7
พ.ค.
แมนซิตี้บุกเป็นพายุก่อนเบียดเลสเตอร์หวิว แซงหงส์นำจ่าฝูง


แว็งซ็องต์ ก็องปานี แนวรับตัวเก่งกลายเป็นฮีโร่ของเกมนี้หลังตะบันซัดไกลสุดสวยพา แมนฯซิตี้ เบียดเอาชนะ เลสเตอร์ ได้แบบหวุดหวิด 1-0 คว้าสามแต้มล้ำค่าพร้อมแซง ลิเวอร์พูล นำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดรองสุดท้าย เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

เริ่มเกมมาได้แค่ 8 นาที กลายเป็น ทีมเยือนที่ได้เสียวทักทายเจ้าถิ่นก่อนเลย จากจังหวะที่ ริคาร์โด้ เปเรยร่า หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายในกรอบ แต่ยังดีที่ แว็งซ็องต์ ก็องปานี พุ่งมาบล็อกบอลไว้ได้ แม้จังหวะต่อมา มาร์ค อัลไบรท์ตัน จะได้หวดซ้ำอีกทีแต่บอลก็ยังไม่ผ่านแนวรับเรือใบที่เข้ามาขวางได้ทัน

นาที 11 "เรือใบสีฟ้า" เกือบชิงขึ้นนำ ไคล์ วอล์คเกอร์ วางบอลยาวถึง ฟิล โฟเด้น ที่หนีตัวประกบก่อนตัดสินใจวอลเลย์เร็วบอลพุ่งไปเข้ามือ แคชเปอร์ ชไมเคิ่ล

ถัดมาไม่ถึงสามนาที เลสเตอร์ ซิตี้ ได้สวนกลับเร็วมาบ้าง เจมี่ วาร์ดี้ ลากบอลถึงหน้ากรอบแล้วป้ายเข้ากลางให้ ยูริ ตีเลม็องส์ แต่ห้องเครื่องชาวเบลเยียมยิงเบาไปบอลเข้ามือ เอแดร์ซอน รับไว้ได้สบาย

เกมเข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก "ซิตี้" เริ่มครองบอลได้มากขึ้น คราวนี แบร์นาโด้ ซิลวา ใช้ความสามารถเฉพาะเลี้ยงกินตัวหนีแนวรับจจิ้งจอก ล็อกซ้าย ล็อกขวา ก่อนโดนจิ้มออกมา บอลไม่พ้นทางปืน อิลคาย กุนโดกัน ยิงสวนบอลไปแฉลบแนวรับเสสเตอร์ออกหลังไป

นาที 31 แบร์นาโด้ ซิลวา วางบอลด้วยซ้ายมาเสาสองบอลโค้งจะเข้าหัว กุน อเกวโร่ อยู่แล้วแต่ ริคาร์โด้ เปเรยร่า โหนโหม่งบอลสกัดบอลออกไปหวุดหวิด

และจากจังหวะเตะมุมต่อมา แมนฯซิตี้ พลาดโอกาสได้ประตูอย่างน่าเสียดาย เมื่อกุนโดกันเปิดคอนเนอร์มาให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ โฉบโขกเสาแรกบอลพุ่งชนคานจะข้ามเส้นอยู่แล้วแต่ แคชเปอร์ ชไมเคิ่ล ยังเร็วปัดบอลพ้นเส้นออกมาหวุดหวิด

ทัพเรือใบโหมกระหน่ำมาติดๆ นาที 35 ดาบิด ซิลบา ได้หวดด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งเฉียดเสาสองออกไป

ท้ายเกม นาที 44 เจมี่ วาร์ดี้ ได้บอลเกือบหลุดเข้าไปหน้าปากประตูเจ้าถิ่นอยู่แล้วแต่ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ยังมาเสียบบอลหยุเกมจน ไมค์ ดีน วิ่งมาแจกใบเหลืองเป็นคนที่สองของเจ้าถิ่นต่อจาก ดาบิด ซิลบา

ถัดมานาทีเดียว เกมรุกซิตี้ได้กดดันอีก คราวนี้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้หวดด้วยซ้ายข้างถนัดหน้ากรอบแต่บอลยังเบาพุ่งเลียดไม่ผ่านมือแคชเปอร์ ชไมเคิ่ลที่พุ่งรับไว้ได้

