มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่องปิดท้าย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านโชว์ฟอร์มเทพไล่สอนเชิง ปาร์ติซาน 3-0 รับสามแต้มเต็มพร้อมการันตีผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (รอบแบ่งกลุ่มกลุ่ม แอล) เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก
(รอบแบ่งกลุ่มกลุ่ม แอล)
วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2562
แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 3 - 0 ปาร์ติซาน (เซอร์เบีย)


สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของศิษย์เก่าก้นกุฏิอย่าง "น้าลูกอม" โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ปรับทัพแทบจะทั้งทีมมาในระบบ 4-2-3-1

นายด่านใช้ เซร์คิโอ โรเมโร่ ส่วนแผงหลังมี แฮร์รี่ แม็กไกวร์, มาร์กอส โรโฮ ยืนคู่ แล้วใช้ แอชลี่ย์ ยัง (กัปตันทีม) กับ อารอน แวน-บิสซาก้า เล่นวิงแบ็กซ้ายขวา

เริ่มเกมมาถึงนาทีที่ 3 แมนยูได้ทักทายแบบเสียวไส้ก่อน มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายบอลให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดบอลกองก้นตาข่าย แต่ลูกนี้มีธงไลน์แมนชูกขึ้นเป็นลูกล้ำหน้า

นาทีที่ 5 ปาร์ติซาน ตอบโต้คืนมาทันควัน อูมาร์ ซาดิค ชิพบอลโด้งข้ามหัว เซร์คิโอ โรเมโร่ เข้าประตูไปแต่ลูกนี้ ซาดิค เล่นบอลจากตำแหน่งล้ำหน้าเลยอดได้ประตู

นาทีถัดมาผีแดงพลาดได้ประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อ แรชฟอร์ด ได้แปเน้นๆ ระยะไม่ถึง 10 หลาแบบโล่งๆ แต่บอลดันหลุดออกข้างประตูไปไม่ถึงหลา

แมนยู ที่บุกอย่างต่อเนื่องน่าจดสกอร์อีกครั้ง นาทีที่ 9 ฆวน มาต้า หลุดขึ้นไปสุดริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนหักหลอกแผงหลังทีมเยือนแล้วถวายพานให้ แรชฟอร์ด วิ่งเข้ามาบวกด้วยซ้ายเน้นๆ แต่ไม่ผ่าน สตอยโควิช ผู้รักษาประตูปาร์ติซานที่ออกมาปิดมุมไวรับไว้ได้

ผ่านมาถึงนาทีที่ 16 ทัพอสูรแดงได้เสียวไส้อีกหน อารอน แวน-บิสซาก้า เติมเกมกระชากขึ้นมาสุดริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดบอลโด่งเลยไปเสาไกลถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ยืนตั้งป้อมหวดบอลด้วยเท้าขวาแบบไม่ตกพื้นแต่ยังคุมทิศทางไม่ได้เหินข้ามคานออกไปไกล

แมนยู ขึ้นนำ 1-0 จนได้นาทีที่ 22 จากจังหวะใช้ความเร็วของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กระชากจี้เข้าหากรอบเขตโทษท่ามกลางวงล้อมแข้งทีมเยือนถึงหกคนแล้วดีดบอลด้วยข้างเท้าขวาเลยไปถึง เมสัน กรีนวู้ด ที่จับบอลแล้วแต่งทรงให้เข้าเท้าซ้ายก่อนซัดหลอกย้อนทางหลอก วลาดิเมียร์ สตอยโควิช นายด่านปาร์ติซานเข้าไปอย่างง่ายดาย

นาทีที่ 26 ปาร์ติซาน ได้ลุ้นบ้างเมื่อ เซย์ดูบา ซูมาห์ ตัดสินใจส่องไกลเกือบ 30 หลาแต่ดูเหมือนทิศทางไม่ได้บอลหลุดออกไปไกล

นาทีที่ 27 ผีแดงบุกขึ้นมาอีกครั้งและได้จังหวะจบโดย อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล ที่บรรจงหวดด้วยเท้าขวาหน้ากรอบระยะ 19 หลาโดยประมาณแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

ใบเหลืองแรกของเกมเกิดขึ้นนาทีที่ 32 เป็นของฝั่งปาร์ติซานเมื่อ บริบาส นัตโช่ ไปเสียบตัดเกมด้านหลังใส่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์

ปีศาจแดงได้ประตูนำห่าง 2-0 ในนาทีถัดมาเมื่อแข้งปาร์ติซานเคลียร์บอลจากหลังไม่ดีไปติด เมสัน กรีนวู้ด กระดอนเข้าไปเข้าทาง มาร์กซิยาล ที่จับบอลได้ก่อนใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชากลากเลื้อยหลอกแผงหลังทีมเยือนถึงสามคนก่อนดีดบอลด้วยข้างเท้าขวาสวนตัว สตอยโควิช เข้าไปกองก้นตาข่าย

นาทีที่ 34 แมนยู ได้ใจเปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่องพลาดได้ประตูที่สามอย่างน่าเสียดาย แรชฟอร์ด ผ่านบอลให้ มาร์กซิยาล หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดแต่เจ้าตัวดันยิงใต้บอลเหินข้ามคานอย่างเหลือเชื่อ

ผ่านมาถึงนาทีที่ 42 ทัพอสูรแดงที่เกมนี้คึกเต็มสูบได้ลุ้นประตูอีกครั้ง มาร์กซิยาล จ่ายบอลให้ แรชฟอร์ด หลุดเดียวขึ้นไปทางฝั่งซ้ายได้หวดดวลเดี่ยวกับ สตอยโควิช แต่ไปติดเซฟก่อนบอลกระเด้งมาโดนตัวแรชฟอร์ดอีกครั้งหลุดออกหลังไป

