารวาง อันเต เรบิช ประกบจอมเก๋า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่กลับมาค้าแข้งกับทีมเก่าและโชว์ผลงานได้เข้าตา

ด้าน "ม้าลาย" ยูเวนตุส ทีมเยือนวางหมาก 4-3-3 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ฮวน กวาดราโด้ ขนาบข้างมี เปาโล ดีบาล่า ยืนหน้าตัวกลาง

เริ่มเกมมาถึงนาทีที่ 5 เป็นเจ้าถิ่น เอซี มิลาน ได้ทักทายก่อนจากจังหวะหวดหน้ากรอบเขตโทษของ ซามูเอล กาสตีเยโฆ บอลพุ่งไปตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน ที่พยายามรับเข้าซองแต่ไม่อยู่บอลกระดอนออกมาทำเอาแข้งยูเว่ต้องเตะทิ้งออกไปก่อนผู้เล่นมิลานจะเข้ามาซ้ำดาบสอง

ม้าลายตอบโต้กลับมาบ้างและได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย นาทีที่ 7 เปาโล ดีบาล่า รับหน้าที่เปิดบอลยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษมิลานแต่ไม่ผ่านแผงหลังที่โขกออกมาพ้นเขตอันตราย

นาทีที่ 11 มิลานทำเสียวจาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้ไคว้ยิงไม่ถึง 10 หลาแต่ทิศทางไม่ดีบอลหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย

ผ่านมาถึงนาทีที่ 22 เจ้าบ้านมีลุ้นบวกสกอร์จาก ดาวิเด้ คาลาเบรีย ที่ได้ตั้งป้อมตะบันเต็มข้อตรงกลางกรอบเขตโทษพอดีบอลพุ่งทำท่าจะเสียใต้คานแต่ถูกปฏิเสธโดย จานลุยจิ บุฟฟ่อน ที่ลอยตัวปัดออกไปได้ด้วยปลายมือ

นาทีที่ 28 ยูเว่ ได้ลูกฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลาทางฝั่งซ้าย มิราเล็ม ปานิช เปิดยัดเข้าไปเข้ามือ ดอนนารุมม่า ที่ออกมาตัดบอลกระโดดคว้าเข้ามือไว้ไร้ปัญหา

จังหวะสวนกลับต่อเนื่องมิลานได้ลุ้นอีกครั้ง อันเต เรบิช ได้หวดเต็มข้อระยะประมาณ 25 หลาบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ยังไม่ผ่านมือ บุฟฟ่อน ที่ล้มตัวรับไว้ทัน

นาทีที่ 36 เป็นทีมเยือนได้ลุ้นบ้างเมื่อ ฮวน กวาดราโด้ หลุดเข้าไปยิงเน้นๆ ทางฝั่งขวาบอลพุ่งเลียดไปทางเสาไกลแต่ถูกป้องกันออกไปโดย จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ที่พุ่งปัดไว้ได้แบบสุดปลายมือ

5 นาทีถัดมามิลานได้ลูกฟรีคิกกลางกรอบเขตโทษระยะประมาณ 20 หลาจากการที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ถูกตัดฟาวล์ด้านหลังและเป็น ฮาคาน ชาลาโนกลู รับหน้าที่ยิงฟรีคิกแต่ไม่ผ่านกำแพงมิลานบอลกระเด้งออกไปไกล

หมดเวลาครึ่งแรกทั้งสองทีมต่างเปิดเกมรุกเข้าใส่กันแต่ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเจาะประตูได้จึงยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0

มาลุ้นกันต่อครึ่งหลังนาทีที่ 47 มิลานน่าจะได้ประตูออกนำเมื่อ อันเต เรบิช หลุดขึ้นไปทางฝั่งซ้ายแล้วยิงบอลด้วยเท้าซ้ายแต่ยังคงไม่ผ่าน บุฟฟ่อน นายด่านจอมเก๋าที่ยืนปิดมุมดีใช้เท้าป้องกันออกไปได้อย่างหวุดหวิด

นาทีที่ 50 มิลานยังโหมบุกต่อเนื่องและมาได้ลุ้นอีกครั้ง ซามูเอล กาสตีเยโฆ กดเน้นๆ ทางฝั่งขวาแต่ก็ยังคงไม่ผ่านมือ บุฟฟ่อน ที่พุ่งตะปบรับไว้ได้สุดเอื้อมมืออีกครั้ง

10 นาทีต่อมา ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เกือบจดสกอร์แรกของเกมให้มิลานเมื่อได้แปเน้นๆ ทางฝั่งซ้ายแต่ บุฟฟ่อน ยังคงโชว์เซฟพุ่งปัดไว้ได้อีกครั้ง

