|
15
ต.ค. เคนร้ายยิง1จ่าย3-อังกฤษบุกถล่มครึ่งโหลปิดปากแฟนบัลแกเรียเหยียดผิวคัดยูโร
ทัพสิงโตคำรามแม้จะเจอพฤติกรรมเหยียดผิวของแฟนบอลบัลแกเรียจนเกมต้องหยุดชั่วคราวสองครั้งสองครา แต่ทีมชาติอังกฤษยังโชว์ฟอร์มเหนือชั้นบุกถล่มแบบหมดสภาพ 6-0 รอสส์ บาร์คลี่ย์ ควงราฮีม สเตอร์ลิง เบิ้ล ขณะที่แฮร์รี่ เคน โชว์ฟอร์มสุดร้ายแม้จะยิงหนึ่งแต่ทำ 3 แอสซิสต์ พาอังกฤษนำจ่าฝูงต่อไปโดยเหลือโปรแกรมการแข่งขันอีกสองเกม ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา สนาม : สตาดิโอน วาซิล เลฟสกี้ ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ เป็นเกมการแข่งขันนัดที่ 7 ของบัลแกเรียที่ตกรอบไปแล้วหลังอยู่บ๊วยของกลุ่มมี 3 คะแนน ชนิดไม่ชนะทีมใด ซึ่งเกมล่าสุดบุกไปเสมอ มอนเตเนโกร 0-0 โดยเกมนี้เปิดรังรับจ่าฝูง อังกฤษ ที่ลงเล่นเป็นเกมที่ 6 ซึ่งฟอร์มล่าสุดบุกไปพ่ายให้ เช็ก 1-2 ทำให้มี 12 คะแนนเท่ากับ เช็ก แต่เฮดทูเฮดดีกว่าทำยังนำเป็นจ่าฝูง คราซิเมียร์ บาลาคอฟ กุนซือเจ้าถิ่นหลังทีมตกรอบไปแล้ว ทำให้เปิดโอกาสใช้งานแข้งดาวรุ่งหน้าใหม่หน้าเป้าวันนี้ใช้ อิสมาอิล อิซ่า โดยมีจอร์จี้ ซาร์มอฟ และวันแดร์ซอน ปั้นเกมตรงกลาง ส่วนทางฝั่ง "สิงโตคำราม" ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เปลี่ยนแปลง 5 ตำแหน่งจากเกมบุกไปแพ้ เช็ก ไทรอน มิงส์ ได้ลงสนามเป็นเกมแรกให้ทีมชาติอังกฤษ แบ็กซ้ายใช้ เบน ซิลเวลส์ ส่วนตรงกลาง แฮร์รี่ วิงค์ส ยืนประสานงานร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และรอสส์ บาร์คลี่ย์ และให้ ราฮีม สเตอร์ลิง กับมาร์คัส แรชฟอร์ด ป่วนริมเส้น โดยมีแฮร์รี่ เคน เป้นหน้าเป้า ครึ่งแรก เริ่มเกมมาได้แค่ 7 นาที ทีมชาติอังกฤษพังสกอร์นำเจ้าถิ่นก่อน 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ไหลบอลออกซ้ายให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กระชากหนีแนวรับเจ้าถิ่นก่อนล็อคด้วยซ้ายหนี จอร์จี้ ปาชอฟ แล้วตะบันด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งแสกหน้า ปลาเมน อิลิเยฟ นายทวารบัลแกเรียเข้าไปอย่างสวยงาม นาที 11 บัลแกเรียมีโอกาสลุ้นตีเสมอบ้าง หลัง จอร์จี้ คอสตาดินอฟ ไหลต่อให้ อิเวลิน โปปอฟ ซัดด้วยขวานอกกรอบ แต่บอลยังไม่ผ่านมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่ต้องออกแรงเซฟในเกมนี้เป็นหนแรก กระนั้น นาที 20 ลูกทีมของเซาธ์เกตพังประตูหนีห่างเป็น 2-0 ทันที จากจังหวะเข้าทำอันยอดเยี่ยม ราฮีม สเตอร์ลิง เล่นหนึ่งสองกับแฮร์รี่ เคน ก่อนปีกเรือใบสีฟ้าหลุดเข้าไปครอสบอลส่งให้ รอสส์ บาร์คลี่ย์ แปด้วยขวาระยะไม่ถึงสามหลาเข้าไปง่ายๆ เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง ต้องหยุดลงชั่วคราวหลังมีแฟนบอลบางกลุ่มเหยียดผิวผู้เล่นทีมชาติอังกฤษ จนผู้ตัดสิน อิวาน เบเบ็ค ชาวโครเอเชียต้องเดินมาหารือกับทีมงานข้างสนามก่อนจะกลับมาเล่นกันต่อ ทัพทรีไลออนส์พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว และนาที 32 มาได้ประตูนำโด่งเป็น 3-0 จากจังหวะที่ คีแรน ทริปเปียร์ เกี่ยวบอลได้แล้วจ่ายย้อนหลัง