2
ธ.ค.
เลสเตอร์หืดดับเอฟเวอร์ตันทดเจ็บ แซงเรือขึ้นรองฝูง


เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ กลายเป็นฮีโร่ของทัพจิ้งจอกในเกมนี้ หลังซัดประตูชัยในช่วงทดเวลาเจ็บพา เลสเตอร์ ซิตี้ พลิกแซงกลับมาคว้าชัยเหนือ เอฟเวอร์ตัน สุดหืด 2-1 คว้าชัยในลีกเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกันแถมมีเพิ่มเป็น 32 คะแนน แซง "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงตาม ลิเวอร์พูล 8 คะแนน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

"จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มร้อนแรงสุดๆ ชนะในลีกมา 5 เกมติดต่อกัน แถม4เกมล่าสุดไม่เสียประตูให้คู่แข่งอีกด้วย เกมนี้หากคว้าชัยเหนือ เอฟเวอร์ตัน ที่ฟอร์มแย่อยู่ท้ายตารางได้จะแซงแชมป์เก่า "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงทันที

เริ่มเกมมา 10 นาทีแรก เจ้าบ้าน "จิ้งจอก" ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะยิงของ อาโยเซ่ เปเรซ แต่บอลยังไม่ผ่านมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด อีกสามนาทีต่อมา ริคาร์โด้ เปเรยร่า หักมาให้ อาโยเซ่ เปเรซ อีกหนแต่คราวนี้กดด้วยขวาบอลพุ่งถากเสาออกไปแบบได้เสียว

นาที 23 กลายเป็น "ทอฟฟี่" ที่บุกมาขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะขึ้นบอลทางขวา ฌิบริล ซิดิเบ้ เปิดบอลมากลางประตูให้ ริชาร์ลิซอน โขกบอลตุงตาข่าย

นาที 34 เจมี่ วาร์ดี้ ล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรบอกเป็นจังหวะพุ่งล้ม ทว่าไม่ถึงนาทีต่อมา เบน ชิลเวลล์ แตะบอลหลบ เมสัน โฮลเกต ก่อนล้มลงไป เกรแฮม สกอตต์ เป่าให้จุดโทษแก่เลสเตอร์ ทว่ามีสัญญาณจาก VAR ปฎิเสธไม่ให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่น หลังมองว่า โฮลเกต ยังไม่ได้สัมพัสตัวชิลเวลล์

ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก นาที 45+1 โดมินิก คัลเวิร์ท-เลวิน ลากเข้าไปอัดด้วยซ้ายในกรอบแต่ยังดีที่แนวรับเจ้าถิ่นยังมาขวางไว้ได้

จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ ตามหลัง เอฟเวอร์ตัน 0-1

ครึงหลัง นาที 50 บอลต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ลูก้าส์ ดีญ เปิดบอลมาเข้าหัว ไมเคิ่ล คีน แต่บอลยังไปตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล รับไว้ได้

อีก 4 นาทีถัดมาเป็นจังหวะสวนกลับของเลสเตอร์บ้าง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ผ่านบอลให้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า หลุดเข้าไปอัดด้วยขวาแต่บอลยังไปโดน พิคฟอร์ด เซฟไว้หวุดหวิดก่อนที่ ซิดิเบ้ จะเคลียร์ออกหลังไป

นาที 62 เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แก้เกมก่อนเปลี่ยนตัวคนแรกเอา เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงมาเล่นแทน อาโยเซ่ เปเรซ

ก่อนอีก 6 นาทีต่อมา "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" จะพังประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ บอลสวนกลับจาก เอ็นดิดี้ พาบอลขึ้นมาแล้วแทงต่อให้ อิเฮียนาโช่ ปาดบอลเลียดไปเสาไกลถึง เจมี่ วาร์ดี้ ตามมายิงด้วยซ้ายจ่อๆเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูที่ 13 นำดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก

นาที 73 วาร์ดี้ ครอสบอลเข้ากลางไปให้ เจมส์ แมดดิสัน แต่หวดด้วยขวาลูกนี้บอลยังไม่ผ่านมือ พิคฟอร์ด แม้อีกสองนาทีต่อมา วาร์ดี้ จะได้โขกจ่อๆบ้างแต่บอลเหินคานไปแบบหวุดหวิด

นาที 83 บอลสวนกลับของ "จิ้งจอก" ขึ้นมาแบบได้ลุ้น วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ จ่ายบอลทะลุให้ ยูริ ตีเลอมันส์ กดด้วยขวาบอลพุ่งผ่านเสาแบบได้เสียว

ถัดมาอีก 3 นาที เป็นโอกาสของ "ทอฟฟี่" บ้าง คราวนี้ มอยเซ่ คีน ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาตะบันด้วยขวาในกรอบแต่บอลยังไม่ผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

แต่แล้วช่วงทดเวลาเจ็บ นาที 90+3 เลสเตอร์ มาได้ประตูแซงขึ้นนำ 2-1 ริคาร์โด้ เปเรยร่า ผ่านบอลไปหน้าประตูให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือ พิคฟอร์ด เข้าไปตุงตาข่าย แม้ว่าไลน์แมนจะยกธงล้ำหน้า แต่ VAR ตัดสินว่าอิเฮียนาโช่อยู่ในไลน์เดียวกับแนวรับทีมเยือนก่อนจะให้เป็นประตูเจ้าถิ่น

จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ เบียดเอาชนะเอฟเวอร์ตัน หวุดหวิด 2-1 คว้าสามแต้มแซง "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-1-4-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่ อีแวนส์, คักลาร์ โซยุนชู, เบน ชิลเวลล์ - วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ - อาโยเซ่ เปเรซ, ยูริ ตีเลอมันส์, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - เจมี่ วาร์ดี้

ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

เอฟเวอร์ตัน (3-4-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - ไมเคิ่ล คีน, เยร์รี่ มีน่า, เมสัน โฮลเกต - ฌิบริล ซิดิเบ้, ทอม เดวิส, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, ลูก้าส์ ดีญ - อเล็กซ์ อิโวบี้, โดมินิก คัลเวิร์ท-เลวิน, ริชาร์ลิซอน

ผู้จัดการทีม : มาร์โก ซิลวา

ผู้ตัดสิน : เกรแฮม สกอตต์

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.