|
4
พ.ย. แด่คุณวิชัย! เลสเตอร์สู้ตามคำมั่น บุกซัดคาร์ดิฟฟ์ซิวชัยให้ท่านประธาน
พลพรรค "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ รวมพลังสู้สุดใจ บุกไปคว้าชัยเหนือ คาร์ดิฟฟ์ 1-0 ด้วยประตูชัยจาก เดมาไร เกรย์ ที่ถอดเสื้อนอกโชว์ตัวเสื้อตัวในสกรีนข้อความมอบประตูที่ทำได้ให้คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรผู้ล่วงลับด้วย สนาม: คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม, (คาร์ดิฟฟ์, เวลส์) ''บลูเบิร์ดส์'' คาร์ดิฟฟ์ ของกุนซือ นีล วอร์น็อค ที่อยู่อันดับ 4 จากท้ายตารางคะแนนต้องขาด โจ รอลล์ส ที่ติดโทษแบน รวมไปถึง เนธาเนียล เมนเดซ-ลาอิงก์, ลี เพลเตียร์ และ แจซซ์ ริชาร์ดส์ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ทางด้าน ''เดอะ ฟ็อกซ์'' เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ โคล้ด ปูแอล ตัดสินใจลงเล่นเกมนี้ ก่อนยกพลบินด่วนสู่เมืองไทย เพื่อร่วมพิธีศพคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ท่านประธานสโมสรอันเป็นที่รักของพวกเขาทันทีที่จบเกมพรีเมียร์ลีก ที่ต้องออกไปเยือนคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ นัดนี้ เลสเตอร์ ไม่มี ดาเนียล อามาร์ตีย์ ดาวเตะทีมชาติกานาวัย 23 ปี ที่มีอาการบาดเจ็บข้อเท้ามาจากเกมเสมอ เวสต์แฮม 1-1 ต้องพักยาว รวมไปถึง แม็ตตี้ เจมส์ ที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว ตำแหน่งแบ็กขวาเลยต้องใช้งาน ริคาร์โด้ เปเรยร่า ฟูลแบ็กวัย 25 ปี ชาวโปรตุกีส ลงเล่นตัวจริงแทน อามาร์ตีย์ สำหรับเกมนี้กลุ่มแฟนบอลของคาร์ดิฟฟ์ จัดทำป้ายผ้าพิเศษโดยมีธงชาติไทยขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางขนาบข้างด้วยตราสโมสรของทั้งสองทีม และเขียนข้อความว่า ''อาร์.ไอ.พี. วิชัย (R.I.P. Vichai) โดยกางป้ายผ้าดังกล่าวที่บนอัฒจันทร์ นิเนียน สแตนด์ แล้วส่งต่อไปให้กองเชียร์เลสเตอร์ ในช่วงก่อนเกม ขณะที่บรรดาผู้เล่นของเลสเตอร์ ซิตี้ ได้สวมเสื้อยืดที่มีรูปของคุณวิชัย และมีข้อความที่แปลความหมายได้ว่าคุณวิชัยจะอยู่ในใจพวกเราตลอดกาล ลงมาระหว่างการวอร์มอัพด้วย ส่วนบรรยากาศก่อนเกมนั้นได้มีแฟนบอลเลสเตอร์นำป้ายผ้าธงชาติไทยมาเชียร์ทีมกันจำนวนมากบนอัฒจันทน์ และมีข้อความป้ายผ้าอำลาอาลัยคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรผู้ล่วงลับ อันเป็นการบ่งบอกว่าพวกเขารักคุณวิชัยอย่างมาก โดยแฟนบอลเลสเตอร์ที่มากันสามพันกว่าคนเต็มโควตาของทีมเยือน ก็ใส่เสื้อยืดที่มีข้อความว่า ''เดอะ บอสส์'' THE BOSS อยู่ด้านหน้า และมีรูปคุณวิชัย อยู่ด้วย ส่วนด้านหลังของเสื้อยืดมีคำภาษาอังกฤษว่า ''KHUN VICHAI'' พร้อมข้อความว่า คุณจะอยู่ในใจเราตลอดกาล แล้วร่วมกันร้องเพลงและชูผ้าพันคออย่างพร้อมเพรียง ก่อนเกมทาง ไทเลอร์ ตัน ลูกชายของ วินเซนต์ ตัน ประธานสโมสรคาร์ดิฟฟ์ ได้เดินนำพวงหรีดมาวางบนสนาม พร้อมกับที่ผู้เล่นทั้งสองทีมยืนไว้อาลัย 1 นาที