28
พ.ย.
ลิเวอร์พูลถอนแค้นไม่สำเร็จแค่เจ๊านาโปลี ชี้ชะตาเข้ารอบนัดท้าย


"หงส์แดง" ทำได้แค่เสมอกับ นาโปลี ในแอนฟิลด์ 1-1 หลังโดนขึ้นนำไปก่อนช่วง 45 นาทีแรก ก่อนที่เดยัน ลอฟเรน จะมาโขกตีเสมอแบ่งแต้มกันไป ทำให้ล้างตาถอนแค้นจากพ่ายนัดแรกไม่สำเร็จ ทั้งหนึ่งคะแนนทำให้ ลิเวอร์พูล มีเพิ่มเป็น 10 คะแนนยังนำเป็นจ่าฝูง แต่ต้องลุ้นเข้ารอบในเกมบุกไปเยือนซัลซ์บวร์กนัดสุดท้าย ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : แอนฟิลด์

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ 5 ของกลุ่ม อี ลิเวอร์พูล จ่าฝูงของกลุ่ม ก่อนแข่งมี 9 คะแนน รับการมาเยือนของ นาโปลี ที่มี 8 คะแนน เกมนี้หากลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าชัยจะการันตีแชมป์กลุ่มพร้อมคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

"หงส์แดง" เกมรุกได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ ทว่าเกมนี้ดร็อป เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ไว้ข้างสนามแล้วให้ โจ โกเมซ กับเจมส์ มิลเนอร์ สตาร์ทตัวจริงแทน ขณะที่ฝั่ง นาโปลี ของ คาร์โล อันเชลอตติ ขาดเก่งอย่าง ลอเรนโซ่ อินซินเย่, และ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ที่บาดเจ็บ ทำให้เกมนี้วาง เออร์วิง โลซาโน่ จับคู่แดนหน้ากับ ดรีส์ เมอร์เท่นส์

ช่วงต้นเกมทั้งคู่ยังหาโอกาสเข้าไปยิงแบบจะๆ ไม่ได้เลย นาที 8 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลองซัดไกลกว่า 35 หลาแต่บอลก็หลุดกรอบออกไปแบบหมดลุ้น

นาที 14 เกมต้องหยุดชั่วคราว หลัง ฟาบินโญ่ มีอาการเจ็บจนต้องให้ทีมแพทย์ปฐมพยาบาล ก่อนนาที 19 "หงส์แดง" ตัดสินใจเปลี่ยนเอา จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ลงไปเล่นแทน

กระทั่ง นาที 21 นาโปลีทำช็อกแฟนหงส์ก่อนเลย เมื่อพังประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวแทงบอลของ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ให้ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนควบบอลเข้ามาในกรอบทางขวาแล้วกดด้วยเท้าขวาผ่านมือ อลีสซง เสียบเสาไกลอย่างสวยงาม

โอกาสยิงเข้ากรอบหนแรกของ "หงส์แดง" ต้องรอถึงนาที 36 บอลจาก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสยาวไปหน้าประตูให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ โขกแต่บอลไปตรงตัว อเล็กซ์ เมเร็ต รับเข้ากรอบไว้ได้

ช่วงทดเจ็บ นาที 45+4 เจมส์ มิลเนอร์ โชว์สกิลเลี้ยงแหวกแนวรับนาโปลีเข้าไปซัดมุมแคบสุดแรงแต่บอลยังถูก อเล็กซ์ เมเร็ต เซฟไว้ได้อีก

จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ตามหลัง นาโปลี 0-1

ครึ่งหลัง นาที 56 "หงส์แดง" เกือบได้ลุ้นลูกตีเสมอ อเล็กซ์ เมเร็ต นายด่านของ "อัซซูร์ร่า" ออกมาตัดบอลพลาด โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เก็บตกอัดด้วยขวาบอลพุ่งจะเข้าอยู่แล้วแต่ คาลิดู คูลิบาลี่ ยังสกัดบอลเส้นประตูได้แบบหวุดหวิด

เกมรุกของ คล็อปป์ เริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ นาที 61 คราวนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จ่ายเข้ากลางให้ โม ซาลาห์ ซัดด้วยซ้ายเน้นๆแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือนายด่านนาโปลีอีก

นาที 65 ลิเวอร์พูล มาทวงประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ บอลจากจังหวะคอนเนอร์ทางมุมธงด้านขวา เจมส์ มิลเนอร์ เปิดบอลมากลางประตูให้ เดยัน ลอฟเรน เทกตัวเบียด เมอร์เท่นส์ ก่อนโขกบอลซุกก้นตาข่าย แม้แข้งนาโปลีจะประท้วงว่าเป็นการฟาวล์ไปก่อนแล้ว แต่ไม่เป็นผล ผู้ตัดสินที่รับสัญญาณจากวีเออาร์เป่ายืนยันให้เป็นประตู

เจ้าถิ่นยังโหมบุกอย่างหนัก แต่แนวรับของนาโปลีเล่นกันได้เหนียวแน่นไม่เปิดช่องว่างให้แข้งเจ้าถิ่นได้ลั่นไกแบบถนัด

ท้ายเกม นาที 88 โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ได้ขึ้นโขกในกรอบแต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกไป จบเกม ลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอกับ นาโปลี 1-1 แบ่งแต้มกันไป

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - โจ โกเมซ, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่

เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

นาโปลี (3-5-2) : อเล็กซ์ เมเร็ต - นิโคล่า มักซิโมวิช, คอสตาส มาโนลาส, คาลิดู คูลิบาลี่ - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, ฟาเบียน รูอิซ, อัลลัน, ปิโอเตร เซียลินสกี้, มาริโอ รุย - เออร์วิง โลซาโน่, ดรีส์ เมอร์เท่นส์

เทรนเนอร์ : คาร์โล อันเชลอตติ

ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เดล เซร์โร่ (สเปน)

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.