|
5
ส.ค. 'ซัวเรซ' สำรองฮีโร่ซัดงามหยด!บาร์เซโลน่ากดแซงเฉือนอาร์เซน่อลศึกโตรเฟโอฯ
หลุยส์ ซัวเรซ รับบทสำรองฮีโร่ยิงประตูสุดสวยช่วย "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ไล่ยิงแซงเก็บชัยเหนือ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ไปแบบสุดมัน 2-1 ในศึกฟุตบอล โตรเฟโอ โจน กัมเปร์ 2019 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562 บาร์เซโลน่า (สเปน) 2 - 1 อาร์เซน่อล (อังกฤษ) สนาม : คัมป์ นู บาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่ง ลา ลีกา สเปน ผิดคาดโดยจับ ลิโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ นั่งเพียงตัวสำรองสำหรับสามประสานแดนหน้าวาง อุสมาน เดมเบเล่ อยู่ฝั่งซ้าย โดยมี อองตวน กรีซมัน ยืนหน้าขวา และ คาร์เลส เปเรซ ยืดสูงเป็นหน้าตัวกลาง ขณะที่ฝั่ง "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เน้นเกมแดนกลางเป็นหลักมี รีสส์ เนลสัน, เมซุต โอซิล และ เฮนริค มคิทาร์ยาน ต่ำลงมาหนุน ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ที่ยืนหน้าเป้าปิดสกอร์ นาทีที่ 4 เป็นอาร์เซนอลได้ทักทายก่อน ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ได้ตั้งป้อมซัดเต็มข้อระยะประมาณ 24 หลากลางประตูแต่ไปติดแข้งเจ้าถิ่นบอลกระดอนออกหลังไป นาทีที่ 11 บาร์ซ่า ดูเหมือนจะครองเกมได้มากกว่าบุกขึ้นมาทางฝั่งขวา อุสมาน เดมเบเล่ กระชากผ่านแผงหลังอาร์เซน่อล ก่อนส่งบอลให้ ริชาร์ด พิวจ์ ที่สอดขึ้นมาจากข้างหลังแต่ถูกแผงหลังปืนใหญ่ตัดบอลเอาไว้ได้ นาทีที่ 13 เจ้าถิ่นได้ลุ้น อองตวน กรีซมัน ส่งบอลย้อนให้ อิวาน ราคิติช ซัดกลางกรอบเขตโทษแบบไม่จับด้วยเท้าขวาแต่ดูเหมือนว่าจะโดนไม่เต็มบอลบดเลียดออกข้างเสาประตูไป นาทีที่ 18 กรีซมัน ได้บอลที่มุมกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตัดสินใจกึ่งยิงกึ่งผ่าน แต่ทิศทางไม่ดีบอลเลยหลุดออกเสาไกลไปไม่ได้ลุ้น ถึง ณ ตอนนี้ บาร์เซโลน่า มีเปอร์เซ็นต์การครองบอลที่มากกว่า อาร์เซน่อล ที่ 57 ต่อ 43 เปอร์เซ็นต์ แต่ บาร์ซ่า ทำฟาวน์ไปแล้วถึง 5 ครั้ง ขณะที่ อาร์เซน่อล 3 ครั้ง นาทีที่ 21 บาร์ซ่า ได้ลุ้นอีกครั้ง เนลซอน เซเมโด้ เติมเกมหลุดไปทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนส่งย้อนเร็วมาให้ อุสมาน เดมเบเล่ หวดเต็มข้อแต่ยังมีผู้เล่นอาร์เซน่อลพุ่งเข้ามาล้มบล็อกบอลไว้ได้ ใบเหลืองแรกของเกมเกิดขึ้นนาทีถัดมาเป็นทาง จอร์ดี้ อัลบา แข้งเจ้าถิ่นที่ไปตัดฟาวน์หนักใส่ เฮนริค มคิทาร์ยาน นาทีที่ 26 ริชาร์ด พิวจ์ มีโอกาสบวกสกอร์แรกเมื่อได้จังหวะตั้งป้อมซัดหน้ากรอบเขตโทษทีมเยือนบอลพุ่งตรงเข้ากรอบแต่ไม่ผ่านมือ แบร์นด์ เลโน่ ที่รับเข้ามือไม่พลาด นาทีที่ 28 อาร์เซน่อล โต้ตอบกลับมาบ้าง เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส เติมเกมรุกหลุดไปถึงเส้นหลังก่อนเปิดบอลหวังให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ที่ยืนรออยู่ที่จุดนัดพบแต่ถูก เนโต้ นายด่านบาร์ซ่าอ่านทางบอลล้มตัวรับไว้ได้ นาทีที่ 36 เป็นอาร์เซน่อล ที่ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะจ่ายบอลสุดคมของ เมซุต โอซิล ส่งไปให้ โอบาเมย็อง จับบอลก่อนหมุนตัวแต่งบอลเข้าเท้าขวาแล้วตะบันเต็มข้อบอลพุ่งเบียดเสาเข้าไปหมดปัญญาที่ เนโต้ จะป้องกัน นาทีที่ 43 บาร์เซโลน่า พลาดได้ประตูตีเสมอไปอย่างน่าเสียดายเมื่อ อิวาน ราคิติช ผ่านบอลให้ อองตวน กรีซมัน หลุดเดี่ยวไปดีดบอลผ่านตัว แบร์นด์ เลโน่ เข้าไป แต่มีธงจากไลน์แมนส่งสัญญานเป็นลูกล้ำหน้า