|
7
ก.ย. ฮอลแลนด์เอาคืนสำเร็จบุกถลุงเยอรมันพ่ายคาถิ่นคัดยูโร
"อัศวินสีส้ม" แม้ครึ่งแรกจะโดน เยอรมัน บุกมาขึ้นนำไปก่อนแต่ครึ่งหลัง โรนัลด์ คูมัน โชว์กึ๋นแก้เกมก่อนพา ฮอลแลนด์ ไล่กระหน่ำเจ้าถิ่น 4 เม็ดก่อนเข้าวินเอาชนะไปได้อย่างสนุก 4-2 เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 6 คะแนน ส่วน เยอรมัน ที่แข่งมากกว่าหนึ่งนัดแพ้นัดแรกมี 9 แต้ม ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่ม ซี เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา สนาม : โฟล์ค พาร์ค สตาดิโอน "อินทรีเหล็ก" คว้าชัยมา 3 นัดรวด เกมล่าสุดเมื่อช่วงมิถุนายนที่ผ่านมาคว้าชัยเหนือ เอสโตเนีย ขาดลอย 8-0 ขณะที่ ฮอลแลนด์ เพิ่งลงแข่งไป 2 เกม (ชนะ 1 แพ้ 1) เนื่องจากต้องเล่นยูฟ่า เนชั่น ลีก รอบสุดท้ายที่ผ่านมา ซึ่งเกมล่าสุดในแมตช์คัดยูโร 2020 คือการเปิดบ้านพ่ายให้ เยอรมัน 2-3 เมื่อช่วงเดือนมีนาคมนั่นเอง สำหรับเกมนี้ โยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ของเยอรมันส่งสามแนวรุกทั้ง แซร์จ นาบรี้, ติโม แวร์เนอร์ และมาร์โค รอยส์ ล่าตาข่าย ขณะที่ โรนัลด์ คูมัน นายใหญ่อัศวินสีส้ม รองแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2019 วางสามแดนหน้าเป็น ควินซี่ โพรเมส, เมมฟิส เดอปาย และ ไรอัน บาเบิล เริ่มเกมมา 5 นาทีแรก ฮอลแลนด์ ได้ทักทายก่อนเลยเมื่อ เมมฟิส เดอปาย กดนอกกรอบแต่บอลยังเบาไปเข้ามือ มานูเอล นอยเออร์ ถัดมาไม่ถึงนาที เจ้าบ้านสวนกลับมาเร็ว คราวนี้เป็น โทนี่ โครส ตั้งป้อมยิงลูกถนัดนอกกรอบแต่บอลหลุดกรอบออกไป แนวรุก "อัศวินสีส้ม" เล่นกันได้จี๊ดจ๊าด นาที 8 บอลจาก ไรอัน บาเบิล ฝากมาให้ เมมฟิส เดอปาย เลี้ยงตัดเข้ากลางแล้วอัดเต็มแรงแต่บอลยังไปตรงตัว นอยเออร์ เซฟไว้ได้ จากนั้นถัดมาแค่นาทีเดียว กลายเป็น เยอรมัน ที่ชิงขึ้นนนำไปก่อน 1-0 หลัง ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ หลุดเข้าไปในกรอบทางขวาแล้วยิงไปติดตัว ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ทว่าบอลมาเข้าทาง แซร์จ นาบรี้ วิ่งมายิงด้วยขวาหนีแนวรับฮอลแลนด์เสียบมุมเสาไกลเข้าไป เป็นประตูที่ 8 ในรอบ 9 เกม ของอดีตดาวเตะอาร์เซน่อล นาที 22 เมมฟิส เดอปาย เลี้ยงฟรีคิกนอกกรอบทางซ้ายได้ก่อนเจ้าตัวจะเปิดลูกนิ่งไปเสาไกลให้ มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ ขึ้นเทกโขกบอลย้อนไปเสาสองหลุดกรอบไปแบบได้เสียว ท้ายครึ่งแรก นาที 42 "อินทรีเหล็ก" พลาดโอกาสได้ประตูที่สอง หลัง โทนี่ โครส แทงบอลให้ มาร์โค รอยส์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยขวาแต่บอลยังไปติดเซฟของ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น อย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรก เยอรมัน ขึ้นนำ ฮอลแลนด์ 1-0 ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นยังโหมลุยบุกโจมตี นาที 50 