|
9
ก.ย. จอร์จินโญซัดชัย! อิตาลีเจ๋งบุกทุบฟินแลนด์-ยืดสถิติเฮ6นัดติด
อิตาลี สุดเจ๋งทำสถิติคว้าชัย 6 นัดติดต่อกันหลังบุกไปเชือดเจ้าถิ่น ฟินแลนด์ แบบหวุดหวิด 2-1 ชิโร่ อิมโมบิเล่ พังประตูนำและประตูแรกในรอบ 733 วัน ก่อนที่ ตีมู ปุ๊กกี้ จะมาซัดจุดโทษตีเสมอ สุดท้าย "อัซซูร์รี่" มาได้ประตูชัยจากจุดโทษบ้างและเป็น จอร์จินโญ่ ที่ยิงเข้าไปไม่พลาดพาทีมซิว 18 แต้มเต็ม นำจ่าฝูงของกลุ่ม เจ ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา สนาม : ราติน่า สเตเดี้ยม, ตัมเปเร่ อิตาลี จ่าฝูงเล่นมา 5 นัดคว้าชัยรวดมี 15 คะแนนเต็ม เกมนี้ต้องบุกไปเยือนเจ้าถิ่น ฟินแลนด์ รองจ่าฝูงที่ ชนะ 4 แพ้ 1 มี 12 คะแนน มาร์กกู คาเนอร์ว่า เทรนเนอร์ทีมชาติฟินแลนด์ เกมนี้เน้นรัดกุมจัดแนวรับลงมาเพียบ ขณะที่แนวรุกวาง ตีมู ปุ๊กกี้ ดาวยิงจากนอริชเป็นความหวังไล่ล่าสกอร์ ส่วนทางด้าน โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซืออัซซูร์รี่จัดแนวรุกอย่าง สเตฟาโน่ เซนซี่ ปั้นเกมอยู่ข้างหลังสามประสานอย่าง เฟเดริโก้ เคียซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่ และลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ เริ่มเกมมาได้แค่ 8 นาทีแรก โรแบร์โต้ มันชินี่ นายใหญ่ทัพอัซซูร์รี่ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกอย่างรวดเร็วเลย หลัง เอเมอร์สัน แบ็กซ้ายมีอาการเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวทำให้ต้องส่ง อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ ลงมาเล่นแทน รูปเกมยังเล่นกันค่อนข้างอึดอัด ต่างฝ่ายเล่นแบบระมัดระวัง จนผ่านไปครึ่งทางของครึ่งแรกยังไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียว นาที 27 อิตาลี เกือบได้ลุ้นชิงขึ้นนำก่อน เมื่อ เฟเดริโก้ เคียซ่า ผ่านเข้ากลางหน้ากรอบ 18 หลาให้ สเตฟาโน่ เซนซี่ วอลเลย์แบบไม่จับบอลพุ่งเข้ากรอบจน ลูคัส ฮราเด็คกี้ ต้องเหินปัดข้ามคานออกไป อีก 4 นาทีถัดมา อิตาลีได้ลุ้นอีกครั้งหลัง เฟเดริโก้ เคียซ่า ครอสบอลมาให้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ เทกตัวสะบัดบอลไปเสาไกลแต่บอลหลุดกรอบไปชนิดได้เสียว อาคันตุกะยังครองเกมรุกได้มากกว่า นาที 36 เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ แทงให้ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ หลุดเข้าไปอัดด้วยขวาแต่บอลยังไม่ผ่านมือ ฮราเด็คกี้ สเตฟาโน่ เซนซี่ ที่เล่นได้โดดเด่นเกือบทำสกอร์แรกให้อัซซูร์รี่ได้ หลัง นาที 43 ลากบอลหนีตัวประกบก่อนตะบันนอกกรอบด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือ ฮราเด็คกี้ ถากเสาสองออกไปแบบได้ลุ้น จบครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกัน 0-0 ครึ่งหลัง นาที 47 ฟินแลนด์สวนกลับเร็วและเกือบได้ลุ้นจาก ตีมู ปุ๊กกี้ หลังอัดด้วยซ้ายแต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย แต่แล้ว นาที 59 อิตาลี มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 บอลจาก เซนซี่ ถ่ายออกไปขวาถึง เฟเดริโก้ เคียซ่า เลี้ยงจี้แล้วโขกครอสเข้ากลางไปแฉลบหัว เปาลุส อรายูรี่ ก่อนที่ ชิโร่ อิมโมบิเล่ จะพุ่งมาโขกที่เสาไกลส่งบอลตุงตาข่ายให้ทัพอัซซูร์รี่บุกมานำเจ้าถิ่นฟินแลนด์ นาที 70 แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮบ้างเมื่อผู้ตัดสินชาวสกอตแลนด์เป่าให้จุดโทษแก่ฟินแลนด์ หลังสเตฟาโน่ เซนซี่ ไปทำฟาวล์ในกรอบใส่ ตีมู ปุ๊กกี้ ก่อนที่ดาวยิงจากนอริชจะลุกมาสังหารส่งบอลผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เข้าไปให้ ฟินแลนด์ ไล่ตีเสมอ อิตาลี 1-1 นาที 79 อัซซูร์รี่มาเรียกจุดโทษคืนบ้าง หลัง นิโคโล่ บาเรลล่า ซัดบอลในกรอบไปติดมือ ซาอูลี่ ไวซาเน่น ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษพร้อมแจกใบเหลืองให้ไวซาเน่น และเป็น จอร์จินโญ่ มิดฟิลด์จากเชลซีทำหน้าที่สังหารเข้าไปอย่างใจเย็นให้ อิตาลี ขึ้นนำฟินแลนด์ อีกครั้ง 2-1 ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าถิ่นไม่สามารถไล่ตีเสมอได้ จบเกม อิตาลี บุกมาปราบฟินแลนด์แบบสนุก 2-1 ทำสถิติคว้าชัย 6 นัดติด มีเพิ่มเป็น 18 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เจ โดยหนีรองจ่าฝูงฟินแลนด์ถึง 6 แต้ม รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ฟินแลนด์ (5-4-1) : ลูคัส ฮราเด็คกี้ - อัลบิน กรานลุนด์, โยน่า ตอยวิโอ, เปาลุส อรายูรี่, ซาอูลี่ ไวซาเน่น, เยเร่ อูโรเน่น - โรบิน หลอด, ราสมุส ชูลเลอร์, เกล็น กามาร่า, ลาสซี่ ลัปปาไลเน่น - ตีมู ปุ๊กกี้ อิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า - อาร์มานโด อิซโซ่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, ฟรานเชสโก้ อแซร์บี้, เอเมอร์สัน พัลเมรี - นิโคโล่ บาเรลล่า, จอร์จินโญ่, สเตฟาโน่ เซนซี่ - เฟเดริโก้ เคียซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่, ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ ผู้ตัดสิน : บ็อบบี้ แมดเด้น (สกอตแลนด์) |
|