จบครึ่งแรกเป็น อาร์เซน่อล แม้จะครองเกมได้น้อยกว่าแต่อาศัยจังหวะโต้กลับและคมกว่าออกนำ บาร์เซโลน่า ไปก่อน 1-0 เริ่มครึ่งหลังนาทีที่ 55 บาร์เซโลน่า ที่ครองเกมได้แทบจะฝ่ายเดียวได้ลุ้นทวงประตูคืนเมื่อ อุสมาน เดมเบเล่ มีโอกาสหวดเต็มข้อระยะประมาณ 24 หลาแต่ทิศทางหลุดออกด้านข้างไปแบบเรียกว่าได้เสียว และแล้วนาทีที่ 63 หลุยส์ ซัวเรซ ก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน อุสมาน เดมเบเล่ ผ่านมาถึงนาทีที่ 69 บาร์เซโลน่า ตีเสมอได้สำเร็จเป็น 1-1 จากการทำเข้าประตูตัวเองของฝั่งอาร์เซน่อล โดย เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส ส่งบอลคืนหลังให้ แบร์นด์ เลโน่ แต่ไม่รู้กันโดย เลโน่ วิ่งสวนขึ้นมาอีกทางทำให้บอลไหลเข้าประตูไปแบบงงกันทั้งสนาม นาทีที่ 73 หลุยส์ ซัวเรซ กระชากบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปชิพผ่านตัว เลโน่ ที่ออกมาปิดมุมได้ดีทำให้บอลไม่ตรงกรอบเข้าข้างตาข่าย นาทีที่ 76 ซัวเรซ ได้บอลทางมุมกรอบเขตโทษฝั่งขวาตัดสินใจกึ่งยิงกึ่งผ่านแต่ เลโน่ นายด่านขาวเยอรมันยังล้มตัวปัดออกไปได้ นาทีที่ 80 อาร์เซน่อล หวิดได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ชาก้า เจ้าหนูดาวรุ่งวัย 17 ปีเปิดบอลจากทางฝั่งขวาเลยไปเข้าทาง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กระโดดหวดกลางอากาสระยะไม่ถึง 10 หลาหลุดออกข้างเสาประตูไปอย่างน่าเสียดาย ในจังหวะนี้ดูเหมือนว่า มาร์ติเนลลี่จะแย้ง โอบาเมย็อง ที่ยืนรอยิงอยู่เช่นกัน นาทีที่ 88 บาร์ซ่าน่าได้ลูกจุดโทษ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เหมือนจะใช้มือดึง ซัวเรซ ล้มลงในเขตโทษแต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไรและให้เล่นบอลต่อไป แต่แล้วบาร์เซโลน่าได้ประตูแซงนำ 2-1 จนได้ นาทีที่ 90 เป็น เซร์จี้ โรเบร์โต้ เปิดบอลโด่งเลยไปถึง ซัวเรซ ที่วิ่งทำทางไปในเขตโทษอาร์เซน่อลก่อนเจ้าตัวตัดสินใจหมุนตัววอลเล่ย์กลางอากาศแบบไม่รอให้บอลตกพื้นส่งบอลพุ่งเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงามทำเอา ลิโอเนล เมสซี่ ถึงกับปรบมือและยิ้มชอบใจในจังหวะนี้เมื่อกล้องจับไปที่ดาวยิงเลือดฟ้าขาวในซุ้มม้านั่งสำรอง จบเกม บาร์เซโลน่า เจ้าถิ่นไล่ยิงแซงเฉือน อาร์เซน่อลไปแบบสุดมัน 2-1 รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม บาร์เซโลน่า (4-3-3) : เนโต้ ( มาร์ค อันเดร แทร์ สเตเก้น น.46) - เคราร์ด ปิเก้ (เกลม็อง ลองเล่ต์ น.46), ซามูแอล อุมติตี้ (ฌอง แคล โตดิโบ น.46), จอร์ดี้ อัลบา (ฮวน มิรันด้า น.63), เนลซอน เซเมโด้ - อิวาน ราคิติช (การ์เลส อาเลนญ่า น.46), เฟร็งกี้ เดอ ยอง (เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ น.46), ริชาร์ด พิวจ์ (เซร์จี้ โรเบร์โต้ น.46) - อุสมาน เดมเบเล่ (หลุยส์ ซัวเรซ น.63), อองตวน กรีซมัน (อเล็ก คอลลาโด้ น.79), คาร์เลส เปเรซ (ราฟินญ่า น.46) เทรนเนอร์ : เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส (ชโคดราน มุสตาฟี่ น.87), คาลั่ม แชมเบอร์ส, นาโช่ มอนเรอัล (เซอัด โคลาซินัช น.46) - โจ วิลล็อค (ดานี่ เซบายอส น.72), กรานิต ชาคา ( ลูคัส ตอร์เรร่า น.86) - รีสส์ เนลสัน (มัตเตโอ เกนดูซี่ น.46), เมซุต โอซิล (กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ น.73), เฮนริค มคิทาร์ยาน (ชาก้า น.71) - ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง (เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเทียห์ น.86) เทรนเนอร์ : อูไน เอเมรี่ |
|