|
25
พ.ย. "ซน"เจ๋งโซโล่เดี่ยวยิง! สเปอร์สฟอร์มหรูถลุงเชลซี ยัดเยียดความปราชัยนัดแรก
"สิงห์บลูส์" ต้องเจอกับความพ่ายแพ้นัดแรกของซีซั่น หลังเจอความสุดยอดของ สเปอร์ส ที่เล่นกันได้เนียนกริบไล่ถล่มคู่แข่งร่วมเมืองขาดลอย 3-1 เกมนี้ ซน ฮึง มิน ทำฮือฮาเลี้ยงโซ่โล่เดี่ยวเข้าไปยิงอย่างสวยงาม ส่งให้ "ไก่เดือยทอง" ซิวสามแต้มแซง เชลซี ขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ตามหลังหงส์แดง 2 คะแนน และจ่าฝูงแมนซิตี้ 5 แต้ม ในเกม ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา สนาม: เวมบลี่ย์ สเตเดี้ยม, (ลอนดอน) ศึกลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ เป็นการพบกันระหว่าง "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมอันดับ 4 ของตารางคะแนน ลงเล่นมาแล้ว 12 นัด ยังไม่เคยเสมอใครเลย (ชนะ 9 แพ้ 3) เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "สิงห์บลูส์" เชลซี ทีมอันดับสามของตารางที่ยังไม่แพ้ใครเลย (ชนะ 8 เสมอ 4) จาก 12 นัด ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่ 4 นาที สเปอร์ส ทักทายก่อนเลยจากจังหวะที่ แซร์ช โอริเย่ร์ โยนจากกราบขวาให้ แฮร์รี่ เคน เทคตัวขึ้นโหม่งได้สูงกว่าผู้เล่นของเชลซี แต่ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า นายทวารของสิงห์บลูส์ รับไว้ได้ติดมือ นาทีต่อมา เชลซี โต้กลับมาบ้าง วิลเลี่ยน เปิดให้กับ อัลบาโร่ โมราต้า ยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษบอลข้ามคานไป อย่างไรก็ตามเป็น ท็อตแน่มฯ เจ้าถิ่นที่มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 8 จากจังหวะที่ได้ฟรีคิกทางด้านขวา เบน เดวิส วิ่งข้ามหลอก ก่อนที่ คริสเตียน เอริคเซ่น จะปั่นด้วยขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เดเล่ อัลลี่ โฉบมาสะบัดโหม่งเช็ดบางๆจากระยะแค่ 6 หลาที่เสาแรก บอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างงดงาม ถัดมาสองนาที ไก่เดือยทอง น่าจะได้ประตูที่สองอย่างยิ่ง เมื่อ คริสเตียน เอริคเซ่น เบิ้ลบอลข้ามแนวรับให้กับ ซน ฮึง-มิน หลุดเดี่ยวเข้าไปเอี้ยวตัวฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาในกรอบเขตโทษ บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย ผ่านมา 12 นาที เจ้าบ้านบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง เอริค ดายเออร์ เปิดบอลให้กับ ซน ฮึง-มิน ดาวเตะทีมชาติเกาหลีใต้ สับด้วยขวาจากนอกเขตโทษติดบล็อค นาทีต่อมา สเปอร์ส น่าจะได้เพิ่ม เดเล่ อัลลี่ จ่ายให้กับ ซน ฮึง-มิน กระชากหลุดเดี่ยวเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านขวา แต่จังหวะยิงด้วยขวาจ่อๆติดเซฟของ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า นายทวารเชลซี ที่ปิดมุมได้ดี อย่างไรก็ตามนาทีที่ 16 ท็อตแน่มฯ นำห่าง 2-0 เมื่อ คริสเตียน เอเริคเซ่น ไหลบอลจากซ้ายสั้นๆให้กับ แฮร์รี่ เคน พลิกตัวได้แล้วกระชากขึ้นมาตะบันด้วยขวาจากนอกเขตโทษ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังของเชลซี ดันไปเอี้ยวตัวหลบ บอลเลยพุ่งวาบกระดอนพื้นเบียดเสาซ้ายมือเข้าประตูไป และเป็นประตูที่ 7 ของแฮร์รี่ เคน ในพรีเมียร์ ลีก ซีซั่นนี้ สิบนาทีต่อมา เชลซี เริ่มตั้งเกมได้แล้ว ได้โอกาสลุ้นบ้าง เซซาร์ อัซปีลีกวยต้า กัปตันทีมดันขึ้นมาเปิดจากกราบขวาเข้ากลาง อัลบาโร่ โมราต้า ได้ซัดจ่อๆ อูโก้ โยริส นายทวารกัปตันทีมของสเปอร์ส ปัดไว้แล้วตามรับอีกครั้ง แต่จังหวะนี้ผู้ตัดสินเป่าเป็นล้ำหน้า โมราต้า ไปก่อนแล้ว ครึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน สเปอร์ส มีโอกาสลุ้นอีกจากจังหวะเล่นเตะมุมสั้น บอลมาถึง เอริคเซ่น เปิดจากกราบขวาให้ โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์ โฉบมายิงด้วยขวาจากระยะแค่ 6 หลา เกปา อาร์รีซาบาลาก้า นายทวารเชลซี ปัดออกมาเข้าทางของ ฮวน ฟอยธ์ ใช้เท้าขวาดีดหลังเร็วทันที บอลเฉี่ยวเสาซ้ายออกไป