บอลหลุดมาทางขวาถึง แซร์จ นาบรี้ ได้ครอสเลียดมาในกรอบไม่ถึง 5 หลาแต่บอลยังไปถูก มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ วิ่งมาเคลียร์บอลหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น จากนั้นอีกนาทีถัดมา ทีมเยือนได้บอลสวนกลับ เฟร็งกี้ เดอ ยอง แทงบอลถึง ควินซี่ โพรเมส หลุดเข้าไปยิงด้วยขวา แต่บอลไม่ห่างตัว นอยเออร์ เซฟไว้ได้ เช่นเดียวกับ นาที 56 มานูเอล นอยเออร์ โชว์เซฟแบบเหลือเชื่อเมื่อ หลัง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ได้กดเน้นๆกลางประตูแต่บอลยังอุตส่าห์พุ่งไปติดมือนายด่านจากเสือใต้ จนแล้วจนรอด อีก 3 นาทีถัดมา ฮอลแลนด์ ได้ลูกตีเสมอ 1-1 จนได้ บอลครอสจาก ไรอัน บาเบิล ทางซ้ายเข้ามาในกรอบ เฟร็งกี้ เดอ ยอง ถึงบอลก่อน นิโค ชูลซ์ ก่อนหลุดเข้าไปอัดเต็มข้อส่งบอลซุกตาข่าย โยอาคิม เลิฟ อยู่ไม่ได้ถอดเอาสองแนวรุกทั้ง ติโม แวร์เนอร์ และมาร์โค รอยส์ ที่เล่นไม่ออก แล้วส่ง ไค ฮาแวร์ตซ์ และอิลคาย กุนโดกัน ลงเล่นแทน นาที 66 แฟนบอลอินทรีเหล็กต้องเงียบกริบ เมื่อสถานการณ์พลิกเป็น ฮอลแลนด์ แซงขึ้นนำ 2-1 บอลเริ่มจากลูกคอนเนอร์ ดาเล่ย์ บลินด์ เปิดมาเข้าหัวของ ฟาน ไดค์ โขกไปติดเซฟของ นอยเออร์ ก่อนบอลจะมาเข้าทาง เมมฟิส เดอ ปาย ได้บอลถึงเส้นหลังแล้วหักมาเสาแรก ไรอัน บาเบิล ก่อนบอลเลยมาโดน โยนาธาน ทาห์ ทำเข้าประตูตัวเองไป กระนั้น อีกไม่กี่อึดใจ นาที 73 ทัพอินทรีเหล็กมาได้ลูกจุดโทษ หลัง มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ ไปเสียแฮนด์บอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ โทนี่ โครส จะยิงเข้าไปอย่างเยือกเย็นให้ เยอรมัน ไล่ตีเสมอ ฮอลแลนด์ 2-2 แต่เจ้าถิ่นดีใจไม่ทันไร นาที 80 ฮอลแลนด์มากระทุ้งขึ้นนำ 3-2 อีกรอบ บอลสวนกลับเร็วมาที่ เดอปาย ก่อนจ่ายทะลุช่องให้ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม หลุดเข้าไปก่อนเลือกจ่ายเข้ากลางให้ เดนเยลล์ มาเล่น ตัวสำรองยิงเข้าไป แนวรับเจ้าถิ่นยิ่งเล่นยิ่งแย่ ช่วงทดเจ็บ นาที 90+1 มาเสียประตูอีกเม็ด จากจังหวะสวนกลับของ เดอปาย ครอสบอลไปหน้าปากประตูให้ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม วิ่งเข้าชาร์จส่งบอลเข้าตาข่าย จบเกม เยอรมัน พ่ายคาบ้านให้ ฮอลแลนด์ 2-4 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เยอรมัน - มานูเอล นอยเออร์ - ลูคัส คลอสเตอร์มันน์, โยนาธาน ทาห์, นิคลาส ซือเล่, มัทธีอัส กินเทอร์ - โยชัว คิมมิช, โทนี่ โครส, นิโค ชูลซ์ - แซร์จ นาบรี้, ติโม แวร์เนอร์, มาร์โค รอยส์ ฮอลแลนด์ - ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น - เดนเซล ดุมฟรีส, มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, ดาเล่ย์ บลินด์ - มาร์เท่น เดอ รอน, เฟร็งกี้ เดอ ยอง, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม - ควินซี่ โพรเมส, เมมฟิส เดอปาย, ไรอัน บาเบิล |
|