|
26
ต.ค. อโยเซ่-วาร์ดี้แฮตทริก-เลสเตอร์โหดถล่มเซาธ์10คนทำสถิติยิงเยอะเท่าแมนยู
เลสเตอร์ ซิตี้ โชว์โหดชนิดไร้ความปราณี หลังบุกไปถล่มเจ้าถิ่น เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เหลือแค่ 10 คนชนิดเละเทะ 9-0 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา นัดนี้ อาโยเซ่ เปเรซ ควงเจมี่ วาร์ดี้ ตะบันแฮตทริกพาทีมเก็บสามแต้มแซง "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง ตามหลัง ลิเวอร์พูล 5 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งเกม ทั้งยังสร้างสถิติยิงมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถล่ม อิปสวิช 9-0 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในปี 1995 สนาม : เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วีกที่ 10 เจ้าถิ่น เซาธ์แฮมป์ตัน ผลงานแย่ลงทุกที่ไม่ชนะในลีกมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว ล่าสุดบุกไปเสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1 ปัจจุบันรั้งอันดับ 17 มี 8 คะแนนเท่ากับนิวคาสเซิ่ลทีมโซนตกชั้น ขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ผลงานดีวันดีคืนเกมล่าสุดฮึดแซงเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ แบบสนุก 2-1 มี 17 แต้มรั้งอันดับ 3 ของตาราง ซึ่งเกมนี้หากบุกมาคว้าชัยถิ่น "นักบุญ" จะขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงแทนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่แข่งในวันเสาร์ ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล เทรนเนอร์ของ "นักบุญ" ยังใช้ แดนนี่ อิงส์ เป็นหอกเป้า และให้ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ กับ เนธาน เร้ดมอนด์ ยืนปั้นเกมอยู่ข้างหลัง ส่วนทางด้าน แบรนเดน ร็อดเจอร์ส ยังใช้ชุดเก่ง 11 แข้งเดิมที่เอาชนะเบิร์นลี่ย์มาได้ ยูริ ตีเลอมันส์ ปั้นเกมตรงกลางร่วมกับ เจมส์ แมดดิสัน และให้ อาโยเซ่ เปเรซ กับฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ รับผิดชอบด้านข้าง โดยทิ้ง เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงตัวเก่งเป็นหน้าเป้าเหมือนเดิม ครึ่งแรกทั้งสองทีมคอนโทรลบอลค่อนข้างลำบาก ด้วยสภาพอากาศมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 9 ทีมเยือนได้ทักทายก่อนฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ปีกดาวรุ่งจิ้งจอกได้ลุยขึ้นมาก่อนยิงด้วยขวาหลุดกรอบออกไป กระนั้นอีกนาทีต่อมา เลสเตอร์ ซิตี้ ชิงขึ้นนำก่อน 1-0 จนได้จากจังหวะที่ เบน ชิลเวลล์ จ่ายบอลเข้ากลางให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ซัดด้วยขวาไปติดเซฟของ แอนกุสส์ กันน์ แต่บอลดันไปเข้าทาง ชิลเวลล์ ที่วิ่งมาตามซ้ำมุมแคบลอดตัวนายด่านนักบุญเข้าไป เท่านั้นไม่พอ นอกจากเจ้าถิ่นสกอร์จะตามหลังแล้ว สถานการณ์ของทีมยังเลวร้ายลงไปอีกเมื่อต้องเหลือแค่ 10 คน หลังทีมงาน VAR ส่งสัญญาณไปยังผู้ตัดสินว่าจังหวะก่อนได้ประตู ไรอัน เบอร์ทรานด์ พุ่งเปิดปุ่มสตั๊ดใส่หน้าแข้ง อาโยเซ่ เปเรซ อย่างน่าเกลียด ก่อนที่ อังเดร มาร์ริเนอร์ จะเดินมาชูใบแดงไล่เบอร์ทรานด์ออกจากสนามไป เกมดีกว่าแถมตัวผู้เล่นก็มากกว่า นาที 17 ทัพจิ้งจอกมาได้ประตูนำห่าง 2-0 อย่างรวดเร็ว คราวนี้ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ที่เล่นได้โดดเด่นกระชากหนี ยาน วาเลรี่ ก่อนจะแตะหลบ โอริโอล โรเมว อีกราย แล้วดีดให้ แมดดิสันแต่ วาเลรี่ วิ่งมาจิ้มบอลก่อน กลายเป็นจ่ายให้ ยูริ ตีเลอมันส์ ที่ยืนโล่งๆ หน้ากรอบไม่ถึง 10 หลา อัดด้วยขวาส่งบอลซุกก้นตาข่าย ลูกทีมของ ร็อดเจอร์ส เล่นอะไรก็ดีไปหมดไม่ถึงสองนาทีสกอร์นำโด่งเป็น 3-0 อย่างเหลือเชื่อ บอลขึ้นจากแดนหลัง ริคาร์โด้ เปเรยร่า จ่ายเข้ากลางให้ อาโยเซ่ เปเรซ พลิกบอลเข้ากลางแล้วทำชิ่งหนึ่งสองกับ ตีเลอมันส์ ก่อนหลุดเข้าไปยิงเสาแรกผ่านมือ แองกุสส์ กันน์ เข้าไปอย่างเฉียบขาด นาที 35 เกมรุกทางซ้ายของเลสเตอร์ยังวูบวาบได้ลุ้นตลอด