ทีมชาติ เซเนกัล ของกุนซือ เอดูอาร์ ซิสเซ่ เหนื่อยไม่น้อยหลังเสมอ ตูนิเซีย ในเวลา 90 นาที 0-0 ทั้งที่ทั้งคู่มีโอกาสได้จุดโทษแต่ก็พลาดไปหมดต้องต่อเวลาพิเศษและเป็น เซเนกัล ที่ดวงเฮงเชือด 1-0 จากความโชคร้ายของ ดีล็อง บรงน์ แนวรับ ตูนิเซีย ที่ทำบอลเข้าประตูตัวเอง ส่ง เซเนกัล ลอยลำผ่านเข้าชิงชนะเลิศในรอบ 17 ปีตั้งแต่ปี 2002

ศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2019 รอบสุดท้าย ที่ประเทศอียิปต์ โดยเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา รอบรองชนะเลิศ เซเนกัล ที่มีหัวหอกดาวดังลิเวอร์พูลอย่าง "ซาดิโอ มาเน่" ยืนแดนหน้าร่วม เอ็มบาย เนียง ลงบู๊ ตูนิเซีย อดีตแชมป์รายการนี้หนึ่งสมัยที่ไล่อัด มาดากัสการ์ 3-0 ในรอบก่อนมาได้สำเร็จ

เริ่มครึ่งแรกรูปเกมค่อนข้างสูสีแต่เป็น เซเนกัล ของเอดูอาร์ ซิสเซ่ ที่ทำได้ดีกว่านิดหน่อยแต่ยังซัดไม่ตรงกรอบด้วยกันทั้งคู่ จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันที่ 0-0

ส่วนครึ่งเวลาหลังกลายเป็น ตูนิเซีย ที่ทำได้ดีกว่ามีโอกาสยิงประตูมากขึ้นและมาได้จุดโทษในนาทีที่ 75 จากจังหวะ แฮนด์บอล ของ คาลิดู คูลิบาลี่ แต่ เฟอร์จานี่ ซาสซี่ จอมทัพ ตูนิเซียซัดไปเข้ามือ อัลเฟร็ด โกมิส เสียอย่างนั้น

จนมาถึงนาทีที่ 81 เป็นโอกาสทองของ เซเนกัล บ้าง อิสไมล่า ซาร์ ตัวสำรองลากบอลเข้าเขตโทษก่อนโดนหวดร่วงลงไปผู้ตัดสินให้จุดโทษทันทีแต่ อองรี เซเว่ต์ ซัดไม่ผ่านมือ มูเอซ ฮัสเซน ที่ทะยานไปปัดออกหลังอย่างเหนือชั้น ช่วงเวลาที่เหลือก็ยังไม่มีประตูจบ 90 นาทีต้องต่อเวลาพิเศษ

จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 100 จากจังหวะลูกฟรีคิกของ เซเนกัล ที่โยนยาวเข้าเขตโทษก่อน มูเอซ ฮัสเซน นายทวาร ตูนิเซีย พยายามออกมาเล่นแต่โชคร้ายบอลไปโดนตัว ดีล็อง บรงน์ ไหลเข้าประตูตัวเอง เซเนกัล 1 ตูนิเซีย 0

หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เป็น เซเนกัล ที่ดวงเฮงลอยลำเข้าไปชิงชนะเลิศ โดยจะรอพบ แอลจีเรีย หรือ ไนจีเรีย ที่จะลงแข่งเป็นคู่ดึก

www.siamsport.co.th