เลสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมใน คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม แม้จะลงเล่นติดๆกันจากเกมลีกคัพกลางสัปดาห์แต่ยังไล่บดเอาชนะ วัตฟอร์ด ไปได้อย่างสนุก 2-0 เจมี่ วาร์ดี้ ซัดจุดโทษ ก่อน เจมส์ แม็ดดิสัน จะหวดปิดเก็บสามแต้มทำสถิติไม่แพ้ 6 เกมติดทุกรายการ คว้าสามแต้มขึ้นไปรั้งอันดับ 7 ตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม: คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม, (เลสเตอร์เชียร์)

"จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ เจ้าบ้านไม่มี แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังตัวเก่งที่เจ็บเข่า และ ดาเนียล อมาร์ตีย์ กองกลางวัย 23 ปี ชาวกานา ที่เจ็บข้อเท้า

แนวรุกส่ง มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมส์ แม็ดดิสัน และ เดมาไร เกรย์ ปั้นเกมรุกสนับสนุน เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าตัวเป้าเข้าขยี้ตาข่าย

ทางด้าน "แตนอาละวาด" วัตฟอร์ด ผู้มาเยือนส่ง วิลล์ ฮิวจ์ส, โรเบร์โต้ เปเรยร่า, เคราร์ด เดวโลเฟว ร่ายเกมรุกช่วย ไอแซ็ค ซัคเซสส์ กองหน้าวัย 22 ปี ชาวไนจีเรีย ที่เพิ่งต่อสัญญาใหม่กับทีมออกไปจนถึงปี 2023

ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้ 12 นาที เลสเตอร์ ซิตี้ ได้จุดโทษจากจังหวะที่ เบน ชิลเวลล์ แทงทะลุช่องตัดแนวรับให้ เจมี่ วาร์ดี้ สปีดหลุดเดี่ยวเข้าไป แต่โดน เบน ฟอสเตอร์ นายทวารวัตฟอร์ด ออกมารวบล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าทันที ก่อนที่ เจมี่ วาร์ดี้ ลุกขึ้นมาสังหารเองอัดด้วยขวาเสียบมุมซ้ายเข้าไปอย่างเด็ดขาดช่วยให้เลสเตอร์ นำ 1-0 และเป็นประตูที่ 5 ของวาร์ดี้ ในพรีเมียร์ ลีก ซีซั่นนี้

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 23 เลสเตอร์ นำห่าง 2-0 จากจังหวะที่โต้กลับเร็วขึ้นมา เจมี่ วาร์ดี้ ตวัดบอลจากกลางสนามออกทางกราบขวาให้ มาร์ค อัลไบรท์ตัน โยนเข้ากลางทันที เจมส์ แม็ดดิสัน สอดมากระดกบอลขึ้นหนึ่งจังหวะ ก่อนวอลเลย์ด้วยขวาทันทีจากกลางกรอบเขตโทษบอลผลุบเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด และเป็นประตูที่ 4 ของแม็ดดิสัน ในพรีเมียร์ ลีก ซีซั่นนี้

สี่นาทีต่อมา เลสเตอร์ ได้ลุ้นต่อเนื่อง ริคาร์โด้ เปเรยร่า แบ็คขวาได้ซัดด้วยขวา บอลเฉี่ยวสามเหลี่ยมขวาออกไป

เจ้าบ้านบดต่อเนื่อง เจมส์ แม็ดดิสัน จ่ายให้กับ เดมาไร เกรย์ ซัดด้วยขวาจากนอกเขตโทษแฉลบตัวของ เคร็ก แคธคาร์ท กองหลังทีมเยือนออกหลังไปในนาทีที่ 35

นาทีต่อมา วัตฟอร์ด โต้กลับเร็วขึ้นมา เคราร์ด เดวโลเฟว จ่ายจากกลางสนามขึ้นหน้าให้ ไอแซ็ค ซัคเซสส์ สปีดเร็วกว่ากองหลังของเลสเตอร์ เข้าไปสับไกด้วยขวาบอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ นำก่อน 2-0

กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งเวลาหลังได้ 9 นาที เคราร์ด เดวโลเฟว เปิดบอลให้กับ โรเบร์โต้ เปเรย์ร่า สับด้วยซ้ายจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลหลุดเสาสองไป

กระเถิบมานาทีที่ 55 วัตฟอร์ด เปลี่ยนผู้เล่นรวดเดียวสองรายให้ ทอรย ดีนี่ย์ ลงเล่นแทน เปเรย์ร่า พร้อมให้ อันเดร เกรย์ เล่นแทน เดวโลเฟว

สองนาทีต่อมา เลสเตอร์ น่าจะได้ประตูที่สาม เมื่อ ริคาร์โด้ เปเรย์ร่า จ่ายสั้นๆออกทางขวาให้ เดมาไร เกรย์ ซัดด้วยขวาจากทางกรอบเขตโทษด้านขวา บอลไปชนเสาแรกอย่างน่าเสียดาย

วัตฟอร์ด ยังไม่ยอมง่ายๆ ได้โอกาสลุ้นบ้างในนาทีที่ 64 โฮเซ่ โฮเลบาส โยนให้กับ อันเดร เกรย์ ที่ลงมาเป็นสำรองขึ้นโหม่งหลุดเสาซ้ายไป

ล่วงเลยมานาทีที่ 72 เลสเตอร์ เปลี่ยนเอา เจมี่ วาร์ดี้ คนทำประตูแรกให้กับทีมขึ้นนำออกมาพักแล้วส่ง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงเล่นแทน ท่ามกลางเสียงปรบมือจากแฟนบอลจิ้งจอกดังลั่น

นาทีสุดท้ายของเกม วัตฟอร์ด เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ เอเตียน กาปู กองกลางไปโดดเข้าบอลเสียบสองเท้าใส่ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ กองหน้าของเลสเตอร์ ทำให้ผู้ตัดสินวิ่งมาแจกใบแดงไล่ กาปู ออกไปทันที

เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังชนะ วัตฟอร์ด ไปได้อย่างสวยงาม 2-0 เก็บสามแต้มเต็ม ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ของตารางคะแนน

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เลสเตอร์: แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, เวส มอร์แกน (กัปตันทีม), จอนนี่ อีแวนส์ (บีเซนเต้ อีบอร์ร่า น.84), เบน ชิลเวลล์ - น็อมปาลิส เมนดี้, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ - มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมส์ แม็ดดิสัน, เดมาไร เกรย์ (ชากลาร์ โซยุนคู น.69) - เจมี่ วาร์ดี้ (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ น.72)

วัตฟอร์ด: เบน ฟอสเตอร์ - กีโก้ เฟเมเนีย, อาเดรียน มาริอั๊ปป้า, เคร็ก แคธคาร์ท, โฮเซ่ โฮเลบาส - อับดูลาย ดูกูเร่, เอเตียน กาปู - วิลล์ ฮิวจ์ส (เนธาเนียล ชาโลบาห์ น.76), โรเบร์โต้ เปเรยร่า (ทรอย ดีนี่ย์ น.55), เคราร์ด เดวโลเฟว (อันเดร เกรย์ น.55) - ไอแซ็ค ซัคเซสส์

ใบแดง: เอเตียน กาปู น.90

ผู้ตัดสิน: แกรม สกอตต์

สยามสปอร์ต