สองนาทีต่อมา แอชลี่ย์ ยัง เติมเกมขึ้นมาโชว์ความเหนือชั้นกระดกบอลหลอกแข้งปาร์ติซานก่อนดึงบอลลงแล้วกดเต็มข้อในกรอบเขตโทษระยะประมาณ 17 หลาแต่ทิศทางไม่ได้ข้ามคานออกไป

นาทีที่ 45+1 เซย์ดูบา ซูมาห์ แข้งทีมเยือนหลุดเข้าไปแปบอลหลุดข้างตาข่ายแต่จังหวะนี้ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า

จบครึ่งแรก แมนยู เจ้าบ้านโชว์ฟอร์มได้อย่างเร้าใจออกนำ ปาร์ติซาน 2-0 ทำเอาเหล่าสาวกอสูรแดงพร้อมเพรียงส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่มในโรงละครแห่งความฝัน

มาลุ้นต่อครึ่งเวลาหลัง เริ่มเกมมาถึงแค่นาทีที่ 49 แมนยูนำห่าง 3-0 จากจังหวะต่อบอลสุดสวยเริ่มจาก อารอน แวน-บิสซาก้า เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งขวาส่งต่อให้ ฆวน มาต้า เปิดบอลโด่งข้ามฝั่งเลยมาถึง แอชลี่ย์ ยัง ที่แปะบอลลงนิ่มๆ ให้ แรชฟอร์ดกดด้วยเท้ายซ้ายเต็มข้อระยะประมาณ 17 หลาในกรอบเขตโทษทีมเยือนบอลพุ่งอย่างกับจรวดเสียงมุมสามเหลี่ยมบนเข้าไป

นาทีที่ 52 ผีแดงได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะประมาณ 23 หลา มาร์กซิยาล รับบทแข้งสังหารวิ่งเข้ามาบรรจงปั่นแต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานไปไกล

นาทีที่ 59 แมนยูได้ลูกฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลา เป็น เฟร็ด ที่วิ่งเข้ามาหวดเต็มข้อบอลพุ่งเข้ากรอบทำท่าจะเสียบใต้คานแต่ สตอยโควิช นายด่านปาร์ติซานโชว์เหินตัวเซฟไว้ได้

ผ่ามมาถึงนาทีที่ 63 แมนยูเปลี่ยนผู้เล่นคนแรกของเกมโดยส่ง เจมส์ การ์เนอร์ ลงมาแทน เฟร็ด ที่ดูเหมือนแทบจะไม่มีบทบาทสักเท่าไรในเกมนี้

4 นาทีถัดมา เมื่อ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มั่นใจว่าทัพผีแดงครองเกมไว้ได้หมดแล้วและด้วยประตูที่นำห่างถึงสามเม็ดจึงตัดสินใจถอด มาร์คัส แรชฟอร์ด ออกมาพักและส่ง อันเดรียส เปเรยร่า ลงสนาม

นาทีที่ 75 แมนยูเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายโดยถอด สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ดูเหมือนว่าจะมีอาการบาดเจ็บออกแล้วส่ง เจสซี่ ลินการ์ด ลงมาเล่นแทน

ช่วงเวลาที่เหลือดูเหมือนแมนยูจะผ่อนเกมลงและเจาะประตูเพิ่มไม่ได้จบเกม ทัพผีแดงเปิดบ้านโชว์สอนเชิงบอลไล่ต้อนใส่ ปาร์ติซาน 3-0

แมนยูที่รับสามแต้มเต็มขึ้นนำจ่าฝูงและผ่านเข้ารอบต่อไปเรียบร้อยแล้ว แต่จะจบแชมป์กลุ่มหรือไม่ต้องไปวัดกับ อาแซ่ด อัลค์มาร์ ในเกมที่เหลืออีกครั้ง



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : เซร์คิโอ โรเมโร่ - แฮร์รี่ แม็กไกวร์, มาร์กอส โรโฮ, อารอน แวน-บิสซาก้า, แอชลี่ย์ ยัง - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (เจสซี่ ลินการ์ด น.75), เฟร็ด (เจมส์ การ์เนอร์ น.63) - ฆวน มาต้า, มาร์คัส แรชฟอร์ด (อันเดรียส เปเรยร่า น.67), เมสัน กรีนวู้ด - อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล
สำรองไม่ได้ใช้ : ฟิล โจนส์, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์, ลี แกรนท์, แดเนียล เจมส์

ปาร์ติซาน (4-4-2) : วลาดิเมียร์ สตอยโควิช - สตาร์ฮิย่า พาฟโลวิช, โบยาน ออสโตยิช, สโลโบดาน อูโรเซวิช, เนมานย่า มิเลติช - ซาซ่า ซเดลาร์, อเล็กซานด้าร์ สเกคิช, ทาคูมะ อซาโนะ (ฟิลิป สเตวาโนวิค น.69), บริบาส นัตโช่ (โซรัน โทซิช น.60) - เซย์ดูบา ซูมาห์, อูมาร์ ซาดิค (โอเร่ อิวาโนวิช น.86)
สำรองไม่ได้ใช้ : อเล็กซานด้าร์ ลูโตวัค, รัคโก้ เบร์ซานซิช, เนมานย่า สเตวาโนวิช, อิกอร์ วูจาซิช

ผู้ตัดสิน : มัตเตียส เกสตรานิอุส (ฟินแลนด์)

กองกลางตัวรับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ จับมือ เฟร็ด โดยสามหน้าต่ำมี ฆวน มาต้า, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน กรีนวู้ด ปล่อยให้ อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล ยืนหน้าตัวหลัก

www.siamsport.co.th