11
ก.ย.
สเตอร์ลิงซัด1จ่าย3-ซานโซ่กด2! อังกฤษมีรั่วก่อนดับซ่าโคโซโวเฮ4นัดติด


"สิงโตคำราม" อังกฤษ ยังเดินหน้าคว้าชัยได้เป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน หลังไล่ถล่มโคโซโวแบบสนุก 5-3 เกมนี้แม้แนวรับผู้ดีจะเล่นผิดพลาด แต่แนวรุกสุดโหด โดยเฉพาะฟอร์มอันสุดยอดของ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ยิงหนึ่งแต่จ่ายให้เพื่อนยิงอีก 3 เช่นเดียวกับ เจดอน ซานโซ่ ที่ซัดเบิ้ล หยุดสถิติโคโซโวที่ไม่แพ้ทีมใดไว้ที่ 15 นัด พร้อมรั้งจ่าฝูงกลุ่ม เอ ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

สนาม : เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม

"สิงโตคำราม" คว้าชัยมา 3 เกมรวด นัดล่าสุดเปิดเวมบลี่ย์ไล่ถล่ม บัลแกเรีย 4-0 เกมนี้มาใช้ เซนต์ แมรี่ส์ รังเหย้าของเซาธ์แฮมป์ตันรับการมาเยือนของอาคันตุกะ โคโซโว ทีมรองจ่าฝูงที่ยังไร้พ่าย แถมเกมล่าสุดเฉือนเอาชนะ เช็ก 2-1

เกมนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต เปลี่ยนแปลงผู้เล่น 3 ตำแหน่งจากเกมที่แล้วส่งฟูลแบ็กขวา-ซ้ายอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และเบน ชิลเวลล์ เป็นตัวจริงเช่นเดียวกับ เจดอน ซานโช่ ที่ปั้นเกมรุกร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง และแฮร์รี่ เคน ขณะที่ทีมเยือนฝากความหวังไว้ที่ เวดัต มูริกี ดาวเตะจากเฟเนร์บาห์เช่เป็นหน้าเป้า

ครึ่งแรก เริ่มเกมมาได้แค่ 36 วินาที กลายเป็น โคโซโว ที่ช็อกแฟนบอลผู้ดีก่อนเลยหลังชิงขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ไมเคิ่ล คีน แนวรับของอังกฤษจ่ายบอลพลาดส่งให้ เวดัต มูริกี ก่อนดาวยิงจากเฟเนร์บาห์เช่จะจ่ายนิ่มๆให้ วาลอน เบริช่า หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ พิคฟอร์ด ตุงตาข่าย

กระนั้น นาที 8 อังกฤษ มาเอาคืนทันควัน บอลจาก รอสส์ บาร์คลี่ย์ เปิดคอนเนอร์มาให้ ไมเคิ่ล คีน แก้ตัวด้วยการโขกจากเสาสองชงเข้ากลางให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ไม่มีคนประกบเทกตัวโขกแสกหน้า อริยาเน็ต มูริช เข้าไป อังกฤษ ไล่ตีเสมอโคโซโว 1-1

นาที 19 ราฮีม สเตอร์ลิง โชว์ความยอดเยี่ยมเลี้ยงบอลจากกลางสนามก่อนจี้เข้าหน้ากรอบเขตโทษแล้วไหลนิ่มๆให้ แฮร์รี่ เคน ทางซ้ายก่อนดาวเตะจากสเปอร์สจะกดด้วยซ้ายส่งบอลลอดขานายด่านทีมเยือนเข้าไปอย่างเฉียบขาดให้ทัพ "ทรี ไลออนส์" นำห่างโคโซโว 2-1

นานๆที โคโซโว จะตอบโต้ขึ้นมาบ้างคราวนี้ นาที 37 เมอร์กิม โวจ์โวด้า ได้ลองซัดด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายแบบได้เสียว

กระนั้นนาทีถัดมา โคโซโว มาพลาดท่าเสียประตูที่สามแบบไม่น่าเชื่อ เมื่อ เจดอน ซานโซ่ ครอสบอลเลียดมาหน้าประตู เมอร์กิม โวจ์โวด้า ที่ยืนคนเดียวกลับจับบอลลั่นกลายเป็นส่งบอลเข้าประตูตัวเองไปส่งให้ อังกฤษ นำโด่ง 3-1

นาที 44 แนวรับของทีมเยือนเละเทะอีกครั้ง หลังราฮีม สเตอร์ลิง ควบจากฝั่งซ้ายจี้เข้ากรอบแล้วแอสซิสต์ที่สองในเกมนี้ไปเสาสองให้ เจดอน ซานโช่ ที่ยืนโล่งๆ ซัดด้วยขวาเข้าไปให้ อังกฤษ นำห่าง 4-1

