"ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา คว้าอันดับ 3 มาได้ครองได้สำเร็จ หลังจัดการทุบแชมป์เก่า ชิลี ไปแบบดุเดือด 2-1

โดยเกมนี้มีเหตุการณ์ดราม่าสุดวุ่นวาย หลังกัปตันทั้งสองทีมอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และแกรี่ เมเดล เกิดปะทะกันจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ เป็นเหตุให้ผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่ออกจากสนามทั้งสองคน ในศึกโกปา อเมริกา 2019 ที่ประเทศชิลี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

สนาม : อารีน่า โครินเธียนส์, เซา เปาโล

คู่ชิงอันดับ 3 โกปา อเมริกา 2019 เป็นการพบกันของคู่ชิงฯเมื่อสองครั้งที่ผ่านมาระหว่าง อาร์เจนตินา ที่แพ้เจ้าภาพ บราซิล 0-2 พบกับ ชิลี ที่พ่ายเปรูแบบหมดสภาพ 0-3

เกมนี้ทั้งสองทีมจัดผู้เล่นมาแบบเต็มสูบ "ฟ้าขาว" ของเทรนเนอร์ ลิโอเนล สกาโลนี่ เปลี่ยนสองตำแหน่งดร็อปทั้ง มาร์กอส อคุนญ่า และเลาตาโร่ มาร์ตีเนซ แล้วส่ง โจวานี่ โล เซลโซ่ คุมกลาง และเปาโล ดีบาล่า ล่าตาข่ายร่วมกับ เซร์คิโอ อเกวโร่และลิโอเนล เมสซี่ ขณะที่ ชิลี ยังเป็นชุดเดิมแนวรุกวาง

ทว่าอีก 5 นาทีต่อมา กลายเป็น อาร์เจนตินา ที่ฉวยโอกาสขึ้นนำไปก่อน 1-0 จนได้ เป็นความยอดเยี่ยมของ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมฟ้าขาวที่โชว์ไหวพริบฉวยโอกาสเล่นเร็วจากกลางสนาม จ่ายทะลุช่องให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ กาเบรียล อารีอัส ก่อนแตะหลบแล้วยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างใจเย็น

สถานการณ์ของ ชิลี แย่ลงไปอีก นาที 15 ต้องมาเสีย อเล็กซิส ซานเชซ ที่มีอาการเจ็บ ก่อนเล่นต่อไม่ไหวทำให้อีกสองนาทีถัดมาต้องส่ง จูเนียร์ แฟร์นานเดส ลงเล่นแทน

โมเมนตั้มกลายเป็นทัพ "ฟ้าขาว" ที่ขึงเกมรุกได้อยู่หมัด กลายเป็นแชมป์เก่าที่ออกอาการหงุดหงิดเล่นแบบไม่มีสมาธิ จนเป็นเหตุให้เสียประตูที่สอง ในนาที 22 โจวานนี่ โล เซลโซ่ จ่ายบอลทะลุแนวรับชิลีให้ เปาโล ดีบาล่า ที่วิ่งไปถึงบอลก่อน อารีอัสนายด่านของชิลีก่อนยิงสวนด้วยซ้ายส่งบอลเสียบเสาไกลให้ อาร์เจนตินา นำห่าง 2-0

อาร์เจนฯยิ่งเล่นยิ่งดี โดยเฉพาะกัปตันทีม ลิโอเนล เมสซี่ นาที 31 โชว์สกิลจ่ายบอลสุดเหนือเมื่อตักบอลไปให้ ดีบาล่า วิ่งมาวอลเลย์ด้วยซ้ายไม่ถึง 10 หลาบอลพุ่งเฉียดเสาออกไปแบบได้เสียว

นาที 37 เกิดเหตุการณ์สุดเดือดดราม่าวุ่นวายในสนาม หลังทั้ง แกรี่ เมเดล กัปตันของชิลี ปะทะกับ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันของฟ้าขาว จนทั้งสองมีปากเสียงกระทบกระทั่งจน ผู้ตัดสินชาวปารากวัยต้องวิ่งมาแจก ใบแดง ไล่ออกจากสนามทั้งสองคนทำให้ต้องทั้งสองทีมเหลือ 10 คนในสนาทเท่ากัน

จบการแข่งขันครึ่งแรก อาร์เจนตินา นำห่าง ชิลี 2-0

ครึ่งหลัง แม้ทั้งสองทีมจะเหลือ 10 คนเท่ากัน แต่ยังเปิดฉากแลกกันอย่างสนุก แค่นาที 48 อาร์เจนตินาเกือบได้เม็ดที่สาม หลัง โจวานนี่ โล เซลโซ่ หลุดเข้าไปซัดติดเซฟของ อารีอัส บอลชุลมุนวุ่นวายหน้ากรอบ ก่อนจังหวะสุดท้าย กุน อเกวโร่ จะหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไป แม้จะโดนกระแทกล้มลงในเขตโทษ แต่เชิ้ตดำปารากวัยไม่ว่าอะไรให้เล่นบอลต่อ

