|
6
ธ.ค. ปืนยังห่วย-พังคาบ้าน!อาร์เซน่อลโดนไบรท์ตันบุกตบหวิว
"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอล่าสุดเปิดบ้านปราชัยให้กับ ไบรท์ตัน ด้วยสกอร์ 1-2 ส่งผลให้ทัพปืนโตไม่รู้จักคำว่าชัยชนะเป็นนัดที่ 9 ติดต่อกันแล้วจากทุกรายการ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม 2562 อาร์เซน่อล 1 - 2 ไบรท์ตัน สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เริ่มเกมอาร์เซน่อลเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน มาถึงนาทีที่ 5 เจ้าถิ่นโหมบุกขึ้นมา เอคตอร์ เบเยริน เติมเกมได้เปิดบอลสุดริมเส้นฝั่งขวาเลยไปถึง เมซุต โอซิล ที่พยายามไคว้บอลต่อไปให้ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ แต่ดันไปติดแข้งไบรท์ตันหวดเคลียร์ออกไปได้ นาทีที่ 9 ทัพปืนโตได้ลุ้นจากลูกเตะมุมบอลเปิดมาเข้าหัว อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ลอยตัวขึ้นโขกหลุดออกเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย ลากาแซตต์ ฟ้องผู้ตัดสินว่าถูกผลักจากด้านหลัง และเมื่อดูภาพช้าเหมือนว่าจะถูก ปาสกาล กรอสส์ ใช้มือดันเล็กน้อยแต่ เกรแฮม สกอตต์ ท่านเปานัดนี้ไม่ได้ว่าอะไร สองนาทีถัดมาเจ้าถิ่นยังคงเป็นฝ่ายครองเกมและบุกขึ้นมาอีกครั้ง โอบาเมย็อง ทำชิ่งหนึ่งสองกับ ลากาแซตต์ หลุดเข้าไปซัดเหน่งๆ แต่ไปติดเซฟ แม็ทธิว ไรอัน บอลกระดอนมาเข้าทาง โอบาเมย็อง ทำท่าจะซ้ำอีกครั้งแต่มีเสียงสัญญาณนกหวีดจากผู้ตัดสินให้เป็นลูกลำหน้าเสียก่อน ผ่านพ้นมาถึงนาทีที่ 18 ไบรท์ตัน ได้จังหวะจบสกอร์หนแรกจาก อารอน คอนนอลลี่ ที่โยกหลอกแผงหลังปืนโตหน้ากรอบเขตโทษก่อนซัดด้วยเท้าขวาแต่น้ำหนักและทิศทางของบอลเบาเกินไปเข้ามือ แบร์นด์ เลโน่ รับไว้สบาย นาทีที่ 20 เอคตอร์ เบเยริน กองหลังอาร์เซน่อลถูกใบเหลืองแรกของเกมเหตุไปตัดฟาวน์ใส่ อารอน คอนนอลลี่ หน้ากรอบเขตโทษก่อนจะหลุดเข้าไปตะบันประตู ต่อเนื่องจากจังหวะดังกล่าว ปาสกาล กรอสส์ รับหน้าที่ยิงฟรีคิกให้ไบรท์ตันเจ้าตัววิ่งเข้ามาหวดเต็มข้อแต่ไม่ผ่านกำแพงเจ้าบ้านบอลกระดอนออกไปพ้นเขตอันตราย นาทีที่ 24 ไบรท์ตัน ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกเตะมุมเป็น อดัม เว็บสเตอร์ ที่เติมขึ้นมาโขกเต็มกระบานแต่ทิศทางยังไม่ดีบอลไปตรงตัว แบร์นด์ เลโน่ รับเข้าซองไว้ได้อีกครั้ง นาทีถัดมาทีมเยือนน่าจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะโหม่งเคลียร์บอลไม่ขาดของ ลูคัส ตอร์เรร่า บอลเลยไปเข้าทาง อารอน คอนนอลลี่ พักอกก่อนซัดเต็มข้อด้วยเท้าขวาบอลพุ่งเลียดหลุดออกเสาไกลไปนิดเดียว ผ่านพ้นมาถึงนาทีที่ 18 ไบรท์ตัน ได้จังหวะจบสกอร์หนแรกจาก อารอน คอนนอลลี่ ที่โยกหลอกแผงหลังปืนโตหน้ากรอบเขตโทษก่อนซัดด้วยเท้าขวาแต่น้ำหนักและทิศทางของบอลเบาเกินไปเข้ามือ แบร์นด์ เลโน่ รับไว้สบาย นาทีที่ 20 เอคตอร์ เบเยริน กองหลังอาร์เซน่อลถูกใบเหลืองแรกของเกมเหตุไปตัดฟาวน์ใส่ อารอน คอนนอลลี่ หน้ากรอบเขตโทษก่อนจะหลุดเข้าไปตะบันประตู