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเสมอกับ เลสเตอร์ 0-0

ครึ่งหลัง เปิดฉากมา "ซิตี้" โหมบุกกดดันอย่างหนักทันที นาที 51 น่าจะได้ลุ้นขึ้นนำจากจังหวะที่ ไคล์ วอร์คเกอร์ เปิดบอลพุ่งมาเสาสองให้ ซิลบา เทกตัวโขกชงเข้ากลางให้ สเตอร์ลิง ที่ยืนเดี่ยวๆแต่โขกบอลไม่ดีเหินคานออกไป

ถัดมาอีกสองนาที แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้ซัดด้วยซ้ายในกรอบแต่บอลก็พุ่งหลุดกรอบออกไป ต่อมานาที 54 ราฮีม สเตอร์ลิง เลี้ยงตัดเข้าหน้าหัวกระโหลกแต่จังหวะยิงบอลบดหลุดเสาออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

นาที 56 เป๊ป แก้เกมด้วยการเปลี่ยนตัวคนแรก ถอดเอา ฟิล โฟเด้น ออกแล้วใส่ตัวรุกอย่าง ลีรอย ซาเน่ เข้าไป จากนั้นอีกสองนาทีต่อมา กุนโดกัน ได้วิ่งมาอัดด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งถากเสาออกไปแบบสุดเสียว

นาที 62 เลสเตอร์ ซิตี้ นานๆจะได้โต้ขึ้นมา คราวนี้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เซ็นเตอร์แบ็กจิ้งจอกพาบอลขึ้นมาเองทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนผ่านเข้ากลางให้ เจมส์ แมดดิสัน ที่ยืนโล่งๆกระชากเข้าไปก่อนปั่นด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือ เอแดร์ซอน ถากเสาสองออกไป

นาที 67 พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างจัง อิลคาย กุนโดกัน ผ่านบอลให้ กุน อเกวโร่ หลุดเข้าไปยิงผ่านตัวแม็คไกวร์ไปแล้วแต่ยังไม่โดน แคชเปอร์ ชไมเคิ่ล เซฟด้วยมือเดี่ยวอย่างเหลือเชื่อ

แต่ยังบดมานาน สุดท้าย นาที 70 แฟนบอลเรือใบสีฟ้าได้เฮกันลั่นเอติฮัด สเตเดี้ยม หลัง แว็งซ็องต์ ก็องปานี ได้บอลนอกกรอบก่อนจะพาบอลขึ้นมาซัดด้วยขวากว่า 25 หลา บอลพุ่งเป็นจรวดติดไซด์ก้อยหนีมือชไมเคิ่ลเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม ให้ แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูแรกของกอมปานีในซีซั่นนี้อีกด้วย

ท้ายเกม นาที 87 เลสเตอร์ เกือบทำช็อกไล่ตีเจ๊าเจ้าถิ่นได้เมื่อ ฮัมซ่า ชูดูรี่ ชิงบอลแย่งจากเจ้าถิ่นได้ก่อนแทงบอลทะลุถึง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ที่วิ่งมายิงโล่งๆแต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เก็บสามแต้มล้ำค่าพร้อมแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นนำจ่าฝูง มี 95 คะแนนมากกว่า "หงส์แดง" แค่คะแนนเดียว โดยนัดสุดท้ายจะเตะพร้อมกันหมด 10 คู่ ในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม นี้

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) :
เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - อิลคาย กุนโดกัน, ดาบิด ซิลบา, ฟิล โฟเด้น - แบร์นาโด้ ซิลวา, เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่, ราฮีม สเตอร์ลิง

สำรอง : อริยาเน็ต มูริช, ดานิโล่, จอห์น สโตนส์, ลีรอย ซาเน่, ริยาด มาห์เรซ, นิโคลัส โอตาเมนดี้, กาเบรียล เชซุส

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

เลสเตอร์ (4-1-4-1) : แคชเปอร์ ชไมเคิ่ล - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่ อีแวนส์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, เบน ชิลเวลล์ - วิลฟรีด เอ็นดิดี้ - มาร์ค อัลไบรท์ตัน ,ยูริ ตีเลม็องส์, ฮัมซ่า ชูดูรี่, เจมส์ แมดดิสัน - เจมี่ วาร์ดี้

สำรอง : แดนนี่ วอร์ด, เวส มอร์แกน, คริสเตียน ฟุคส์, น็อมปาลิย์ส เมนดี้, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, เดมาไร เกรย์, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่

ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.