|
|
|
|
5
ธ.ค. เลสเตอร์เฉียบไล่อัดวัตฟอร์ด แซงแมนซิตี้ขึ้นรองฝูง
 เลสเตอร์ ซิตี้ ยังยอดเยี่ยมหลังเปิดรังไล่อัด วัตฟอร์ด ทีมบ๊วยของตาราง 2-0 จากจุดโทษของ เจมี่ วาร์ดี้ ที่หวดนำดาวซัลโวเพิ่มที่ 14 ประตูในลีก ก่อนเจมส์ แมดดิสันซัดปิดท้ายช่วงทดเจ็บ ให้ทีมเก็บสามแต้มแซง "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงมี 35 คะแนน สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เลสเตอร์ ก่อนแข่งโดน "เรือใบสีฟ้า" แซงขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่า เกมนี้เปิดบ้านรับการมาเยือนของ วัตฟอร์ด ทีมบ๊วยของตาราง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เกมนี้เปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวหลังโดยส่ง คริสเตียน ฟุคส์ ลงเล่นแทน เบน ชิลเวลล์ แนวรุกวาง เจมี่ วาร์ดี้ โดยมี เจมส์ แมดดิสัน และยูริ ตีเลอมันส์ คุมแดนกลาง ขณะที่ "แตนอาละวาด" ที่ยังหากุนซือใหม่ไม่ได้ให้ เฮย์เดน มัลลินส์ รักษาการแทน โดยส่ง ทรอย ดีนี่ย์ กลับมายืนตัวจริงเล่นร่วมกับ อิสไมล่า ซาร์ และ เคราร์ด เดวโลเฟว เปิดฉากมาแค่ 2 นาทีแรก ทัพจิ้งจอกได้เสียวก่อนเลย หลัง เจมี่ วาร์ดี้ หลุดเข้าไปในกรอบก่อนดึงหลบแนวรับวัตฟอร์ดอย่างเหนือแล้วจ่ายให้ อาโยเซ่ เปเรซ ยิงโล่งๆแต่ข้ามคาน ทว่าผู้ตัดสินเป่าว่า วาร์ดี้ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนแล้ว นาที 24 เลสเตอร์ ได้ลุ้นขึ้นนำอีกครั้ง เจมส์ แมดดิสัน ดึงแข้งวัตฟอร์ดถึงสามคนก่อนจ่ายออกซ้ายให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ หลุดเข้าไปหวังซัดมุมแคบแต่บนเข้าข้างตาข่ายเสาแรกอย่างน่าเสียดาย นาที 35 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ โชว์สกิลเลี้ยงบอลอีกครั้ง หลังลากตัดจากแดนซ้ายเข้ากลางหลบแข้งวัตฟอร์ดก่อนเข้าไปติดเซฟ เบน ฟอสเตอร์ อีกสามนาทีต่อมา อาโยเซ่ เปเรซ จ่ายยัดเข้ากลางให้ เจมี่ วาร์ดี้ ก่อนโดน อาเดรียน มาริอัปป้า กระแทกล้มไปในเขตโทษ แต่หลังผู้ตัดสินดู VAR ปฎิเสธไม่ให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่นพร้อมกับแจกใบเหลืองให้ วาร์ดี้ อีกด้วย นาทีสุดท้ายครึ่งแรก วิลล์ ฮิวจ์ส ได้โอกาสยิงในกรอบแต่บอลไปติด ทรอย ดีนี่ย์ ออกหลังไปแบบน่าเสียดาย จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ยังเสมอกับ วัตฟอร์ด 0-0 ครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ส ถอดเอา อาโยเซ่ เปเรซ ออกแล้วส่ง เดนนิส ปราต ลงเล่นแทน นาที 51 ริคาร์โด้ เปเรยร่า เปิดบอลให้ อาร์วี่ย์ บาร์นส์ ที่เล่นได้โดดเด่นได้ซัดด้วยซ้ายเต็มแรงในกรอบ แต่บอลยังไปติดเซฟของ เบน ฟอสเตอร์ ทว่า นาที 53 เจ้าถิ่นมาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง อดัม มาซิน่า ใช้แขนไปฟาด จอนนี่ อีแวนส์ ในเขตโทษ เคร์ก พอว์สัน ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษและหลังจากเช็กกับ วีเออาร์ ยืนยันอีกที ก่อนที่ เจมี่ วาร์ดี้ จะซัดเข้าไปให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำวัตฟอร์ด 1-0 และเป็นประตูที่ 14 ในลีกนำเดี่ยวดาวซัลโว นาที 60 เลสเตอร์ เกือบได้เม็ดที่สองนำห่าง ยูริ ตีเลอมันส์ จ่ายบอลอย่างเนียนมาให้ เจมี่ วาร์ดี้ แต่จังหวะอัดด้วยซ้ายในกรอบดันมาโดน อดัม มาซิน่า บล็อคไว้ได้หวุดหวิด และจากลูกเตะมุม แมดดิสัน เปิดมาให้ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ โขกเต็มหัวแต่บอลยังไม่ผ่านมือของฟอสเตอร์ นาที 84 เดนนิส ปราต ได้ลองหวดด้วยขวาแต่บอลยังไปติดบล็อคของ อาเดรียน มาริอัปป้า ออกหลัง อีก 4 นาทีต่อมา อับดุลลาย ดูกูเร่ ห้องเครื่องทีมเยือนโขกเต็มหัวแต่บอลหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้นเช่นกัน ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+5 จิ้งจอกมาได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะที่ เจมส์ จัสติน ตัวสำรองโขกบอลต่อให้ เจมส์ แมดดิสันหลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือ เบน ฟอสเตอร์เข้าไป จบเกม เลสเตอร์ เปิดบ้านไล่ถลุง วัตฟอร์ด 2-0 คว้าสามแต้มพร้อมแซง แมนฯซิตี้ กลับไปนั่งรองจ่าฝูงมี 35 คะแนน รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เลสเตอร์ (4-1-4-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่ อีแวนส์, คักลาร์ โซยุนชู, คริสเตียน ฟุคส์ - วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ - อาโยเซ่ เปเรซ, ยูริ ตีเลอมันส์, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - เจมี่ วาร์ดี้ ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส วัตฟอร์ด (4-3-3) : เบน ฟอสเตอร์ - กิโก้ เฟเมเนีย, เคร็ก แคธคาร์ท, อาเดรียน มาริอัปป้า, อดัม มาซิน่า - อับดูลาย ดูกูเร่, เอเตียน กาปู, วิลล์ ฮิวจ์ส - อิสไมล่า ซาร์, ทรอย ดีนี่ย์, เคราร์ด เดวโลเฟว ผู้จัดการทีม : เฮย์เดน มัลลินส์ (รักษาการ) ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน |
|
