19
พ.ค.
บาเยิร์นแชมป์สมัยที่29!บทสรุปบุนเดสลีกา2018/19


ท้ายที่สุดก็ไม่มีอะไรพลิกล็อก เมื่อ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน ประจำฤดูกาล 2018/19 ไปครองได้ตามคาด หลังเปิดรัง อัลลิอันซ์ อารีน่า ยำใหญ่ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 5-1 ในเกมปิดซีซั่น เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

นอกจากเป็นเกมที่ส่งให้ บาเยิร์น คว้าแชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่แล้ว นี่คือเกมอำลาทีมที่สุดจะเพอร์เฟคของคู่หู "ร็อบเบรี่" อย่าง ฟร้องค์ ริเบรี่ กับ อาร์เยน ร็อบเบน สองยอดปีกระดับตำนานของสโมสรด้วย เพราะทั้งสองต่างทำประตูได้ในเกมนี้ หลังถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 61 และ 67 ตามลำดับ น่าเสียดายที่เกมนี้ ราฟินญ่า ฟูลแบ็กตัวเก๋าชาวบราซิเลียน ที่เตรียมอำลาทีมหลังจบซีซั่นนี้เช่นกันนั้น ไม่ได้ลงสนาม โดยมีชื่อแค่เป็นตัวสำรอง

ถือเป็นการครองความยิ่งใหญ่ในวงการลูกหนังเมืองเบียร์อย่างแท้จริง เพราะนี่คือการซิวแชมป์ บุนเดสลีกา สมัยที่ 7 ติดต่อกัน หรือว่ากันง่ายคือ คว้าแชมป์มาตลอดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2012/13

ความสำเร็จในฤดูกาลนี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ เหมือนในฤดูกาลก่อนๆ เพราะต้องไม่ลืมว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พวกเขามีคะแนนตามหลัง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถึง 9 แต้ม แต่สุดท้ายลูกทีมของกุนซือ นิโก้ โควัช ก็พลิกขึ้นมาคว้าแชมป์ได้ ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับบรรดานักเตะ "เสือใต้" โดยเฉพาะกับ โควัช ที่ต้องทำงานอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนัก เพราะที่ผ่านมามีกระแสข่าวออกมาตลอดเกี่ยวกับการถูกโดนเด้ง ต่อให้พาทีมคว้าแชมป์ได้ก็ตาม แต่ภารกิจของ บาเยิร์น ยังไม่หมดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะพวกเขายังมีลุ้นคว้า "ดับเบิ้ลแชมป์" โดยมีคิวลงเตะเกม เดเอฟเบ โพคาล รอบชิงชนะเลิศ กับ แอร์เบ ไลป์ซิก วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม

ทางฝั่งรองแชมป์อย่าง ดอร์ทมุนด์ ถือว่าน่าเสียดายไม่น้อย เพราะนี่คือฤดูกาลที่พวกเขามีลุ้นมากๆ แต่สุดท้ายแพ้ความเก๋าของ บาเยิร์น อย่างไรก็ตาม ทีมของ ลูเซียง ฟาฟร์ คงจะได้ลุ้นอีกในฤดูกาลหน้า หากเก็บทีมชุดนี้เอาไว้ได้ ยกเว้นแค่ในรายของ คริสเตียน พูลิซิช ที่เตรียมย้ายไป เชลซี

สำหรับสี่ทีมที่จะได้ลุยถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้านั้น ประกอบไปด้วย บาเยิร์น มิวนิค (แชมป์), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (รองแชมป์), แอร์เบ ไลป์ซ์ก (อันดับสาม) และ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (อันดับสี่) โดยเฉพาะ "ห้างขายยา" ถือว่าสุดยอดมาก เพราะพวกเขาแซง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ขึ้นมาซิวที่สี่ได้ในเกมสุดท้าย หลังบุกกระซวก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 5-1 ขณะที่ กลัดบัค แพ้ ดอร์ทมุนด์ คาบ้าน 0-2 ทำให้ เลเวอร์คูเซ่น ขึ้นมามี 58 แต้ม ส่วน กลัดบัค นิ่งอยู่ที่ 55 แต้ม พร้อมกับร่วงไปอยูที่อันดับห้า ได้แค่สิทธิ์ไปเล่นในถ้วย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เช่นเดียวกับ เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก ทีมอันดับหก และ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ทีมอันดับเจ็ด โดยที่ แฟร้งค์เฟิร์ต ต้องลงเตะในรอบคัดเลือกก่อน

หันมาดูโซนท้ายตารางบ้าง ทีมที่จะต้องตกชั้นลงไปเล่นใน ลีกา สอง ฤดูกาลหน้าคือ เนิร์นแบร์ก (อันดับสุดท้าย) กับ ฮันโนเวอร์ 96 (อันดับ 17) ส่วน เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท ที่ได้อันดับ 17 ต้องไปลุ้นต่อในการเตะเพลย์ออฟ (เตะสองเกมในวันที่ 23 กับ 27 พ.ค.) ซึ่งพวกเขาจะต้องเจอกับทีมอันดับสามจาก ลีกา สอง (อาจจะเป็น พาเดอร์บอร์น หรือไม่ก็ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน)

สำหรับดาวซัลโวประจำฤดูกาลนี้คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอก บาเยิร์น ที่กดไป 22 ประตู ซึ่งถือเป็นสมัยที่สี่แล้วที่เจ้าตัวได้ตำแหน่งนี้ ต่อจากฤดูกาล 2013/14, 2015/16 และ 2017/18 ส่วน ปาโก้ อัลกาเซร์ กองหน้าตัวเก่ง ดอร์ทมุนด์ เข้าป้ายที่อันดับสอง กระทุ้งไป 18 ตุง

ส่วนจ้าวแห่งการแอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ตกเป็นของ จาดอน ซานโช ปีกดาวรุ่งชาวอังกฤษของ "เสือเหลือง" ที่ทำไป 14 แอสซิสต์ ส่วนอันดับสองคือ โยชัว คิมมิช ฟูลแบ็ก "เสือใต้" ที่กดไป 13 แอสซิสต์

...ศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ฤดูกาล 2018/19 ปิดฉากลงไปพร้อมกับความยิ่งใหญ่ของ บาเยิร์น มิวนิค ที่ได้แชมป์มาครองเป็นสมัยที่ 29 ซึ่งก็แน่นอนว่า ฤดูกาลหน้าพวกเขาจะกลับมาในฐานะทีม "เต็งแชมป์" อีกครั้ง เพียงแต่การแข่งขันจะสนุกสูสีเหมือนในฤดูกาลนี้หรือเปล่าเท่านั้นเอง...

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.