|
19
พ.ค. ราฮีม3ตุง-แมนซิตี้ยำวัตฟอร์ด คว้าเอฟเอคัพสมัยที่6
"เรือใบสีฟ้า" สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นทีมแรกคว้าทริปเปิ้ลแชมป์บอลอังกฤษได้สำเร็จ หลัง ราฮีม สเตอร์ลิง ตะบันแฮตทริก พา แมนฯซิตี้ ไล่ถล่มเอาชนะ วัตฟอร์ด 6-0 คว้าแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่ 6 ในนัดชิงชนะเลิศ ที่เวมบลี่ย์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมกับคว้าแชมป์รายการที่ 3 ของฤดูกาลต่อจาก พรีเมียร์ลีก และคาราบาว คัพ และยังถูกจารึกเป็นสโมสรแรกที่กวาดทุกแชมป์ในอังกฤษในซีซั่นเดียว สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม วัตฟอร์ด ที่ผ่านเข้ามาเล่นรอบชิงรายการนี้เป็นครั้งที่สองวาง เคราร์ด เดวโลเฟว และ ทรอย ดีนี่ย์ เป็นตัวทีเด็ดในแนวรุก ด้าน แมนฯ ซิตี้ ให้ กาเบรียล เชซุส เป็นตัวจริง โดยมี ริยาด มาห์เรซ และ ราฮีม สเตอร์ลิง สนับสนุน เริ่มเกมมา 11 นาที วัตฟอร์ด มีโอกาสทองจากจังหวะสวนกลับ เคราร์ด เดวโลเฟว ทะลุมาทางกราบขวาก่อนผ่านเข้ากลางให้ โรเบร์โต้ เปเรยร่า หลุดเดี่ยวลากจี้ไปยิงติด เอแดร์ซอน ที่ออกมาปิดมุมได้เร็วมาก นาทีถัดมา เรือใบมีลุ้นบ้าง เมื่อ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ลองซัดไกลด้วยซ้าย แต่บอลก็ไปเข้าซอง เอเรลโญ่ โกเมส ทว่านาทีที่ 26 กลับเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดูกูเร่ ไปเลี้ยงเลอะเทอะเสียบอลกลางสนาม สุดท้ายแนวรับแตนอาละวาดก็สกัดบอลกันไม่ขาด บอลมาตกที่หน้า ดาบิด ซิลบา ในเขตโทษด้านซ้ายตะบันผ่าน โกเมส เสียบเสาไกลไปเลย ไม่แค่นั้น นาทีที่ 38 เรือใบหนีห่าง 2-0 เมื่อ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ยกบอลให้ เชซุส หลุดไปทางฝั่งซ้ายยิงผ่าน โกเมส กำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ สเตอร์ลิง ก็มาเอาชัวร์ซัลโวบนเส้นตุงตาข่ายขโมยเครดิตคนทำประตูไป นาทีที่ 40 แมนฯ ซิตี้ เกือบได้เพิ่มอีกเม็ด เมื่อ ริยาด มาห์เรซ ล็อกบอลไปยิงมุมแคบด้วยขวา แต่ โกเมส ปัดออกหลังไปได้ หมดครึ่งแรก เรือใบนำ 2-0 ในครึ่งหลัง นาทีที่ 48 กองเชียร์เรือใบต้องเฮเก้อ เมื่อ เชซุส โหม่งบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่ไลน์แมนยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้า ซึ่งก็ล้ำจริง วัตฟอร์ด เกือบตีไข่แตกได้ เมื่อ เอเตียน กาปู โหม่งเข้าเขตโทษให้ เดวโลเฟว สปีดแซง ก็องปานี ไปยิงด้วยซ้าย แต่โดนเหลี่ยมไม่ดี เลยไม่มีลุ้นอะไร เรือใบมาทิ้ง 3-0 นาทีที่ 61 จากจังหวะสวนกลับ เชซุส กระชากหลุดมาทางซ้ายก่อนปาดถวายพานมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ตัวสำรองดึงหลอก โกเมส อย่างเหนือชั้นแล้วยิงตุงตาข่ายแบบใจเย็น นาทีที่ 68 สกอร์มาขยับเป็น 4-0 เมื่อ เดอ บรอยน์ แทงทะลุให้ เชซุส หลุดเดี่ยวตั้งแต่ครึ่งสนาม ก่อนลากไปยิงผ่าน โกเมส ตุงตาข่ายไม่เหลือ ไม่แค่นั้น นาทีที่ 81 เรือใบทิ้งไกล 5-0 จากจังหวะที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา กระชากมาทางซ้ายก่อนเปิดเรียดมาให้ สเตอร์ลิง วางเท้าแปเข้าประตูไป นาทีที่ 87 สกอร์มาเปลี่ยนเป็น 6-0 เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดจากฝั่งขวาไปให้ สเตอร์ลิง วางเท้าตวัดยิงเข้าประตูไปเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้ ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนฯ ซิตี้ ถล่ม วัตฟอร์ด 5-0 คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 6 พร้อมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในประเทศได้สำเร็จต่อจาก พรีเมียร์ลีก และคาราบาว คัพ อีกทั้งยังเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของอังกฤษอีกด้วย นอกจากนี้ยังโยนตั๋วเล่นยูโรปาลีกซีซั่นหน้าให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ทีมอันดับ 7 ทันที เนื่องจากลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้สิทธิ์ไปเล่นบอลถ้วยใหญ่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่แล้ว รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน (ลีรอย ซาเน่ น.73), ดาบิด ซิลบา (จอห์น สโตนส์ น.79), ริยาด มาห์เรซ (เควิน เดอ บรอยน์ น.55), กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง วัตฟอร์ด : เอเรลโญ่ โกเมส, กีโก้ เฟเมเนีย, อาเดรียน มาริอัปป้า, เคร็ก แคธคาร์ต, โฮเซ่ โฮเลบาส, เคราร์ด เดวโลเฟว (อันเดร เกรย์ น.66), วิลล์ ฮิวจ์ส (ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ น.73), เอเตียน กาปู, อับดูลาย ดูกูเร่, โรเบร์โต้ เปเรยร่า (อิซัค ซัคเซสส์ น.66), ทรอย ดีนี่ย์ ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์ ทำเนียบแชมป์ เอฟเอ คัพ (10ปีย้อนหลัง) แชมป์ รองแชมป์ 200910 เชลซี ชนะ พอร์ทสมัธ 1-0 201011 แมนฯซิตี้ ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 201112 เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 201213 วีแกน ชนะ แมนฯซิตี้ 1-0 201314 อาร์เซน่อล ชนะต่อเวลาฯ ฮัลล์ ซิตี้ 3-2 201415 อาร์เซน่อล ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-0 201516 แมนฯยูฯ ชนะต่อเวลาฯ คริสตัล พาเลศ 2-1 201617 อาร์เซน่อล ชนะ เชลซี 2-1 201718 เชลซี ชนะ แมนฯยูฯ 1-0 201819 แมนฯซิตี้ ชนะ วัตฟอร์ด 6-0 |
|