|
4
ก.พ. นาโปลีเร่งเครื่องท้ายเกม!รัวอัดซามพ์โดเรียคาถิ่นศึกกัลโช่ฯ
นาโปลี หวดสองตุงช่วงท้ายเกมก่อนไล่อัดชัยเหนือ ซามพ์โดเรีย เจ้าถิ่นไปอย่างสุดมัน 4-2 ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันจันทร์ที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ซามพ์โดเรีย 2 - 4 นาโปลี สนาม : ลุยจิ แฟร์ราริส เริ่มเกมได้เพียงแค่นาทีที่ 3 นาโปลี ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะโต้กลับขึ้นมาทางฝั่งซ้ายบอลไปอยู่ที่ พิโอเตอร์ ซีลินสกี้ ก่อนจะเปิดจากด้านข้างลอยโด่งเข้าไปในเขตโทษซามพ์โดเรียไปเข้าหัว อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ที่ได้โขกเต็มหัวบอลพุ่งตกลงพื้นไปทางเสาไกลเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม เกมเคลื่อนมาถึงนาทีที่ 14 ซามพ์โดเรีย ได้ลุ้นทวงประตูคืนเมื่อ มาโนโล่ กับเบียดินี่ ได้โอกาสเปิดจากริมเส้นฝั่งขวาย้อนมาให้ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ที่ยืนซัดเหน่งๆ ไม่ถึง 15 หลาแต่เจ้าตัวดันคุมทิศทางไม่ดียิงไปตรงตัว อเล็กซ์ เมเร็ท นายด่านทีมเยือนรับไว้ได้สบาย เมื่อไม่ได้ก็โดนเพิ่มนาทีที่ 16 นาโปลีออกนำห่างเป็น 2-0 จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาที่เปิดมาเข้าหัว โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ได้โหม่งเสยบอลเลยไปที่เสาไกลต่อไปให้ เอลจีฟ เอลมาส ที่ยืนรอแปจ่อๆ ไม่ถึง 6 หลาเข้าไปไม่เหลือ แต่แล้วความพยายามของซามพ์โดเรียก็มาประสบความสำเร็จเมื่อไล่ยิงตามมาเป็น 1-2 นาทีที่ 26 จากลูกโยนยาวเกือบ 40 หลาของ อัลบิน เอ็คดัล ไปให้ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ที่ยืนอยู่ตรงขอบเส้น 18 หลาทางฝั่งขวา กวายาเรลล่า ตัดสินใจหมุนตัววอลเล่ย์เต็มข้อแบบไม่จับบอลพุ่งทะยานเข้าไปอย่างสวยงามหมดปัญญาที่ อเล็กซ์ เมเร็ท จะพุ่งรับได้ นาทีที่ 33 ซามพ์โดเรีย ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกยิงไกลของ มาโนโล่ กับเบียดินี่ บอลพุ่งตรงกรอบแต่ไปตรงตัว อเล็กซ์ เมเร็ท ผู้รักษาประตูนาโปลีรับไว้ได้หายห่วง นาทีที่ 38 เป็นนาโปลี ทำเกมบุกขึ้นมาทางฝั่งขวา มาริโอ รุย เติมเกมขึ้นมาเปิดบอลโด่งไปเข้าหัว อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ที่ได้ขึ้นโขกเจ้าตัวพยายามบังคับทิศทางไปทางเสาไกลแต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานออกไปไม่ถึงหลา ซามพ์โดเรีย พลาดโอกาสตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 40 เมื่อ กัสตอน รามิเรซ ได้ยิงแบบจ่อๆ โดยพยายามงัดบอลหนีแข้งนาโปลีแต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสากระดอนออกไป นาโปลี เกือบได้จดสกอร์ที่สาม นาทีที่ 44 อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ได้ขึ้นโหม่งเต็มหัวระยะไม่ถึง 10 หลาบอลกดลงพื้นทำท่าจะเสียบโคนเสาแต่ไม่ผ่านมือ เอมิล ออเดโร่ นายด่านเจ้าถิ่นที่ปฏิกิริยายังไวล้มตัวปัดไว้ได้ จบครึ่งแรก นาโปลี บุกมานำ ซามพ์โดเรีย 2-1 มาลุ้นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 50 ซามพ์โดเรีย