8
ธ.ค.
โปเช็ตติโน่ดีพอพลิกโฉมแมนยูได้จริงไหม?



โปเช็ตติโน่ แทน มูรินโญ่ ? : บุรุษผู้พลิกโฉม แมนยูไนเต็ด ได้จริงหรือ ?

กระแสดราม่าฆ่าไม่ตายกรณี โชเซ่ มูรินโญ่ หมดอนาคตกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเป็นระลอกคลื่นอีกครั้ง แถมครั้งนี้มีการลือให้แซ่ดว่าบอร์ดบริหารถึงขนาดทาบทาม เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการทีมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เข้ามาทำหน้าที่แทนเลยทีเดียว

เดอะ ซัน สื่อดังในอังกฤษ เปิดประเด็นเด็ดในเรื่องนี้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมที่จะทุ่มเงินสูงสุดถึง 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,800 ล้านบาท) เพื่อดึง โปเช็ตติโน่ มาทำหน้าที่กุมบังเหียนทัพ "ปีศาจแดง" หลังจากทนไม่ไหวที่เห็น "เฮียมู" ทำผลงานดีมีคุณภาพจนทำให้ทีมอยู่ที่ 8 ของตารางคะแนนและโอกาสติดท็อปโฟร์ริบหรี่เต็มที

แม้ว่า กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ จะเซ็นสัญญา 5 ปีพร้อมรับทรัพย์ 8 ล้านปอนด์ (ราว 344 ล้านบาท) ต่อฤดูกาลกับ สเปอร์ส แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้บอร์ดบริหาร "ผีแดง" ถอดใจ เพราะพวกเขาแสดงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเอา โปเช็ตติโน่ มาแทนที่ มูรินโญ่ ให้ได้

แล้ว โปเช็ตติโน่ จะดีกว่า มูรินโญ่ ไหม ? และเขามีคุณสมบัติที่พร้อมจะนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับมาอยู่ในสไตล์ที่แฟนบอลทั่วโลกรู้จักได้ไหม ?

- สถิติในพรีเมียร์ลีก

โปเช็ตติโน่ เปลี่ยนแปลง สเปอร์ส นับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาทำหน้าที่กุมบังเหียนทีมแทนที่ ทิม เชอร์วู้ด เมื่อปี 2014 โดยทำให้ "ไก่เดือยทอง" กลายเป็นสโมสรที่แข็งแกร่ง และมีสไตล์การเล่นดุดัน เน้นเกมบุกเป็นหลัก

หลังจากที่พลาดแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2015-16 ซึ่ง มูรินโญ่ เข้ามาคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาคุมทีมในช่วงซัมเมอร์นั้น มีการคาดเดากันไปต่างๆ นานานว่า สเปอร์ส คงจะทำผลงานได้แย่ลงในตารางคะแนน แต่นั่นก็แค่ความคิดเลื่อนลอยมากกว่าความจริง

ในฤดูกาล 2016-17 พวกเขาจบในอันดับ 2 โดย เชลซี ผงาดคว้าแชมป์ลีกไปครอบครอง ขณะที่ซีซั่นต่อมาพวกเขาจบในอันดับ 3 และตอนนี้ สเปอร์ส อยู่ในอันดับเดียวกันในฤดูกาลปัจจุบัน หลังจากลงสนามในเกมลีกไปแล้ว 15 แมตช์ (ก่อนหน้าเกมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้)

ขณะที่ มูรินโญ่ เข้ามาทำงานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนนั้น "พอช" นำต้นสังกัดเก็บชัยชนะในเกมลีกไปแล้ว 60 แมตช์, เสมอ 16 เกม และ แพ้ 15 แมตช์เท่านั้น สำหรับ "เฮียมู" ซึ่งนำ "ผีแดง" ชนะ 49 เกม และแพ้ 16 ในเกมลีก นำแมนฯ ยูไนเต็ด จบอันดับ 6 กับการทำงานในซีซั่นแรกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก่อนจะจบอันดับรองแชมป์ในซีซั่นที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ผลงานสุดย่ำแย่เมื่อรั้งในอันดับ 8 มีเพียง 23 คะแนน ตามหลัง สเปอร์ส ถึง 10 แต้ม และเสียประตูไปแล้ว 25 ลูก แถมยิงได้แค่ 24 ประตูเท่านั้น

- สถิติในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรป

แม้ว่า สเปอร์ส จะทำผลงานได้น่าประทับใจกับเกมพรีเมียร์ลีก แต่ฟอร์มในเวทียุโรปพวกเขายังไม่คงเส้นคงวา

ขณะที่ "ไก่เดือยทอง" ทำผลงานแจกความสดใจให้กับแฟนลูกหนังน้องไก่ด้วยการชนะ เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นับตั้งแต่ที่ลงชิงชัยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2016 แต่บทสรุปสุดท้ายยอดทีมแห่งนอร์ท ลอนดอน ก็ต้องบ๊ายบายไม่ได้เข้ารอบน็อกเอาต์

พวกเขาต้องลงมาเล่นในยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2016-17 โดยตกรอบ 32 ทีมสุดท้ายด้วยฝีเท้าของ เกนท์ อย่างไรก็ตามเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา สเปอร์ส มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเมื่อทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ถ้วยใบโตยุโรป แต่ก็ต้องตกรอบหลังพ่ายแพ้ให้กับ "ม้าลาย" ยูเวนตุส

