|
16
ต.ค. เบล็อตติ2ตุงพาอิตาลีถล่มลิกเท่นสไตน์ ซิวชัย8นัดติด
อิตาลี แม้จะการันตีเข้ารอบไปแล้วแต่เกมนี้ยังเต็มที่แม้จะใช้สำรองเกือบยกทีมแต่ยังดีพอบุกไปคว้าชัยเหนือ ลิกเท่นสไตน์ ทีมบ๊วยของกลุ่ม 5-0 โดย อันเดรีย เบล็อตติ เหมาคนเดียวสองประตู ทำสถิติคว้าชัยเป็นเกมที่ 8 ติดต่อกันมีเพิ่มเป็น 24 คะแนน ในศึกคัดยูโร 2020 กลุ่ม เจ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา สนาม : ไรน์พาร์ค สตาดิโอน ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่ม เจ เมื่อคืนวันอังคารที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าบ้าน ลิกเท่นสไตน์ ทีมบ๊วยของกลุ่มที่ยังไม่ชนะทีมใด เกมล่าสุดทำได้ดีเมื่อยันอาร์เมเนียมา 1-1 แมตช์นี้เจอศึกหนักรับมือ ทีมชาติอิตาลี ที่การันตีซิวแชมป์กลุ่มนี้แน่นอนแล้วพร้อมกับคว้าตั๋วไปเล่นในรอบสุดท้ายของศึกยูโร 2020 เจ้าบ้านซึ่งรอบคัดเลือกยิงได้แค่สองประตู จากสองเกมล่าสุดที่เสมอมา แมตช์นี้ฝากความหวังไว้ที่ เดนนิส ซาลาโนวิช และโรบิน กุบเซอร์ ขณะที่ "อัซซูร์รี่" ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ เปลี่ยนแปลงผู้เล่นถึง 10 ตำแหน่งมีแค่ มาร์โก แวร์รัตติ ที่ยังได้ลงต่อเนื่องคุมกลางร่วมกับ ไบรอัน คริสตันเต้ ส่วนสามแนวรุกใช้ เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่, อันเดรีย เบล็อตติ และ วินเซนโซ่ กริโฟ้ ดาวยิงจากไฟร์บวร์ก ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่สองนาที อิตาลี บุกมาขึ้นนำเจ้าถิ่นอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ คริสเตียโน่ บิรากี แบ็กซ้ายหลุดขึ้นมาก่อนเปิดโล่งๆเข้ากลางมาให้ เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ วิ่งมาแปด้วยเท้าซ้ายเข้าไป นาที 14 แบร์นาร์เดสคี่ เกือบลุ้นเม็ดที่สองของตัวเองในเกมนี้ หลังรับบอลจาก วินเซนโซ่ กริโฟ้ ก่อนอัดด้วยซ้ายนอกกรอบไปติดเซฟ เบนจามิน บูเชล ท้ายเกม นาที 40 เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ ได้โอกาสส่องนอกกรอบอีกครั้ง แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือนายด่านของลิกเท่นสไตน์ อีกสองนาทีต่อมาเจ้าถิ่นได้ลุ้นตีเสมอบ้าง คราวนี้ เดนนิส ซาลาโนวิช ตัวความหวังของทีมตะบันด้วยขวานอกกรอบบอล ทว่า ซัลวาตอเร่ ซิริกู จอมหนึบของอัซซูร์รี่ยังบินปัดออกหลังไปได้ จบครึ่งแรก ลิกเท่นสไตน์ ตามหลัง อิตาลี 0-1 ครึ่งหลังทีมเยือนยังพับสนามบุกเปิดเกมรุกเข้าใส่หวังเม็ดที่สอง นาที 59 คริสเตียโน่ บิรากี ตะบันด้วยซ้ายข้างถนัดนอกกรอบ บอลพุ่งเสาแรกแต่ยังไม่ผ่านมือ เบนจามิน บูเชล ที่พุ่งมาปัดออกไปหวุดหวิด นาที 70 อิตาลี มาได้ประตูที่สองนำเจ้าถิ่น 2-0 จากจังหวะลูกคอนเนอร์ทางฝั่งขวา วินเซนโซ่ กริโฟ้ เปิดเตะมุมด้วยขวามาเสาไกลให้ อันเดรีย เบล็อตติ ขึ้นโขกกดพื้นไปเสาสองบอลกระดอนก่อนข้าม มาร์ติน บูเชล แข้งเจ้าถิ่นที่พยายามสกัดเข้าไป อีก 7 นาทีต่อมา ทัพอัซซูร์รี่ได้ประตูนำห่างเป็น 3-0 ทันที คราวนี้เป็น สเตฟาน เอล ชาราวี ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาครอสบอลจากด้านซ้ายมากลางประตูให้ อเลสซิโอ โรมันโยลี่ แนวรับที่ดันสูงโขกเช็ดบอลเปลี่ยนทางเข้าไป นาที 82 อิตาลี มาได้ประตูนำห่างเป็น 4-0 คราวนี้บอลจาก ไบรอัน คริสตันเต้ จ่ายบอลสุดเนียนตัดแผงหลังเจ้าถิ่นก่อนให้ สเตฟาน เอล ชาราวี หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปจิ้มด้วยขวาสวนตัว เบนจามิน บูเชล เข้าไป ช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 ลูกทีมของมันโช่มาได้ประตูที่ห้าปิดท้าย จากจังหวะที่ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ครอสบอลจากด้านขวามาให้ อันเดรีย เบล็อตติ โขกเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูที่สองในเกมนี้ จบเกม ลิกเท่นสไตน์ พ่ายคารังให้แชมป์ของกลุ่มอย่าง อิตาลี แบบขาดลอย 5-0 ส่งผลให้ทัพอัซซูร์รี่คว้าชัย 8 นัดติดต่อกัน เก็บได้ 24 คะแนนเต็ม ส่วน ลิกเท่นสไตน์ ยังไม่ชนะทีมใดจมบ๊วยของกลุ่มมีแค่ 2 คะแนน รายชื่อ11ผู้เล่นทั้งสองทีม ลิกเท่นสไตน์ (4-1-4-1) : เบนจามิน บูเชล - มาร์ติน เรชสไตเนอร์, ดาเนียล คอฟแมนน์, เยนส์ โฮเฟอร์, แม็กซ์ ก็อปเปล - มาร์ติน บูเชล - เซย์ฮาน ยิลดิซ, มิเคเล่ โปลเวริโน่, นิโกลัส ฮาสเลอร์, เดนนิส ซาลาโนวิช - โรบิน กุบเซอร์ อิตาลี (4-3-3) : ซัลวาตอเร่ ซิริกู - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, จานลูก้า มันชินี่, อเลสซิโอ โรมันโยลี่, คริสเตียโน่ บิรากี - นิโกโล่ ซานิโอโล่, ไบรอัน คริสตันเต้, มาร์โก แวร์รัตติ - เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่, อันเดรีย เบล็อตติ, วินเซนโซ่ กริโฟ้ ผู้ตัดสิน : อันดรีส เตรยมานิส (ลัตเวีย) |
|