กาเบรียล เชซุส ยอดดาวยิง "เรือใบสีฟ้า" เรียกฟอร์มเก่งจนได้หลังเหมา 2 ประตูพาทีมบุกถล่ม เบิร์นลี่ย์ 4-1 เก็บ 3 แต้มสำคัญมีเพิ่มเป็น 32 คะแนนเท่า เลสเตอร์ ซิตี้ แต่มีประตูได้ - เสีย ดีกว่าขยับแซงยึดรองจ่าฝูง ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอังคารที่ผ่านมา

สนาม : เทิร์ฟ มัวร์

ฌอน ไดช์ พาทีม เบิร์นลี่ย์ อยู่อันดับ 10 ในพรีเมียร์ลีกเวลานี้โดยฟอร์มล่าสุดพวกเขาเปิดบ้านแพ้ให้กับ คริสตัล พาเลซ ไป 0-2 แต่สถานการณ์ยังค่อนข้างปลอดภัยอยู่

ทางด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ เรือใบสีฟ้า พาทีมสะดุดเมื่อสุดสัปดาห์ด้วยการโดน นิวคาสเซิ่ล ไล่ตีเสมอ 2-2 ที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค นั้นทำให้พวกเขาตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล เพิ่มเป็น 11 แต้มแล้ว

เกมเริ่มได้ 4 นาที แมนฯ ซิตี้ ฉวยโอกาสเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะสกัดไม่ดีของผู้เล่น เบิร์นลี่ย์ บอลแฉลบมาเข้าทาง กาเบรียล เชซุส หลุดเดียวเข้าไปดึงหลบ เบน มี ยังดีที่ แยน ทาร์คอฟสกี้มาซ้อนได้ทัน

อีก 3 นาทีต่อมา "เรือใบสีฟ้า" ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาหยอดย้อนมาให้ อังเคลินโญ่ "ฮาฟวอลเล่ย์" ไปเข้าทาง กาเบรียล เชซุส ไขว้หลังเข้

ต่อมานาทีที่ 24 แมนฯ ซิตี้ ทะยานขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับเร็วของ เควิน เดอ บรอยน์ ลากพาขึ้นมาก่อนโดนเสียบร่วงลงไปบอลมาเข้าทาง ดาบิด ซิลบา จ่ายออกซ้ายให้ กาเบรียล เชซุส พาเข้าเขตโทษก่อนเอียงตัวปั่นโค้งด้วยขวาตุงตาข่ายงามหยด

ก่อนหมดครึ่งแรก 15 นาที "เรือใบสีฟ้า" พลาดโอกาสบวกสกอร์เพิ่มเป็นจังหวะทำชิ่งของ แบร์นาร์โด ซิลวา จ่ายคืนให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนตวัดเข้าในให้ ราฮีม สเตอร์ลิงสอดมายิงติดขา นิค โป๊ปาประตูไปแต่น่าเสียดายเจ้าตัวยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า

ช่วงท้ายนาทีที่ 40 เบิร์นลี่ย์ ตอบโต้คืนบ้างจากลูกเปิดของ อารอน เลนน่อน บอลลึกมาเสาไกลถึง ดไวท์ แม็คนีล สอดมาได้ซัดแต่ไปติดหลัง คริส วู้ด เด้งออกมา

และจากจังหวะต่อเนื่อง แมนฯ ซิตี้ สวนคืนทันควัน เควิน เดอ บรอยน์ ครอสออกขวาให้ แบร์นาร์โด ซิลวา เอียงซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟ นิค โป๊ป อีกครั้ง

หมดครึ่งเวลาแรก เบิร์นลี่ย์ 0 แมนฯ ซิตี้ 1

นาทีที่ 50 "เรือใบสีฟ้า" ครองบอลขึงอนู่นานก่อนมาหนีห่างออกไปจากจังหวะเปิดทางขวาของ แบร์นาร์โด ซิลวา หยอดข้ามแนวรับ เบิร์นลี่ย์ ให้ กาเบรียล เชซุส สอดตัดหน้า ฟิล บาร์ดสลี่ย์ หวดเข้าสามเหลี่ยมไม่เหลือ เบิร์นลี่ย์ 0 แมนฯ ซิตี้ 2

4 นาทีต่อมา กาเบรียล เชซุส พลาด "แฮตทริก" หลังรับบอลแทงช่องจากเพื่อนก่อนใช้ความสามารถเฉพาะตัวหมุนหนี ฟิล บาร์ดสลี่ย์ หลุดเข้าเขตโทษแต่เจ้าตัวยิงหลุดออกหลังเหลือเชื่อ

เจ้าถิ่นยิงตรงกรอบครั้งแรกต้องรอถึงนาทีที่ 60 เป็นฟรีคิกด้วยซ้ายของ ดไวท์ แม็คนีล ซัดไปติดมือ เอแดร์ซอน ทุบลงพื้นก่อนตามตะปปเอาไว้ได้

นาทีที่ 68 ทีมเยือนได้ประตูเพิ่มจากบอลทางฝั่งซ้ายของ อังเคลินโญ่ ครอสเข้าในและเป็น เบน มี โขกสกัดมาเข้าทาง ดาบิด ซิลบา ซัดไปติดบล็อคบอลไหลมาเข้าทาง โรดรี้ ตามมาตะบันเต็มข้อเสียบใต้คานเข้าไป

นาทีที่ 86 ทีมเยือนได้ประตูปิดกล่องจากการจ่ายบอลเข้ากลางของ แบร์นาร์โด ซิลวา และเป็น ริยาด มาห์เรซ สอดมารับบอลก่อนโชว์ลีลาดึงมาซัดด้วยขวาหนีมือ นิค โป๊ป เสียบเสา

2 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นมาได้ประตูปลอบใจเป็นความผิดพลาดของแนวรับ แมนฯ ซิตี้ ปล่อยให้บอลชุลมุนในเขตโทษ ก่อนหลุดมาถึง ร็อบบี้ เบรดี้ ยิงหนีมือ เอแดร์ซอน เบียดเสาแรก

จบเกม เบิร์นลี่ย์ 1 แมนฯ ซิตี้ 4 ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เก็บ 3 แต้มสำคัญมีเพิ่มเป็น 32 คะแนนเท่า เลสเตอร์ ซิตี้ แต่มีประตูได้ - เสีย ดีกว่าขยับแซงยึด รองจ่าฝูง สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง

เบิร์นลี่ย์ (4-4-2) : นิค โป๊ป - ฟิล บาร์ดสลี่ย์, แยน ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, เอริก ปีเตอร์ส - แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ (แอชลี่ย์ บาร์นส์ น.59), เจฟฟ์ เฮนดริก, แจ็ค คอร์ก - ดไวท์ แม็คนีล (ร็อบบี้ เบรดี้ น.75), อารอน เลนน่อน - คริส วู้ด (เจย์ โรดริเกซ น.59)

ผู้จัดการทีม : ฌอน ไดช์

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, แฟร์นันดินโญ่ (เอริค การ์เซีย น.85), อังเคลินโญ่ - เควิน เดอ บรอยน์ (ฟิล โฟเด้น น.80), โรดรี้, ดาบิด ซิลบา - แบร์นาร์โด ซิลวา, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง (ริยาด มาห์เรซ น.72)

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ผู้ตัดสิน : โจนาธาน มอสส์

www.siamsport.co.th