ก่อนทดเจ็บ นาที 45+1 เจ้าบ้านจะมาได้อีกหนึ่งเม็ด เป็นความร้ายกาจของ สเตอร์ลิง ที่วันนี้โชว์ฟอร์มเป็นพระเอก กระชากบอลขึ้นทางซ้ายเหมือนเดิมก่อนหลบแนวรับเข้าไปในกรอบ 6 หลา แล้วยกบอลหนี มูริช อย่างเนียนๆให้ ซานโซ่ วิ่งมากระแทกบอลเข้าไปง่ายๆ เป็นประตูที่สองของปีกดอร์ทมุนด์ในวันนี้ พร้อมกับแอสซิสต์ที่ 3 ของ สเตอร์ลิง

จบครึ่งแรก อังกฤษ ได้ประตูนำห่าง โคโซโว 5-1

กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง แค่นาที 49 โคโซโว มาพังประตูไล่มาเป็น 2-5 จากจังหวะที่ เวดัต มูริกี วางบอลข้ามหัว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มาให้ วาลอน เบริช่า จับบอลโยกหนี เฮนโด้ อีกทีก่อนปั่นหนีมือ จอร์แดน ฟิคฟอร์ด เข้าไปอย่างสวยงาม

จากนั้น นาที 54 แฟนบอลสิงโตคำรามต้องเงียบกริบอีกครั้ง เมื่อ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไปเสียบ เวดัต มูริกี ล้มลงในกรอบผู้ตัดสินชาวเยอรมันชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ มูริกี จะลุกมาสังหารยิงไปทางมุมขวาติดปลายมือพิคฟอร์ดก่อนปลิ้นเข้าประตูไป โคโซโว ไล่เจ้าถิ่นอังกฤษมาเป็น 3-5

แต่นาที 64 อังกฤษ มาได้ลูกที่จุดโทษบ้าง หลังรอสส์ บาร์คลี่ย์โดนเบซาร์ ฮาลิมี่ทำฟาวล์ในกรอบ ทว่า แฮร์รี่ เคน มือสังหารตัวเก่งกลับซัดไปทางซ้ายมือตัวเองก่อนจะโดน อริยาเน็ต มูริช พุ่งเซฟช่วยให้ทีมไม่เสียประตูที่หก

นาที 72 ทัพทรี ไลออนส์ พลาดโอกาสได้ประตูอีกครั้ง หลัง แฮร์รี่ เคน ไปแย่งบอลจากแนวรับของทีมเยือนก่อนลากเข้าไปจ่ายออกซ้ายให้ สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปซัดบอลชนเสาอย่างเสียดาย

แกเร็ธ เซาธ์เกต เริ่มแก้เกม นาที 85 เมสัน เมาท์ และมาร์คัส แรชฟอร์ด ลงไปเล่นแทน รอสส์ บาร์คลี่ย์ และเจดอน ซานโช่

แต่ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม อังกฤษ ไล่ถล่มเอาชนะโคโซโว ไปแบบสนุก 5-3 หยุดสถิติไร้พ่ายของโคโซโวไว้ที่ 15 นัดติดต่อกันตั้งแต่ตุลาคม 2017 พร้อมซิวชัยนัดที่ 4 มี 12 คะแนนเต็มนำจ่าฝูงของกลุ่ม เอ ขณะที่ โคโซโว หล่นไปอยู่อันดับ 3 หลัโดน เช็ก แซงขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อังกฤษ (4-3-3) :
จอร์แดน พิคฟอร์ด - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, ไมเคิ่ล คีน, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, เบน ชิลเวลล์ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เดแคลน ไรซ์, รอสส์ บาร์คลี่ย์ (เมสัน เมาท์ น.83) - เจดอน ซานโช่ (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.85), แฮร์รี่ เคน, ราฮีม สเตอร์ลิง

เทรนเนอร์ : แกเร็ธ เซาธ์เกต

โคโซโว (4-2-3-1) : อริยาเน็ต มูริช - เมอร์กิม โวจ์โวด้า, อาเมียร์ ราห์มานี่, ฟิดาน อลิติ, ฟลอร็องต์ ฮาเดอร์โกนาจ์ - อิดริซ โวก้า (อาเนล ราสกาจ์ น.59), เบซาร์ ฮาลิมี่ - ฟลอร็องต์ มุสลิย่า (เลอาร์ต ปาการาด้า น.45), เบอร์ซานท์ เซลิน่า, วาลอน เบริช่า (ฟลอร็องต์ ฮาซานี่ น.85) - เวดัต มูริกี

เทรนเนอร์ : แบร์กนาร์ ชัลลงเดส์

ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ (เยอรมัน)

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.