แฮร์รี่ เคน ที่ถอยมารับก่อนจะเปิดโค้งตัดแนวรับเจ้าถิ่นให้ รอสส์ บาร์คลี่ย์ สอดมาโขกเข้าไป เป็นประตูที่สองของดาวเตะวัย 25 ปีในเกมนี้ ท้ายครึ่งแรก เกมต้องหยุดชั่วคราวเป็นหนที่สอง หลัง แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่พอใจเข้าไปประท้วงหลังแฟนบอลเจ้าถิ่นกระทำการตะโกนเชียร์ในเชิงเหยียดผิดแข้งสิงโตคำราม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประกาศให้แฟนบอลกลุ่มที่มีปัญหาออกจากสนามไป ช่วงทดเวลาเจ็บ นาที 45+3 สิงโตคำรามมานำห่างเป็น 4-0 จากจังหวะสวนกลับ แฮร์รี่ เคน ป้ายออกขวาให้ทริปเปียร์ ก่อนแบ็กขวาแอตเลติโก มาดริดจะจ่ายไปที่ว่างให้ เคน วิ่งไปรับบอลแล้วปาดเลียดเข้ากลางให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงเข้าไปโล่งๆ จบครึ่งแรก บัลแกเรีย ตามหลัง อังกฤษ 0-4 กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 48 แฮร์รี่ เคน เกือบมีชื่อเป็นคนทำประตูบ้างหลังรับบอลจาก เฮนเดอร์สัน แต่ยิงไปติดมือ อิลิเยฟ ถัดมา นาที 56 สเตอร์ลิง เกือบพังประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ หลังล็อกด้วยขวาเข้าเท้าซ้ายทว่าดันยิงไปตรงตัวนายด่านของบัลแกเรีย อีกครั้งที่ แฮร์รี่ เคน ได้ยิงจ่อๆหน้ากรอบไม่ถึง 10 หลา หลังนาที 62 ล็อคหลบอย่างเหนือแล้วยิงด้วยซ้ายแต่ยังไปติดตัว ปลาเมน อิลิเยฟ ที่โชว์เซฟไป 6 ครั้งในเกมนี้แล้ว แต่อีก 7 นาทีต่อมา อังกฤษ สกอร์ไหลหนีเจ้าถิ่นไป 5-0 และเป็นแอสซิสต์ที่ 3 ของแฮร์รี่ เคน ในเกมนี้หลังจ่ายทะลุช่องให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปล่อเป้าแปด้วยซ้ายหนีมือนายทวารเจ้าถิ่นเข้าไป นาที 85 แฮร์รี่ เคน มีชื่อเป็นผู้ทำประตูจนได้ หลังได้บอลนอกกรอบก่อนพาบอลแหวกแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปยิงผ่านตัว ปลาเมน อิลิเยฟ เข้าไปให้ อังกฤษ นำห่างเป็น 6-0 ช่วงทดเจ็บ เคน เกือบได้แอสซิสต์ที่ 4 หลังจ่ายให้ คัลลั่ม วิลสัน ทว่าดาวยิงจากบอร์นมัธดันยิงไปชนเสาออกหลังไป จบเกม อังกฤษ บุกมาถล่มบัลแกเรียยับเยิน 6-0 เก็บสามแต้มนำจ่าฝูง กลุ่ม เอ ต่อไป รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม บัลแกเรีย (4-1-4-1) : ปลาเมน อิลิเยฟ - จอร์จี้ ปาชอฟ, จอร์จี้ เทอร์ซิเยฟ, คาเมน ฮาดซิเยฟ, เปตาร์ ซาเนฟ - คิริล เดสโปดอฟ - อิเวลิน โปปอฟ, จอร์จี้ ซาร์มอฟ (โบซิดาร์ คราเยฟ น.45), จอร์จี้ คอสตาดินอฟ, วันแดร์ซอน (คริสติยาน มาลินอฟ น.76) - อิสมาอิล อิซ่า (กาลิน อิวานอฟ น.68) เทรนเนอร์ : คราซิเมียร์ บาลาคอฟ อังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - คีแรน ทริปเปียร์, ไทรอน มิงส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, เบน ชิลเวลล์ - แฮร์รี่ วิงค์ส,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - มาร์คัส แรชฟอร์ด (คัลลัม วิลสัน น.76), รอสส์ บาร์คลี่ย์ (เมสัน เมาท์ น.78), ราฮีม สเตอร์ลิง (เจดอน ซานโช่ น.73) - แฮร์รี่ เคน เทรนเนอร์ : แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้ตัดสิน : อิวาน เบเบ็ค (โครเอเชีย) |
|