|
19
ธ.ค. ฟีร์มีโน่ซัดชัยทดเจ็บ-ลิเวอร์พูลบดมอนเตอร์เรย์หืด ลิ่วชิงสโมสรโลก
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กลายเป็นซูเปอร์ซับฮีโร่ของ ลิเวอร์พูล หลังลงมาช่วง 5 นาทีสุดท้ยของเกมก่อนซัดประตูชัยในช่วงทดเจ็บพาทีมเฉือนเอาชนะ มอนเตอร์เรย์ ทีมจากเม็กซิโกไปแบบหวุดหวิด 2-1 ผ่านเข้าไปชิงฯสโมสรโลกกับ ฟลาเมงโก้ ในวันเสาร์นี้ สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, กาตาร์ (สนามกลาง) ศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 ที่ประเทศกาตาร์ รอบรองชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง มอนเตอร์เรย์ จากเม็กซิโกซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์คอนคาเคฟ แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเกมที่แล้วในรอบก่อนรองฯ มอนเตอร์เรย์ เบียดเอาชนะ อัล ซาดด์ 3-2 พบกับ ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากอังกฤษ ที่ยังไม่เคยได้แชมป์รายการนี้ลงเล่นเป็นนัดแรก การจัดตัวเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ หมดสิทธิ์ใช้งาน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่ป่วยทำให้ โจ โกเมซ ยืนเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ส่วน 3 แนวรุกเป็น เซอร์ดาน ชากีรี่, ดิว็อค โอริกี และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ขณะที่มอนเตอร์เรย์ มี โรเคลิโอ ฟูเนส โมรี่ ยืนหน้าเป้า และใช้ โรดอลโฟ่ ปิซาร์โร่, เฮซุส กายาร์โด้ และดอร์ลาน ปาบอน ทำเกมรุกอยู่ข้างหลัง ออกสตาร์ทเกมมาได้แค่ 4 นาที "หงส์แดง" ได้ทักทายก่อนเลย หลัง เซอร์ดาน ชากีรี่ รับบอลจาก โจ โกเมซ ก่อนปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบแต่บอลห่างกรอบออกไปไกล กระนั้น ลิเวอร์พูล ยังครองเกมได้เหนือกว่า ก่อนนาทีที่ 12 จะมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เจมส์ มิลเนอร์ จ่ายบอลฝากให้ ซาลาห์ ก่อนแข้งชาวอียิปต์จะพลิกจ่ายทะลุช่องด้วยซ้ายให้ นาบี เกอิต้า หลุดเข้าอัดด้วยขวาส่งบอลตุงตาข่าย แต่อีกสองนาทีถัดมา มอนเตอร์เรย์ มาทวงประตูไล่ตีเสมอ 1-1 ทันควัน บอลจากลูกเซ็ตพีซกลางสนามวางยาวมาในกรอบของฝั่งหงส์แดง เซซาร์ มอนเตส โขกหนุนให้ เฮซุส กายาร์โด้ หลุดเข้าไปกดด้วยซ้ายเต็มข้อแต่บอลไปติดเซฟของ อลีสซง ทว่ายังไม่พ้นอันตรายบอลมาเข้าทาง โรเคลิโอ ฟูเนส โมรี่ ตามซ้ำโล่งๆเข้าไป นาที 23 ทัพหงส์เกือบได้ลุ้นขึ้นนำอีกหน หลัง เจมส์ มิลเนอร์ หลุดเข้าไปดีดบอลด้วยขวาในกรอบ 6 หลา แต่บอลยังไม่ผ่านมือ มาร์เซโล่ บาโรเวโร่ ปิดมุมก่อนรับบอลไว้ได้ มอนเตอร์เรย์ ก็ไม่ยอมง่ายๆ เปิดเกมรุกสวนกลับ นาที 27 โรเคลิโอ ฟูเนส โมรี่ จ่ายบอลออกขวาให้ ดอร์ลาน ปาบอน กดด้วยขวานอกกรอบ บอลพุ่งไปเสาไกลจน อลีสซง ต้องพุ่งปัดออกไปหวุดหวิด นาที 36 ทีมดังจากเม็กซิโกพลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำบ้าง หลังแนวรับหงส์แดงเช็กล้ำหน้าพลาด ดอร์ลาน ปาบอน หลุดเข้าไปในกรอบทางขวาแล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามา บอลจะถึง ฟูเนส โมรี่ ที่ยืนอยู่โล่งๆอยู่แล้วแต่ดีที่ อลีสซง ยังพุ่งปัดปลายนิ้วเปลี่ยนทางบอลช่วยทีมไว้ได้ นาที 43 ทัพหงส์แดงได้ลุ้นอีกหน คราวนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จ่ายเข้ากลางให้ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน ดึงจังหวะแล้วแทงบอลทะลุคู่เซ็นเตอร์แบ็กให้ นาบี เกอิต้า หลุดเข้าไปพยายามแตะบอลหลบ บาโรเวโร่ แต่นายด่านมอนเตอร์เรย์ยังไวบล็อครับบอลไว้ได้ทัน จบครึ่งแรก มอนเตอร์เรย์ ยังเสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1 กลับมาบู๊ต่อในครึ่งหลัง นาที 48 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมขึ้นสูงก่อนหวดด้วยซ้ายเต็มข้อบอลเหินโด่งไปไกล อีก 2 นาทีต่อมา มอนเตอร์เรย์ ได้ลุ้นจากฟรีคิกนอกกรอบกว่า 25 หลา ดอร์ลาน ปาบอน วิ่งมาปั่นบอลข้ามกำแพงจะมุดเสียบเสาแรกอยู่แล้วแต่ อลีสซง ยังโชว์เซฟบินไปปัดออกไปแบบหวุดหวิดอีกครั้ง นาที 51 ดอร์ลาน ปาบอน ที่เล่นได้โดดเด่นป่วนแนวรับ หงส์แดง หลังรับลูกจ่ายของ เฮซุส กายาร์โด้ ก่อนจะหวดด้วยขวาข้างถนัดบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ยังไปตรงตัว อลีสซง ที่รับไว้ได้ไม่มีปัญหา นาที 58 อดัม ลัลลาน่า จ่ายบอลต่อให้ นาบี เกอิต้า โชว์สเต็ปเลี้ยงบอลหลบแนวรับมอนเตอร์เรย์สองคนก่อนหลุดเข้าไปซัดด้วยขวาแต่บอลพุ่งไปตรงตัว มาร์เซโล่ บาโรเวโร่ เซฟไว้ได้ นาที 67 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้โอกาสหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายบ้างแต่บอลยังไม่ผ่านตัว มาร์เซโล่ บาโรเวโร่ รับไว้เหนียวหนึบ ก่อนนาทีถัดมา เจอร์เก้น คล็อปป์ จะเปลี่ยนตัวคนแรก ส่ง ซาดิโอ มาเน่ ลงไปเล่นแทนเซอร์ดาน ชากิรี่ นาที 74 แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 6 สมัย พลาดโอกาสขึ้นนำอีกครั้ง หลัง อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน ถ่ายบอลออกด้านขวาให้ เจมส์ มิลเนอร์ ปาดบอลเข้ามากลางประตูให้ ดิว็อค โอริกี้ ยิงด้วยขวาแต่บอลไปแฉลบอกของ มาเน่ หลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย นาที 81 ซาดิโอ มาเน่ รับบอลจากแชมเบอร์เลน ก่อนตั้งป้อมยิงไกลนอกกรอบ บอลพุ่งแรงแต่ยังไปตรงตัวของ มาร์เซโล่ บาโรเวโร่ รับไว้ได้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่งผู้เล่นคนสุดท้ายถอดเอา ดิว็อค โอริกี ออกแล้วส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงเล่นแทน เกมทำท่าว่าจะต้องต่อเวลาพิเศษออกไป แต่แล้วในช่วงทดเวลาเจ็บ นาที 90+1 สองตัวสำรองโชว์ทีเด็ด หลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จ่ายบอลเลียดไปเสาแรกให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยิงด้วยขวาผ่านตัว มาร์เซโล่ บาโรเวโร่ เข้าไป ก่อนอีกไม่กี่นาทีต่อมา ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดจบเกม เป็นอันว่า ลิเวอร์พูล เบียดเอาชนะ มอนเตอร์เรย์ ไปแบบหืดจับ 2-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ศึกสโมสรโลกพบกับ ฟลาเมงโก้ ในวันเสาร์ที่ 21 ธ.ค. นี้ รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม มอนเตอร์เรย์ (4-2-3-1) : มาร์เซโล่ บาโรเวโร่ - สเตฟาน เมดิน่า, เซซาร์ มอนเตส, นิโกลัส ซานเชซ, ลิโอเนล วานโจนี่ - เซลโซ่ ออร์ติซ, การ์ลอส โรดรีเกซ - ดอร์ลาน ปาบอน, โรดอลโฟ่ ปิซาร์โร่, เฮซุส กายาร์โด้ - โรเคลิโอ ฟูเนส โมริ เทรนเนอร์ : อันโตนิโอ โมฮาเหม็ด ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน, นาบี เกอิต้า, อดัม ลัลลาน่า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิว็อค โอริกี, เซอร์ดาน ชากีรี่ เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้ตัดสิน : โรเบร์โต้ โตบาร์ (ชิลี) |
|