สำหรับในซีซั่นปัจจุบัน ทีมของกุนซือเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยังมีโอกาสได้ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์แต่ต้องได้ผลการแข่งขันที่ต้องการในแมตช์เยือน "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ที่สนามคัมป์ นู วันอังคารที่ 11 ธันวาคมนี้ แต่ก็ถือเป็นโจทย์ที่ยากพอสมควรเลยทีเดียว

ในส่วนของ มูรินโญ่ สามารถนำ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก ในซีซั่นเปิดตัวกับ "ผีแดง" ทำให้พวกเขาได้ตั๋วไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยอัตโนมัติในซีซั่นถัดมา แต่ก็ต้องโบกมือลารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการแพ้ เซบีย่า ไปอย่างเจ็บปวดรวดร้าวฤดี

อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ กุนซือเลือดโปรตุกีส นำ แมนฯ ยูฯ ตีตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์ได้เรียบร้อยแล้ว ด้วยการจบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม โดยมี ยูเวนตุส ที่รั้งจ่าฝูง

- สไตล์การเล่น

สาวก "เร้ด อาร์มี่" ทั่วโลกคุ้นเคยกับการเห็นทีมรักเปิดเกมบุกแบบพายุเฮอร์ริเคน พร้อมกับนักเตะ "ผีแดง" มีเต็มไปด้วยทักษะ และสภาพความฟิตแน่นปึ้ก รวมไปถึงการที่ทีมมักจะครองเกมเหนือคู่แข่งอยู่เสมอ แน่นอนว่าแฟนบอล "ผีแดง" อยากเห็น แมนฯ ยูฯ เล่นเกมสนุกเร้าใจพร้อมกับคว้า 3 แต้มมาครอง

อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นภายใต้การกุมบังเหียนของ มูรินโญ่ โดยแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องทนเห็นทีมรักเล่นบอลโยนยาวราวกับพวกโบราณบานบุรี พร้อมกับแท็คติก "รถบัส" ตั้งรับเอาเป็นเอาตาย แถมยังนิยมใช้นักเตะมากประสบการณ์มากกว่าแข้งท้องถิ่นพรสวรรค์สูง

สวนทางกับ สเปอร์ส อย่างสิ้นเชิง พวกเขากลายเป็นทีมที่ได้ใจแฟนบอลทั้งของตัวเอง และคู่แข่ง โดย โปเช็ตติโน่ มีปรัชญาการคุมทีมที่เน้นเกมบุกที่ดุดัน, ไล่เพรสซิ่งสูง และมีจังวะการเล่นที่รวดเร็วจนทำให้คู่แข่งไม่สามารถตั้งรับได้ทัน แน่นอนว่านี่คือทุกสิ่งที่สาวก "ผีแดง" ปรารถนาที่จะให้เกิดขึ้นกับแมนฯ ยูฯ

- โทรฟี่แชมป์

แม้ว่า สเปอร์ส จะมีสไตล์การเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ แต่พวกเขายังขาดสิ่งสำคัญนั่นก็คือโทรฟี่แชมป์ซึ่งไม่มีมาประดับตู้โชว์ในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน นับตั้งแต่ปี 2008 ที่พวกเขาสามารถเอาชนะ "สิงโตน้ำเงนคราม" เชลซี ในรอบชิงชนะเลิศ เกมลีก คัพ หรือปัจจุบันก็คือ คาราบาว คัพ

สเปอร์ส มักจะโดนแซวว่าเล่นดีแต่ไร้เกียรติยศ เพราะพวกเขาเคยทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลศ ศึกเอฟเอ คัพ ใน 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ขณะในซีซั่นนี้ "ไก่เดือยทอง" ทะลุเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ศึก คาราบาว คัพ แต่เจอกับกระดูกชิ้นโตนั่นก็คือคู่อริร่วมกรุงลอนดอน ได้แก่ อาร์เซน่อล ที่จะต้องดวลกันในช่วงปลายเดือนธ.ค.นี้

หลังจากที่คว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ได้แล้ว มูรินโญ่ ยังนำทีมสอยแชมป์ อีเอฟแอล คัพ ในปีแรกที่ทำงานให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ขณะเดียวกันพวกเขามีโอกาสได้ถ้วยแชมป์ไปประดับที่ตู้โชว์อีกใบแต่ไม่สำเร็จเพราะแพ้ เชลซี ในเกมนัดชิง ศึเอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

กระนั้นสิ่งหนึ่งที่ถือว่า โปเช็ตติโน่ ประสบความสำเร็จอย่างมากก็คือการใช้งบของสโมสรเพียงแค่ 76 ล้านปอนด์ (ราว 3,268 ล้านบาท) นับตั้งแต่ที่เข้ามาคุมทีมแต่สามารถสร้างสไตล์การเล่นและผลงานที่ถือว่าดีมากๆ สวนทางกับ มูรินโญ่ ที่ใช้งบประมาณบานตะไทกว่า 302 ล้านปอนด์ (ราว 12,986 ล้านบาท) แต่ตอนนี้กำลังกระเสือกกระสนทำอันดับลุ้นแค่ท็อปโฟร์ !!

สยามสปอร์ต

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.