โดยบนสกอร์บอร์ดมีการขึ้นรูปของผู้เสียชีวิตทั้งห้ารายจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเฮลิคอปเตอร์ตกที่เลสเตอร์ พร้อมข้อความไว้อาลัยด้วย ซึ่งในระหว่างการยืนไว้อาลัยทาง แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูจอมหนึบถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 5 นาที คาร์ดิฟฟ์ ทักทายก่อน เมื่อ คัลลั่ม แพ็ตเตอร์สัน กองหน้าทีมชาติสกอตแลนด์ เปิดบอลให้กับ บิคตอร์ กามาราซ่า กองกลางชาวสเปน กระทุ้งด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลหลุดเสาขวาไป เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 21 เลสเตอร์ ที่วันนี้สวมชุดสีเทาทั้งชุด ได้โอกาสบ้าง ริคาร์โด้ เปเรยร่า ลากตัดเข้าทางกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วหักเข้าใน แต่ เจมี่ วาร์ดี้ ถลำขึ้นหน้าไปแล้ว เลยชวดโอกาสไป สองนาทีต่อมา คาร์ดิฟฟ์ สวนขึ้นมา อาร์เทอร์ จ่ายให้กับ บ็อบบี้ รีด พลิกตัวยิงด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายทวารเลสเตอร์ ปัดได้แล้วรับไว้อีกที ผ่านมา 27 นาที เลสเตอร์ ซิตี้ จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนแรก เมื่อ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปราการหลังตัวเก่งที่วิ่งเบียดไปกับ คัลลั่ม แพ็ตเตอร์สัน กองหน้าคาร์ดิฟฟ์ แล้วโดนเข่าของแพ็ตเตอร์สัน ทับไปที่ขาจนเจ็บ เล่นต่อไม่ไหวเลยต้องให้ จอนนี่ อีแวนส์ ลงมาเล่นในแนวรับแทน ครึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษตรงกลางพอดี ก่อนที่ บิคตอร์ กามาราซ่า รับหน้าที่ปั่นด้วยขวาบอลไปชนคานออกมา จากนั้นนาทีที่ 37 เลสเตอร์ ได้ลุ้นบ้าง เจมส์ แม็ดดิสัน โยนลูกเตะมุมให้กับ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ขึ้นโหม่งหลุดเสาซ้ายไป ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 45+2 เลสเตอร์ น่าได้จริงๆ เมื่อ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ตัดบอลได้แล้วกระชากมายิงด้วยขวาทางกรอบเขตโทษด้านขวา นีล เอเธอริดจ์ นายทวารคาร์ดิฟฟ์ รับกระฉอกออกมาเข้าทาง เจมส์ แม็ดดิสัน ยิงติดบล็อกบอลเข้ามาทาง เจมี่ วาร์ดี้ ดีดด้วยขวาจ่อๆ บอลไปโดนแขนของ โซล บ็อมบา กองหลังคาร์ดิฟฟ์ เด้งไปชนคานออกหลังไป โดยจังหวะนี้ผู้เล่นของเลสเตอร์ พยายามบอกผู้ตัดสินว่าบอลไปโดนแขนของบ็อมบา แต่ผู้ตัดสินเฉย ไม่ได้เป่าจุดโทษแต่อย่างใด ให้เป็นแค่ลูกเตะมุมเท่านั้น ซึ่งจากลูกเตะมุม แม็ดดิสัน ไหลสั้นๆ ให้กับ เดมาไร เกรย์ เปิดโค้งจากทางด้านซ้ายออกหลังไปเลย หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0 กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้นาทีเดียว ทัพจิ้งจอกบุกเลย เจมส์ แมดดิสัน ยิงด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษ บอลแฉลบตัวของ อารอน กุนนาร์สสัน กองกลางคาร์ดิฟฟ์ออกหลังไป อย่างไรก็ตามนาทีที่ 52 คาร์ดิฟฟ์มีโอกาส เมื่อ จอช เมอร์ฟี่ เบียดเอาชนะ ริคาร์โด้ เปเรยร่า แบ็กขวาเลสเตอร์ได้ ก่อนเมอร์ฟี่กระชากหลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วสับด้วยซ้ายมุมแคบ แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายทวารเลสเตอร์ปิดมุมดีปัดทิ้งออกมาได้ กระเถิบมานาทีที่ 55 เลสเตอร์มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้ายเปิดจากกราบซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เดมาไร เกรย์ โฉบมาแปด้วยซ้ายจังหวะเดียว จากกลางกรอบเขตโทษบอลเข้าประตูไป โดย เดมาไร เกรย์ วิ่งดีใจสุดขีดพร้อมถอดเสื้อออกโชว์ให้เห็นเสื้อด้านในที่มีข้อความอุทิศประตูให้ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ท่านประธานสโมสรผู้ล่วงลับ (FOR KHUN VICHAI) โดยมีเพื่อนร่วมทีมวิ่งมาร่วมดีใจต่อหน้ากองเชียร์ทีมเยือนที่มากันสามพันกว่าคน ซึ่งจังหวะนี้ผู้ตัดสินก็แจกใบเหลืองให้กับเกรย์ไปตามกฎ ที่ถอดเสื้อฉลองประตูไปด้วย โดยทางแฟนๆ เลสเตอร์ก็ร่วมกันชูผ้าพันคอพร้อมร้องเพลงรำลึกถึงคุณวิชัยด้วยในช่วงนาทีที่ 60 ของเกม ล่วงเลยมานาที 65 คาร์ดิฟฟ์แก้เกมด้วยการเปลี่ยนผู้เล่นคนแรกส่ง จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ ลงเล่นแทน บ็อบบี้ รีด ขณะที่เลสเตอร์เปลี่ยนผู้เล่นคนที่สองในนาทีที่ 70 ส่ง แดนนี่ ซิมพ์สัน ลงมาเล่นแทน เดมาไร เกรย์ คนทำประตูให้ทีมขึ้นนำ จากนั้นนาทีที่ 73 เลสเตอร์ได้ลูกเตะมุมทางด้านขวาบอลเปิดมาถึง มาร์ค อัลไบรท์ตัน ยิงแฉลบผู้เล่นของคาร์ดิฟฟ์ออกหลังไป จากลูกเตะมุมอีกครั้งแมดดิสันโยนให้กับ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ขึ้นโหม่งหลุดเสาซ้ายไป เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกมเลสเตอร์ ซิตี้บุกมาชนะ 1-0 เก็บสามคะแนนเต็ม ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 10 ของตารางคะแนน รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ : นีล เอเธอริดจ์ - บรูโน่ ม็องก้า, ฌอน มอร์ริสัน (กัปตันทีม), โซล บ็อมบา, โจ เบนเน็ตต์ - บิคตอร์ กามาราซ่า, อารอน กุนนาร์สสัน, แฮร์รี่ อาร์เทอร์, จอช เมอร์ฟี่ - บ็อบบี้ รีด - คัลลั่ม แพ็ตเตอร์สัน สำรอง: อเล็กซ์ สมิธี่ส์ (ผู้รักษาประตู) - เกร็ก คันนิ่งแฮม, จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์, แกรี่ เมดีน, โลอิก ดามูร์, แดนนี่ วอร์ด, คาดีม แฮร์ริส เลสเตอร์ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, เวส มอร์แกน (กัปตันทีม), แฮร์รี่ แม็คไกวร์, เบน ชิลเวลล์ - น็อมปาลิส เมสดี้, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ - มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมส์ แม็ดดิสัน, เดมาไร เกรย์ - เจมี่ วาร์ดี้ สำรอง: แดนนี่ วอร์ด (ผู้รักษาประตู) - แดนนี่ ซิมพ์สัน, จอนนี่ อีแวนส์, บีเซนเต้ อีบอร์ร่า, คริสเตียน ฟุ้คส์, ฟุสเซนี่ ดิยาบาเต้, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ผู้ตัดสิน: ลี โพรเบิร์ต |
|