|
27
เม.ย. ซาลาห์ควงมาเน่เบิ้ล-เกอิต้ากด15วิ! ลิเวอร์พูลทวงฝูงคืนถล่มฮัดเดอร์สฟิลด์ยับ
"หงส์แดง" ทะยานขึ้นนำจ่าฝูงอีกครั้ง หลังไล่ถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทีมบ๊วยที่ตกชั้นไปแล้วแบบขาดลอย 5-0 นาบี้ เกอิต้า หวดเบิกร่องแค่ 15 วินาทีแรกทำสถิติยิงเร็วสุดในลีกของสโมสร ก่อนที่ซาดิโอ มาเน่และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะพังคนละสองประตู ทว่าดาวยิงเลือดอียิปต์ทะยานขึ้นนำดาวซัลโวที่ 21 ประตู ให้ทีมคว้าชัยแซงเรือใบสองแต้มรั้งจ่าฝูงมี 91 คะแนน ทว่าทัพหงส์แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา สนาม : แอนฟิลด์ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง เกมนี้หากชนะฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ได้จะแซง "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นไปนั่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง โดยเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของลิเวอร์พูล ไร้ชื่อ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่มีอาการเจ็บทำให้ต้องพักเพื่อฟิตให้ทันเกมบุกไปเยือน บาร์เซโลน่า ในวันพุธที่ 1 พฤษภาคม นี้ ทำให้เกมนี้ต้องส่ง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงเป็นหน้าเป้า ประสานงานกับซาดิโอ มาเน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทั้งข่าวดียังได้ อเล็กซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่บาดเจ็บไปนานปีกว่ากลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองเป็นเกมแรก ส่วนทางด้าน ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทีมเยือนแม้จะตกชั้นไปแล้วแต่ยังบุกมาเล่นเต็มที่ ทิ้ง สตีฟ มูนี่ เป็นหน้าเป้า และปล่อยให้ จูนินโญ่ บาคูน่า ปั้นเกมตรงกลางร่วมกับ อิซัค เอ็มเบนซ่า และคาร์ลาน แกรนท์ และเพียงแค่ 15 วินาทีแรก ลิเวอร์พูล ทะยานขึ้นไปนำก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ นาบี เกอิต้า วิ่งเข้าไปบล็อคลูกเปิดของ ยอน สแตนโควิช บอลมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนป้ายเร็วให้ เกอิต้า หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาผ่าน โยนาส ลอสเซิ่ลนายด่านทีมเยือนเช็ดโคนเสาเข้าไป เป็นประตูที่เร็วที่สุดในลีกของหงส์แดง ถัดมาไม่ถึงสองนาที จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผ่านบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ซัดไกลนอกกรอบบอลพุ่งแรงจน ลอสเซิ่ล ต้องทุบบอลออกมา ไม่ถึงนาทีต่อมา ยอน สแตนโควิช มีลุ้นแก้ตัวหลังกดด้วยขวาเสาแรกบอลไปติด ลอฟเรน บล็อคบอลออกหลังหวุดหวิด นาที 15 บอลสวนกลับเร็วของลิเวอร์พูล โม ซาลาห์ กระชากบอลมาเองก่อนจะจิ้มบอลด้วยเท้าขวาบอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายแบบได้เสียวเหมือนกัน อีกสองนาทีต่อมาได้ลูกเตะมุม เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดเตะมุมจากฝั่งซ้ายมาให้ เฟอร์กิลฟาน ไดค์ หนีตัวประกบก่อนโขกเฉียดคานไปนิดเดียว นาที 23 แฟนๆเดอะ ค็อป ในแอนฟิลด์ได้เฮกันลั่นเลย เมื่อเจ้าบ้านมานำห่างเป็น 2-0 ฟาน ไดค์ ตัดบอลได้จากกลางสนามก่อนพาบอลแล้วป้ายออกซ้ายให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสบอลอย่างแม่นยำให้ ซาดิโอ มาเน่ ที่ยืนไร้ตัวประกบเทคตัวโขกบอลลงพื้นตุงตาข่ายอย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีก ท้ายเกม นาที 43 ทัพหงส์ชวดได้ประตูที่สามแบบน่าเสียดาย เฮนเดอร์สัน พาบอลขึ้นมาก่อนจ่ายออกซ้ายให้ มาเน่ ก่อนจังหวะต่อมาจะจ่ายเร็วให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสบอลเร็วไปหน้าประตู โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมาหวดแต่บอลไปโดนแนวรับทีมเยือนสกัดมาเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งมาหวดด้วยซ้ายเต็มข้อบอลเหินคานออกไป กระนั้นช่วงทดเวลาเจ็บ นาที 45+1 เร้ด แมชีน พังตาข่ายเม็ดที่สามจนได้ จากจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตักบอลข้ามแนวรับฮัดเดอร์สฟิลด์ ให้ โม ซาลาห์ สปีดควบเข้าไปแล้วยกบอลข้ามตัว โยนาส ลอสเซิ่ล ส่งบอลข้ามเส้นเป็นประตูอย่างเหนือชั้น