ที่เปิดเกมรุกเต็มสูบหวังทวงประตูตีเสมอและได้ลุ้นจากลูกโหม่งในกรอบเขตโทษงของ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ดาวยิงตัวความหวังแต่ทิศทางไม่ดีบอลเลยออกเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 55 ซามพ์โดเรีย ส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่ายนาโปลีโดยการตีลังกายิงของ กัสตอน รามิเรซ สกอร์ขึ้นเป็น 2-2 แต่ผู้ตัดสินขอดูวีเออาร์และเห็นว่าเกิดการแฮนด์บอลโดยผู้เล่นเจ้าบ้านก่อนหน้าจึงกลับคำตัดสินให้นาโปลีได้ฟรีคิกแทน นาทีที่ 60 เป็นนาโปลีที่ส่งบอลไปกองก้นตาข่ายเจ้าถิ่นบ้างโดย พิโอเตอร์ ซีลินสกี้ แต่ไม่ได้ประตูเพราะมีสัญญาณธงจากไลน์แมนเป็นลูกล้ำหน้า ผ่านพ้นมาถึงนาทีที่ 70 เกิดมีการปะทะกันในกรอบเขตโทษนาโปลีโดย คอสตาส มาโนลาส ไปหวดเข้าที่ข้อเท้า ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ในจังหวะแรกผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไรแต่เมื่อบอลอยู่นอกการเล่นผู้ตัดสินสั่งหยุดเกมเพื่อขอดูวีเออาร์และเห็นว่าเกิดการทำฟาวล์จริงจึงตัดสินให้จุดโทษกับเจ้าบ้าน และเป็น มาโนโล่ กับเบียดินี่ ที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษในนาทีที่ 73 โดยยิงไปทางซ้ายมือของ อเล็กซ์ เมเร็ท ที่พุ่งถูกทางแต่ด้วยความแรงของบอลจึงเฉียดแค่ปลายมือเท่านั้น ส่งผลให้ซามพ์โดเรียไล่ตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จ นาทีที่ 83 นาโปลี บวกประตูออกนำอีกครั้งเป็น 3-2 จากจังหวะที่ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ พาบอลขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษซามพ์โดเรียก่อนส่งต่อให้ มาริโอ รุย ทางฝั่งซ้ายแล้วส่งย้อนคืนมาให้ อินซินเย่ กดเต็มข้อบอลไปติดหลังแข้งเจ้า เกมทำท่าจะจบลงที่ผลดังกล่าวแต่แล้วนาทีที่ 90+7 นาโปลี ได้ประตูตอกย้ำชัย 4-2 เมื่อ เอมิล ออเดโร่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นออกมานอกกรอบเขตโทษเพื่อโหม่งตัดบอลแต่ไม่ขาดกลับกลายเป็นส่งให้ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี เมอร์เท่นส์จับบอลได้ไม่รอช้าแปสวนทันทีบอลค่อยๆ ไหลเข้าประตูไปแล้วไร้การป้องกัน จบเกม นาโปลี บุกมาอัด ซามพ์โดเรีย ถึงถิ่น 4-2 รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม ซามพ์โดเรีย (4-3-1-2) : เอมิล ออเดโร่ - มอร์เท่น ธอร์สบี้, ลอเรนโซ่ โตเนลลี่, โอมาร์ คอลลี่ย์, ตอมมาโซ่ ออเจลโล่ - อัลบิน เอ็คดัล, คาโรล ลิเน็ตตี้, ยาคุบ ยังก์โต้ (โรนัลโด วีร่า น.79) - กัสตอน รามิเรซ (กอนซาโล่ มาโรนี่ น.68) - มาโนโล่ กับเบียดินี่, ฟาบิโอ กวายาเรลล่า (เฟเดริโก้ โบนาซโซลี่ น.75) นาโปลี (4-3-3) : อเล็กซ์ เมเร็ท - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, คอสตาส มาโนลาส, เอลซิด ไฮซาจ, มาริโอ รุย - สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า (ดิเอโก้ เดมเม่ น.61), พิโอเตอร์ ซีลินสกี้, เอลจีฟ เอลมาส (มัตเตโอ โปลิตาโน่ น.79) - ลอเรนโซ่ อินซินเย่, โฆเซ่ กาเยฆ่อน (ดรีส์ เมอร์เท่นส์ น.72), อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค |
|