|
7
ม.ค. อาร์เซน่อลเร่งเครื่องเฉือนลีดส์หวิว ฉลุยเอฟเอ คัพ
อาร์เซน่อล ครึ่งแรกเล่นกันไม่เป็นโล้เป็นพาย หลังโดน ลีดส์ กระหน่ำรุกเข้าใส่แต่ยังรอดมาได้ ก่อนที่ครึ่งหลัง มิเกล อาร์เตต้า จะโชว์กึ่นแก้เกมปลุกให้ อาร์เซน่อล เค้นฟอร์มเก่งกลับมาบู๊กับ "ยูงทอง" ก่อนคว้าชัยหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ รีสส์ เนลสัน ส่งให้ปืนใหญ่ลิ่วเข้าไปเล่นในรอบ 4 ศึกเอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ โดยจะพบกับ บอร์นมัธ ทีมจากพรีเมียร์ลีกเหมือนกัน สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม คู่สุดท้ายของ เอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา อาร์เซน่อล เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมรับการมาเยือนของ ลีดส์ ยูไนเต็ด คู่นี้หากทีมใดชนะจะผ่านเข้าไปพบกับ บอร์นมัธ ในรอบ 4 ต่อไป ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 6 นาที "ยูงทอง" เป็นฝ่ายไล่กดดันเจ้าถิ่น และมีลุ้นได้ประตูขึ้นนำหลัง ร็อบ โฮลดิ้ง แนวรับไอ้ปืนใหญ่จ่ายบอลพลาด ก่อน มาเตอุสซ์ คลิช ที่ตัดบอลได้จ่ายให้ แกตาโน่ เบราร์ดี้ หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้าย ทว่าโฮลดิ้งยังแก้ตัวทันวิ่งมาบล็อคบอลออกหลังไป จากนั้น นาทีที่ 8 "ปืนใหญ่" ได้ลุ้นบ้าง คราวนี้ นิโกล่าส์ เปเป้ ลองซัดไกลนอกกรอบแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ อิลลัน เมส์ลิเยร์ นายด่านของลีดส์ ทีมเยือนยังบุกได้น้ำได้เนื้อกว่า นาที 14 แจ็ค แฮร์ริสัน ปีกตัวเก่งของลีดส์ได้อัดด้วยซ้ายเน้นๆกว่า 20 หลาบอลพุ่งจน เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ต้องทุบบอลออกไป ถัดมาอีกนาที แฟนเดอะ กันเนอร์สเกือบเงียบหลัง แพทริก แบมฟอร์ด ซัดด้วยซ้ายไปชนคานอย่างจัง ลูกทีมของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ไม่เกรงกลัวครองเกมรุกได้ดีกว่า และได้ลุ้นอีกหนในนาที 17 จาก แจ็ค แฮร์ริสัน อีกครั้งที่เลี้ยงบอลตัดเข้ากลางก่อนซัดด้วยซ้าย แต่บอลก็ยังไปเข้ามือ มาร์ติเนซ ที่รับไว้ได้ นาที 24 บอลสวนกลับของ "ยูงทอง" ได้ลุ้นอีก ร็อบบี้ ก็อตต์ส แทงออกซ้ายให้ เอซยาน อลิออสกี้ หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งถากเสาไกลไปนิดเดียว ผ่านไปครึ่งชั่วโมง โอกาสยิงของ ลีดส์ มีมากถึง 12 ครั้ง ขณะที่เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล มีโอกาสแค่ 2 หนเท่านั้น เกมรับไอ้ปืนใหญ่เจอบททดสอบอีก นาที 33 ลุค อายลิ่ง ครอสยาวไปเสาไกลให้ เอซยาน อลิออสกี้ ขึ้นเบียดเอาชนะ โซคราติส ก่อนโหม่งไปติดเซฟของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ อีกครั้ง จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล ยังเสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 0-0 ครึ่งหลัง อาร์เตต้า แก้เกมมาดี แค่นาที 46 มีโอกาสลุ้นขึ้นนำเมื่อ นิโกล่าส์ เปเป้ แย่งบอลได้ก่อนลากตัดเข้ากลางแล้วยิงด้วยซ้าย แต่บอลเหินคานออกไปไกล นาที 49 ปืนใหญ่ ได้ลุ้นฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะกว่า 20 หลา และเป็น อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ปั่นด้วยขวาบอลพุ่งข้ามกำแพงก่อนชนคานออกไปอย่างน่าเสียดาย ทีมเยือนตั้งตัวไม่ติด อาร์เซน่อล ดาหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง นาที 51 ลากาแซตต์ ยิงด้วยขวาเสาแรกบอลพุ่งจะเสียบมุมอยุ่แล้วแต่ อิลลัน เมส์ลิเยร์ นายด่านเลือดน้ำหอมยังพุ่งไปออกไปได้ทัน นาที 54 เจ้าถิ่นบุกเพลินๆ เกือบโดนลูกสวนกลับเล่นงาน หลัง แพทริก แบมฟอร์ด รับบอลจาก มาเตอุสซ์ คลิช หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายนอกกรอบ แต่บอลก็ไม่ผ่านมือ มาร์ติเนซ ที่พุ่งไปตะครุบรรับไว้ได้ กระนั้น นาที 55 เสียงแฟนบอลไอ้ปืนใหญ่กระหึ่มทั้งสนาม เมื่ออาร์เซน่อล ชิงได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ เปเป้ ลากเข้ามาก่อนแทงออกขวาให้ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ครอสเข้ากลางประตูบอลไปแฉลบ แกตาโน่ เบราร์ดี้ เปลี่ยนทางไปให้ รีสส์ เนลสัน วิ่งมาโฉบยิงด้วยขวาตัดหน้า เมล์ลิเยร์ เข้าไป นาที 67 อาร์เซน่อล เปลี่ยนตัวคนแรกถอดเอา รีสส์ เนลสัน ผู้ทำประตูขึ้นนำออกแล้วส่ง แกเบรียล มาร์ติเนลลี่ ลงเล่นแทน นาที 72 ลีดส์ ได้ลุ้นฟรีคิกบ้างระยะกว่า 25 หลา แต่ แบร์รี่ ดั๊กลาส แบ็กซ้ายดันยิงข้ามกำแพงหลุดกรอบออกไป ถัดมาอีก 2 นาที แนวรับทีมเยือนเสียสมาธิอีก นิโกล่าส์ เปเป้ ได้บอลแล้วจ่ายยัดเข้ากลางให้ มาร์ติเนลลี่ โยกเข้าขวาซัดไปติดบล็อคแข้งทีมเยือนออกหลังเป็นเตะมุม นาที 77 อาร์เซน่อลเปลี่ยนคนที่สองส่ง โจเซป วิลล็อก ลงไปเล่นแทน เมซุต โอซิล ท้ายเกมยังเป็น "ปืนใหญ่" ที่คุมเกมได้เหนือกว่าแม้จะไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ แต่จบเกมเป็น อาร์เซน่อล ที่เฉือนเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมจากแชมเปี้ยนชิพไปแบบสนุก 1-0 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 4 พบกับ บอร์นมัธ รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ - โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส , ร็อบ โฮลดิ้ง, ดาวิด ลุยซ์, เซอัด โคลาซินัช - กรานิต ชาคา, มัตเตโอ เก็นดูซี่ - นิโกล่าส์ เปเป้ (บูกาโย่ ซาก้า น.90+1), เมซุต โอซิล (โจเซป วิลล็อค น.77), รีสส์ เนลสัน (แกเบรียล มาร์ติเนลลี่ น.67) - อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-1-4-1) : อิลลัน เมส์ลิเยร์ - ลุค อายลิ่ง (จอร์แดน สตีเฟ่นส์ น.78), เบน ไวท์, แกตาโน่ เบราร์ดี้, แบร์รี่ ดั๊กลาส - คัลวิน ฟิลลิปส์ - แจ็ค แฮร์ริสัน, ร็อบบี้ ก็อตต์ส (สจ๊วร์ต ดัลลัส น.60), มาเตอุสซ์ คลิช, เอซยาน อลิออสกี้ (เฮลแดร์ คอสต้า น.61) - แพทริค แบมฟอร์ด ผู้จัดการทีม : มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์ |
|