เป็นประตูที่ 20 ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ขึ้นรั้งดาวซัลโวเดี่ยวๆ และฉลองการลงสนามให้ "หงส์แดง" เกมที่ 100 ทุกรายการ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ได้ประตูนำห่าง ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 3-0 กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง แค่นาที 48 เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สี่เลย บอลวางยาวจากกลางสนาม ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หลุดเข้าไปจะซัดบอลอยุ่แล้วแต่กลายเป็น ซาดิโอ มาเน่ ที่วิ่งมาแย่งซีนซัดด้วยขวาบอลเหินคานไป อีกสองนาทีต่อมา เฮนเดอร์สัน ทำเสียบอลก่อนโดนแทงบอลทะลุให้ คาร์ลาน แกรนท์ หลุดเข้าไปกำลังจะง้างเท้ายิงอยู่แล้วแต่ นาบี เกอิต้า ยังวิ่งเคลียร์บอลออกไปก่อนชนิดหวุดหวิด นาที 54 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ครอสบอลเร็วไปหน้าประตูให้ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ พุ่งมาชาร์จบอลเสียบเสาสอง แต่ไลน์แมนยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าทำให้ "หงส์แดง" ชวดประตูที่ 4 นาทีเดียวถัดมา ฮัดเดอร์สฟิลด์ ได้เสียวบ้าง จูนินโญ่ บาคูน่า หวดด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งตรงกรอบแต่ อลีสซง ยังเซฟช่วยทีมได้ นาที 62 ซาลาห์ เรียกเสียงฮือฮาได้อีก รับบอลจาก โรเบิร์ตสัน ก่อนกระดกหลบ เทอร์เรนซ์ คองโกโล่ อย่างเหนือชั้นแล้ววอลเลย์เต็มแรงด้วยซ้ายบอลพุ่งถากเสาแรกออกไป จนแล้วจนรอด นาที 66 ลิเวอร์พูล นำโด่งเป็น 4-0 จนได้ บอลเปิดเร็วของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทางด้านขวาบอลลอยโด่งมาเข้าหัว ซาดิโอ มาเน่ โขกย้อนไปเสาไกลหมดสิทธ์ที่ โยนาส ลอสเซิ่ล เป็นประตูที่สองในเกมนี้มีลุ้นแฮตทริก และประตูที่20 เท่ากับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รั้งดาวซัลโวร่วม นาที 73 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนรวดเดียวสองคนส่ง เซอร์ดาน ชากิรี่ ลงมาเล่น จอร์จินโย่ ไวนัลดุม และถอดเอา ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ออกแล้วส่ง อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน ลงสนามเป็นเกมแรกในรอบ 1 ปี กับอีก 2 วัน หลังเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บหนักจากเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับโรม่า รอบรองชนะเลิศเมื่อ 24 เมษายนปีที่แล้ว นาที 78 ซาดิโอ มาเน่ พลาดโอกาสทำแฮตทริกอย่างน่าเสียดาย หลังถอยหลังโขกบอลจ่อๆ หน้ากรอบแต่บอลดันไปชนเสาแบบน่าเจ็บใจ นาที 83 หงส์แดง มาได้ประตูที่ 5 จนได้ และเป็นเซอร์ดาน ชากิรี่ ที่แทงบอลทะลุให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ปาดเข้ามาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้าชาร์จเผาขนให้ ลิเวอร์พูล นำโด่ง 5-0 และเป็นประตูที่สองในเกมนี้พร้อมนำดาวซัลโวแซงมาเน่เป็น 21 ประตู ขณะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฟอร์มฮอตเหลือเกินแอสซิสต์ในซีซั่นนี้ไปแล้ว 11 เม็ด จบเกม ลิเวอร์พูล ไล่ถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ ขาดลอย 5-0 พร้อมทวงจ่าฝุงคืนจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชั่วคราวหลังแข่งมากกว่าหนึ่งนัดมี 91 คะแนนมากกว่า "เรือใบ" สองแต้ม รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (โจ โกเมซ น.88), เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์จินโย่ ไวนัลดุม (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.73), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน น.73), ซาดิโอ มาเน่ ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์ ฮัดเดอร์สฟิลด์ (4-1-4-1) : โยนาส ลอสเซิ่ล - ทอม สมิธ, คริสโตฟ ชินด์เลอร์, เทอร์เรนซ์ คองโกโล่, เอริก ดวร์ม - ยอน สแตนโควิช (อเล็กซ์ พริทชาร์ด น.81) - อิซัค เอ็มเบนซ่า (เอลิอาส คาชุนก้า น.87, จูนินโญ่ บาคูน่า, โจนาธาน ฮ็อกก์, คาร์ลาน แกรนท์ - สตีฟ มูนี่ (คริส เลอเว่ น.65) ผู้จัดการทีม : แยน ซีแวร์ต ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์ |
|