เชลซี ยังไม่ท้อ มีโอกาสบ้างในนาทีที่ 38 อัลบาโร่ โมราต้า จ่ายให้กับ เอแด็น อาซาร์ สับไกยิงด้วยขวาจากนรอกเขตโทษ เล่นเอา อูโก้ โยริส นายทวารของสเปอร์ส ต้องออกแรงปัดทิ้งออกหลังไป ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 45+1 ไก่เดือยทอง บดหนักทีเดียว คริสเตียน เอริคเซ่น เปิดให้กับ ซน ฮึง-มิน วอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่จับ กลางกรอบเขตโทษ แต่ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ทิ้งตัวปัดไว้ได้ ก่อนที่ ดาวิด ลุยซ์ จะเคลียร์ออกหลังไป จากนั้นเจ้าถิ่นยังได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อบีบแย่งบอลได้แล้วไหลให้ โอริเย่ร์ โยนจากกราบขวาไปให้ เดเล่ อัลลี่ โหนโหม่งที่เสาสอง บอลเข้ากรอบ แต่ไม่มีน้ำหนัก เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ยืดแขนรับไว้ได้สบาย หมดครึ่งแรก สเปอร์ส ขึ้นนำก่อน 2-0 กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งเวลาหลังได้ 6 นาที เชลซี พยายามโหมบุก มาเตโอ โควาซิซ มีโอกาสได้กระโดดยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษ บอลข้ามคานไป อย่างไรก็ตามนาทีที่ 54 เจ้าบ้านมาได้ประตูที่สามหนีห่างออกไปอีกจากจังหวะที่ เดเล่ อัลลี่ เปิดบอลยาวจากแดนหลังให้กับ ซน ฮึง-มิน กระชากบอลจากกราบขวาหนี จอร์จินโญ่ ไปได้ ก่อนจะเกี่ยวหลบ ดาวิด ลุยซ์ ที่หวังเข้ามาซ้อนอีกราย แล้วปั่นด้วยซ้ายจากกลางกรอบเขตโทษ บอลเสียบมุมซ้ายเข้าไปอย่างสวยงามช่วยให้ สเปอร์ส นำขาด 3-0 แล้ว กระเถิบมานาทีที่ 68 สเปอร์ส น่าจะได้ประตูที่สี่ เมื่อโต้กลับเร็วขึ้นมา มุสซ่า ซิสโซโก้ เติมมาเปิดจากกราบขวาให้ แฮร์รี่ เคน แปด้วยขวาจ่อๆ จากกลางกรอบเขตโทษ ข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ สองนาทีต่อมา ไก่เดือยทอง น่าจะได้เพิ่ม เมื่อ แฮร์รี่ เคน ไหลคืนหลังให้กับ เดเล่ อัลลี่ ปั่นด้วยขวาจากกลางกรอบเขตโทษบอลข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น ล่วงเลยมานาทีที่ 76 เชลซี เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายส่ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงเล่นแทน วิลเลี่ยน ส่วน สเปอร์ส ส่ง เอริค ลาเมล่า ลงเล่นแทน ซน ฮึง-มิน คนทำประตูที่สามให้กับคลับไก่ ท็อตแน่มฯ ยังไม่เพลาเกมรุก มีโอกาสอีกในนาทีที่ 83 เอริค ดายเออร์ ให้บอลไปที่ แฮร์รี่ เคน ลากมายิงด้วยซ้ายจากกลางกรอบเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัวของ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า นายทวารของเชลซี ทว่าสองนาทีต่อมา เชลซี ไล่ตามมาเป็น 1-3 เมื่อ เซซาร์ อัซปีลีกวยต้า โยนจากกราบขวาให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ลงมาเป็นสำรอง เทคตัวโขกคนเดียวจ่อๆ เข้าประตูไป เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เปิดบ้านถล่ม เชลซี ไปสวยงาม 3-1 เก็บสามแต้มสำคัญขยับแซงขึ้นมาอยู่อันดับสามของตาราง ส่วน เชลซี ที่แพ้เป็นครั้งแรกในลีกซีซั่นนี้ ตกมาอยู่อันดับ 4 แล้ว รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม สเปอร์ส: อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) - แซร์ช โอริเย่ร์, ฮวน ฟอยธ์, โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์, เบน เดวิส - มุสซ่า ซิสโซโก้, เอริค ดายเออร์ - คริสเตียน เอริคเซ่น, เดเล่ อัลลี่ (แฮร์รี่ วิงค์ส น.87), ซน ฮึง-มิน (เอริค ลาเมล่า น.78) - แฮร์รี่ เคน เชลซี: เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปีลีกวยต้า (กัปตันทีม), อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด ลุยซ์, มาร์กอส อลอนโซ่ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิซ (รอสส์ บาร์คลี่ย์ น.58) - วิลเลี่ยน (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.76), อัลบาโร่ โมราต้า (เปโดร โรดรีเกซ น.58), เอแด็น อาซาร์ ผู้ตัดสิน: มาร์ติน แอ็ตกินสัน |
|