ต่อเนื่องจากจังหวะดังกล่าว ปาสกาล กรอสส์ รับหน้าที่ยิงฟรีคิกให้ไบรท์ตันเจ้าตัววิ่งเข้ามาหวดเต็มข้อแต่ไม่ผ่านกำแพงเจ้าบ้านบอลกระดอนออกไปพ้นเขตอันตราย นาทีที่ 24 ไบรท์ตัน ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกเตะมุมเป็น อดัม เว็บสเตอร์ ที่เติมขึ้นมาโขกเต็มกระบานแต่ทิศทางยังไม่ดีบอลไปตรงตัว แบร์นด์ เลโน่ รับเข้าซองไว้ได้อีกครั้ง นาทีถัดมาทีมเยือนน่าจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะโหม่งเคลียร์บอลไม่ขาดของ ลูคัส ตอร์เรร่า บอลเลยไปเข้าทาง อารอน คอนนอลลี่ พักอกก่อนซัดเต็มข้อด้วยเท้าขวาบอลพุ่งเลียดหลุดออกเสาไกลไปนิดเดียว นาทีที่ 28 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นจดสกอร์บ้าง ลากาแซตต์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวบังบอลในเขตโทษทีมเยือนก่อนไหลต่อไปให้ โอบาเมย็อง ที่ยืนตั้งป้อมแปเน้นๆ หวังยัดมุมเสาสองแต่บอลวิ่งผ่านหน้าประตูหลุดออกข้างไปไม่ถึงหลา 5 นาทีถัดมา ไบรท์ตัน ได้ลูกฟรีคิกเกือบครึ่งสนามแล้วเล่นเร็วบอลมาถึง นีล โมแป ก่อนกระชากลากจี้ไปถึงหน้ากรอบเขโทษแล้วหวดด้วยเท้าซ้ายหักข้อ บอลพุ่งทำท่าจะเสียงโค้นเสาแต่ แบร์นด์ เลโน่ จะไม่พลาดพุ่งปัดไว้ได้ด้วยปลายมือแล้วตามมาเก็บบอลไว้ได้ เจ้าบ้านรอดพ้นการเสียประตูอีกครั้ง ไบรท์ตัน ขึ้นนำจนได้ 1-0 นาทีที่ 37 จากลูกเตะมุม ปาสกาล กรอสส์ โยนมาเข้าหัว แดน เบิร์น ขึ้นโหม่งยัดมาถึง อารอน คอนนอลลี่ ที่พยายามพักบอลลงด้วยอกแต่ไม่อยู่กระดอนลองพื้น ดาวิด ลุยซ์ พยายามยื่นเท้าเคลียร์บอลแต่โดนไม่ดีไหลไปเข้าทาง อดัม เว็บสเตอร์ ล้มตัวยิงระยะไม่ถึง 10 หลาเข้าไปหมดปัญญาที่ เลโน่ จะป้องกันไว้ได้ นาทีที่ 40 อาร์เซน่อลเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะหลุดขึ้นไปบรรจงเปิดบอลริมเส้นทางฝั่งขวาของ โอบาเมย็อง เลยไปเข้าหัว โจเซฟ วิลล็อค ที่ได้โขกเต็มๆ แต่ยังไม่ผ่านมือ แบร์นด์ เลโน่ ที่ยังไม่พลาดโชว์เซฟเคลียร์บอลออกไปได้ทำเอาเจ้าตัวถึงกับแสดงอาการสะใจออกมาเลยทีเดียว ทัพปืนโตพยายามเร่งเกมหวังตีเสมอแต่ยังจบสกอร์ไม่ลงจบครึ่งแรกโดน ไบรท์ตัน บุกมานำไปก่อน 1-0 มาลุ้นต่อครึ่งหลัง อาร์เซน่อล ปรับแผนโดยส่งตัวรุกอย่าง นิโกล่าส์ เปเป้ ลงมาเล่นแทน โจเซฟ วิลล็อค นาทีที่ 50 อาร์เซน่อล ตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จจากลูกเตะมุมของ โอซิล เปิดบอลด้วยเท้าซ้ายทางฝั่งขวาบอลลอยโค้งมาเข้าหัว ลากาแซตต์ ที่ขึ้นโหม่งบอลย้อนทำท่าจะออกแต่กลับเป็นว่ามุดเข้าใต้คานไปอย่างสวยงาม และจังหวะนี้ผู้ตัดสินขอหยุดเช็คภาพช้าจากวีเออาร์เพื่อความชัวร์ดูว่า เซอัด โคลาซินัช เข้ามาขัดขวางการป้องกันประตูของ แบร์นด์ เลโน่ หรือไม่ แต่ก็ไร้ปัญหา เกรแฮม สกอตต์ ชี้ให้ฝั่งเจ้าบ้านได้ประตู นาทีที่ 61 ไบรท์ตัน เกือบได้ประตูนำห่างจากจังหวะโต้กลับขึ้นมาทางฝั่งขวาแล้วเปิดบอลเลยมาเข้าหัว แอรอน มอย โขกยัดมาเข้าเท้า นีล โมแป ที่ซัดจ่อๆ ระยะไม่ถึง 10 หลาแต่ถูกปฏิเสธประตูโดย แบร์นด์ เลโน่ ที่โชว์เซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ นาทีที่ 64 อาร์เซน่อล ส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่าย ไบรท์ตัน จากลูกฟรีคิกทางฝั่งขวา โอซิล เปิดบอลโด่งตัดแนวรับทีมเยือนหลุดไปถึง ดาวิด ลุยซ์ ที่เติมเกมขึ้นมาแปบอลกลางอากาศเข้าไป แต่จังหวะนี้ผู้ตัดสินเช็คภาพช้าจากวีเออาร์อีกครั้งและลงโทษเจ้าบ้านเป็นโดย ดาวิด ลุยซ์ ออกตัวไปก่อนที่ โอซิล จะสัมผัสบอลทำให้สกอร์บอร์ดถูกเปลี่ยนกลับมาเสมอกันที่ 1-1 เหมือนเดิม 4 นาทีถัดมา โอบาเมย็อง หลุดเดี่ยวขึ้นไปทางฝั่งขวาก่อนกระชากหนีผู้เล่นไบรท์ตันและกดด้วยเท้าขวาแต่ช้าเกินไปเมื่อแข้งทีมเยือนยื่นเท้าตัดบอลออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด นาทีที่ 72 ลุกเบิร์ก ส่ง คีแรน เทียร์นีย์ ลงมาแทน เซอัด โคลาซินัช และ นาทีที่ 77 ถอด ลากาแซตต์ ที่กระสุนจะด้านออกแล้วส่ง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ลงมาเล่นแทน กระทั้งมาถึงนาทีที่ 80 ไบรท์ตัน ออกนำห่าง 2-1 เมื่อเปิดเกมรุกบุกขึ้นมาทางฝั่งขวาบอลมาอยู่ที่ แอรอน มอย โยกหลอกแข้งเจ้าบ้านก่อนจังหวะแรกแล้วเปิดบอลด้วยเท้าขวายัดไปในกรอบเขตโทษที่จุดนัดพบให้ นีล โมแป เอี้ยวตัวโหม่งเต็มหัวบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม นาทีที่ 87 อาร์เซน่อล น่าได้ประตูตีเสมอจากจังหวะโขกเต็มๆ ของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ในกรอบเขตโทษบอลพุ่งดุจจรวดตกลงพื้นทำท่าจะเสียบโคนเสาแต่ แม็ทธิว ไรอัน ยังทะยานปัดไว้ได้ด้วยปลายมืออย่างเหลือเชื่อ เวลาที่เหลือทัพปืนใหญ่พยายามโหมเกมหวังตามตีเสมอแต่ไม่สำเร็จจบเกม อาร์เซน่อล เปิดบ้านปราชัยให้ ไบรท์ตัน ทีมโซนท้ายตารางคะแนน ไป 1-2 ส่งผลให้ เฟรดริก ลุงเบิร์ก ยังไม่สามารถพาอาร์เซน่อลคว้าชัยได้เลยนับแต่รับหน้าที่กุนซือขัดตาทัพ โดยพวกเขาไม่ชนะใครเป็นนัดที่ 9 ติดต่อกันในทุกรายการเข้าไปแล้ว รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - ดาวิด ลุยซ์, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, เซอัด โคลาซินัช (คีแรน เทียร์นีย์ น.72), เอคตอร์ เบเยริน - กรานิต ชาคา, ลูคัส ตอร์เรร่า - โจเซฟ วิลล็อค (นิโกล่าส์ เปเป้ น.46), เมซุต โอซิล, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง - อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ (กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ น.77) สำรองไม่ได้ใช้ : คาลั่ม แชมเบอร์ส, รีสส์ เนลสัน, มัตเตโอ เกนดูซี่ ไบรท์ตัน (3-4-2-1) : แม็ทธิว ไรอัน - ลูอิส ดังค์, อดัม เว็บสเตอร์, เดล สตีเฟ่นส์ - ดาวี่ พร็อปเปอร์, แอรอน มอย, แดน เบิร์น, สตีเว่น อัลซาเต้ (เชน ดัฟฟี่ น.88) - ปาสกาล กรอสส์ (เลอันโดร ทรอสซาร์ น.80), อารอน คอนนอลลี่ (มาร์ติน มอนโตย่า น.76) - นีล โมแป - ปาสกาล กรอสส์, อารอน คอนนอลลี่ - นีล โมแป สำรองไม่ได้ใช้ : แบร์นาร์โด้, อีฟส์ บิสซูม่า, เดวิด บัตตัน, เกล็นน์ เมอร์เร่ย์ ผู้ตัดสิน : เกรแฮม สกอตต์ |
|