เบน ชิลเวลล์ กระชากถึงเส้นหลังแล้วครอสมาเสาแรกให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ซัดด้วยขวาบอลพุ่งลอดตัว แอนกุสส์ กันน์ ไปแล้วแต่เจ้าตัวยังตามไปตะครุบไว้บนเส้นหวุดหวิด เกมรุกของเจ้าบ้านนานๆจะได้ลุ้นที นาที 37 แดนนี่ อิงส์ สร้างโอกาสด้วยการลองอัดด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งแรงแต่ยังเหินคานออกไป อีกสองนาทีต่อมา นาที 39 แฟนบอลนักบุญเงียบกันกริบทั้งสนามอีกครั้ง หลังทีมเยือนมาพังประตูที่สี่ บอลจาก เบน ชิลเวลล์ ที่ครอสมาเสาไกลให้ อาโยเซ่ เปเรซ วิ่งมากระทุ้งด้วยขวาส่งบอลพุ่งแสกหน้า แองกุสส์ กันน์ เข้าไปให้ทีมเยือนนำไปไกล 4-0 แนวรับเจ้าถิ่นเละเป็นโจ๊กไปใหญ่ นาทีสุดท้ายมาสังเวยเม็ดที่ห้า บอลเริ่มจาก เอ็นดิดี้ ขวางยาวมาซ้ายให้ ชิลเวลล์ แปตั้งเข้ากลางไปโดน เจมส์ วอร์ด-เพราส์ พยายามสกัดแต่กลายเป็นชงต่อให้ เจมี่ วาร์ดี้ ได้บอลในกรอบ แล้วดึงหลอก มายะ โยชิดะอย่างเหนือชั้นก่อนตะบันเต็มแรงโล่งๆเข้าไป จบครึ่งแรก เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เหลือแค่ 10 คน ตามหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ 0-5 ครึ่งหลัง เริ่มมาได้นาที 57 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ตักบอลข้ามหัวแนวรับนักบุญให้ อาโยเซ่ เปเรซ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยซ้ายผ่านตัวนายด่านเจ้าถิ่นให้ เลสเตอร์ นำไปไกล 6-0 แถมเป็นแฮตทริกของแข้งวัย 26 ปี ชาวสแปนิชรายนี้อีกด้วย เกมรุกของจิ้งจอกยังดุดันเดินหน้าไล่ล่าประตูต่อ และนาทีต่อมา ประตู 7-0 ก็ตามมา บอลขึ้นจากซ้ายอีกแล้ว บาร์นส์ จ่ายสั้นให้ เบน ชิลเวลล์ ที่เติมขึ้นมาครอสเข้ากลางเสาแรกให้ เจมี่ วาร์ดี้ เทกตัวขึ้นโขกแบบไร้ตัวประกบส่งบอลตุงตาข่าย เป็นประตูที่สองของอดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษในเกมนี้ นาที 85 เจมี่ วาร์ดี้ มาเรียกฟรีคิกกลางประตูให้กับทีม ก่อนที่จะเป็น เจมส์ แมดดิสัน รับหน้าที่วิ่งมาปั่นข้ามกำแพงเสียบมุมตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงามพา "จิ้งจอก" ทะยานนำลิ่วไปไกลถึง 8-0 เท่านั้นไม่พอ ช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 แยน เบดนาเร็ค ไปรวบเจมี่ วาร์ดี้ในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนจะเป็น วาร์ดี้ ลุกมาสังหารเข้าไป เป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้อีกคน พร้อมพาทีมนำโด่ง 9-0 จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ บุกไปถล่มเจ้าถิ่น เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เหลือ 10 คนแบบเละเทะยับเยิน 9-0 ทำสถิติยิงมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถล่ม อิปสวิช 9-0 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในปี 1995 เก็บสามแต้มพร้อมแซง แมนฯซิตี้ ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงมี 20 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล 5 คะแนน แต่ลงแข่งมากกว่าหนึ่งนัด ส่วน "นักบุญ" ไม่ชนะ 5 เกมติด ร่วงไปอยู่โซนตกชั้นอันดับ 18 มี 8 คะแนน รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม เซาธ์แฮมป์ตัน (3-4-2-1) : แอนกุสส์ กันน์ - แยน เบดนาเร็ค, มายะ โยชิดะ, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด - ยาน วาเลรี่, โอริโอล โรเมว, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - เจมส์ วอร์ด-เพราส์, เนธาน เร้ดมอนด์ - แดนนี่ อิงส์ ผู้จัดการทีม : ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล เลสเตอร์ (4-1-4-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่ อีแวนส์, คักลาร์ โซยุนชู, เบน ชิลเวลล์ - วิลฟรีด เอ็นดิดี้ - อาโยเซ่ เปเรซ, ยูริ ตีเลอมันส์, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - เจมี่ วาร์ดี้ ผู้จัดการทีม : แบรนเดน ร็อดเจอร์ส ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์ |
|