ปีศาจแดง-ดำ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้นาทีที่ 61 จากจังหวะเปิดบอลของ ซามูเอล กาสตีเยโฆ ทางฝั่งขวาบอลค่อยๆ ลอยโด่งไปทางเสาไกลไปเข้าทาง อันเต เรบิช ที่กระโดดแปด้วยเท้าขวาแบบไม่รอให้บอลตกพื้นตรงกรอบ 6 หลาพอดีบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปไม่เหลือ ด้วยระยะทางที่ใกล้และน้ำหนักบอลที่แรงหมดปัญญาที่ บุฟฟ่อน จะป้องกันไว้ได้ในคราวนี้

นาทีที่ 64 ฮวน กวาดราโด้ ดาวยิงยูเว่ถูก อันเต เรบิช ใช้มือฟาดเข้าที่หน้าล้มลงในเขตโทษมิลานแต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไรให้เจ้าบ้านได้ลูกตั้งเตะจากเขตประตูขึ้นมาทำเอาเสียงฮือฮาจากแฟนบอลดังกระหึ่มในจังหวะดังกล่าว

นาทีที่ 72 เจ้าถิ่นต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนเมื่อ เตโอ แอร์กน็องเดซ จงใจพุ่งเข้าชน เปาโล ดีบาล่า อย่างจังในจังหวะที่กำลังทำเกมสวนกลับ ทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกอื่นต้องควักใบเหลืองที่สองให้ แอร์กน็องเดซ กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป

นาทีที่ 80 มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ เติมเกมขึ้นมาได้ขึ้นโขกให้ยูเว่จากลูกเตะมุมแต่คุมทิศทางไม่ดีหลุดออกข้างเสาประตูไปอย่างน่าเสียดาย

ยูเว่ ได้ลุ้นทวงประตูคืนนาทีที่ 84 จากการทำเกมรุกขึ้นมาทางฝั่งขวาของ ฮวน กวาดราโด้ ก่อนเปิดย้อนมาให้ เปาโล ดีบาล่า ได้บรรจงกดด้วยเท้าซ้ายตรงมุมกรอบเขตโทษแต่บอลเจ้ากรรมดันหลุดออกข้างเสาไปไม่ถึงสองหลา

นาทีที่ 89 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้จังหวะเอี้ยวตัวยิงบอลกลางอากาศด้วยเท้าขวาในเขตโทษมิลานทางฝั่งขวาแต่ไปดันติดบล็อก ดาวิเด้ คาลาเบรีย กองหลังเจ้าถิ่น และในจังหวะนี้เองแข้งม้าลายพากันประท้วงว่าบอลไปโดนแขน คาลาเบรีย ทำเอาผู้ตัดสินต้องหยุดเกมแล้วเดินไปดูจอวีเออาร์ข้างสนามก่อนตัดสินให้ทีมเยือนได้ลูกจุดโทษจากจังหวะดังกล่าว แถมให้ใบเหลืองกับ ดาวิเด้ คาลาเบรีย อีกด้วย

จากจังหวะต่อเนื่องนาทีที่ 90+1 เป็น โรนัลโด้ ที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปไม่เหลือทวงประตูให้ยูเว่ไล่ตามมาเป็น 1-1 ได้สำเร็จ

จบเกม มิลาน เสมอ ยูเวนตุส 1-1 ต้องกลับไปลุ้นกันต่อนัดที่สองในถิ่นม้าลายต่อไป


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

มิลาน (4-4-2) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า - อเลสซิโอ โรมันโยลี่, ซิม่อน เคียร์, เตโอ แอร์กน็องเดซ, ดาวิเด้ คาลาเบรีย - อิสมาเอล เบนนาเซอร์, ฟร้องค์ เกสซีเย่, ฮาคาน ชาลาโนกลู (ลูคัส ปาเกต้า น.87), ซามูเอล กาสตีเยโฆ (อเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส น.80) - อันเต เรบิช (ดิเอโก้ ลาซอลท์ น.74), ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

ยูเวนตุส (4-3-3) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน - มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, มัตเตีย เด ชีโย่ (กอนซาโล่ อิกวาอิน น.69), อเล็กซ์ ซานโดร - มิราเล็ม ปานิช, แบลส มาตุยดี้ (อาเดรียง ราบิโอต์ น.73), อารอน แรมซี่ย์ (โรดริโก้ เบนตันกูร์ น.63) - ฮวน กวาดราโด้, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เปาโล ดีบาล่า

www.siamsport.co.th