นาที 57 เกิดจุดเปลี่ยนของเกมอีก หลังผู้ตัดสินได้รับสัญญาณจากห้อง VAR ก่อนวิ่งไปดูภาพข้างสนามจากจังหวะที่ โจวานนี่ โล เซลโซ่ ไปหวดตัดขา ชาร์ลส์ อารานกีซ ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินที่ตอนแรกที่ไม่เป่าฟาวล์ กลับคำตัดสินวิ่งไปชี้เป็นจุดโทษให้ ชิลี ทันที และเป็น อาร์ตูโร่ วีดาล ที่วิ่งมาอัดกลางประตูเข้าไปให้ ชิลี ไล่อาร์เจนตินามาเป็น 1-2 ในนาที 59

นาที 72 ชิลี เกือบตีเสมอสำเร็จ หลัง อารานกีซ จ่ายบอลทะลุให้ เอดูอาร์โด้ วาร์กัส หลุดเข้าไปซัดเสาแรกแต่ยิงบอลไม่ดีไปตรงตัว ฟรังโก้ อาร์มานี่ รับไว้ได้ไม่พลาด

นาที 77 "ฟ้าขาว" พลาดโอกาสหนีห่างอีกครั้ง หลัง อังเคล ดิ มาเรีย ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาหลุดเข้าไปในกรอบก่อนปาดเลียดมาหน้าประตูแม้บอลจะสั้นไปแต่ กุน อเกวโร่ พยายามยกบอลทว่าไปติดหัว กาเบรียล อารีอัส ก่อนตามมารับเข้ามือ ถัดมาอีกสองนาที สตาร์จาก "เรือใบสีฟ้า" หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายผ่านนายด่านชิลีหลุดเสาออกไปแบบได้เสียวอีก

ช่วงท้ายเกมไม่มีประตูเกิดขึ้นทำให้ จบเกม อาร์เจนตินา เบียดเอาชนะ ชิลี ไปแบบสุดเดือดสุดมันส์ 2-1 คว้าอันดับ 3 ในครั้งนี้ไปครอง ส่วนแชมป์เก่า ชิลี แชมป์สองสมัยติดได้แค่อันดับ 4 เท่านั้น

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

อาร์เจนตินา (4-3-3) : ฟรังโก้ อาร์มานี่ - ฮวน ฟอยธ์, เคร์มัน เปซเซย่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, นิโกลัส ตาเกลียฟิโก้ - โรดริโก้ เดอ ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, โจวานนี่ โล เซลโซ่ (รามิโร่ ฟูเนส โมรี น.90) - ลิโอเนล เมสซี่, เปาโล ดีบาล่า (อังเคล ดิ มาเรีย น.67), เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' (มาตีอัส ซัวเรซ น.81)

ชิลี (3-1-4-2) : กาเบรียล อารีอัส - กอนซาโล่ ฮาร่า (กีเยร์โม่ มาริปาน น.50), แกรี่ เมเดล, เปาโล ดิอาซ - เอริค ปุลการ์ - เมาริซิโอ อิสล่า, ชาร์ลส์ อารานกีซ (นิโกลัส กาสตีโย่ น.83), อาร์ตูโร่ วีดาล, ฌอน โบเซอชูร์ - เอดูอาร์โด้ วาร์กัส, อเล็กซิส
ซานเชซ (จูเนียร์ แฟร์นานเดส น.17)

ผู้ตัดสิน : มาริโอ ดิอาซ โบกาโด้ (ปารากวัย)

เช่นเดียวกับทางฝั่งแชมป์เก่า ชิลี ที่เปลี่ยนสองตำแหน่งเหมือนกันดร็อป กีเยร์โม่ มาริปาน แนวรับ และฮวน ฟวนซาลิด้า โดยส่งสองแนวรับทั้ง เปาโล ดิอาซ และ กอนซาโล่ ฮาร่า คุมหลังร่วมกับ แกรี่ เมเดล ส่วนแนวรุกยังเป็น เอดูอาร์โด้ วาร์กัสและอเล็กซิส ซานเชซ

เริ่มเกมมาได้แค่ 7 นาที "ฟ้าขาว" ได้ทักทายก่อนเลยจากจังหวะพลิกตัวยิงของ กุน อเกวโร่ ที่ตะบันด้วยขวานอกกรอบ แต่บอลพุ่งเฉียดเสาแรกออกไปแบบหวุดหวิด

www.siamsport.co.th