|
24
เม.ย. วิเคราะห์ 5 ประเด็นก่อนเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์
![]() ศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ มีความสำคัญมากๆ ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะหาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปราบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้นั่นหมายความว่าจะเพิ่มโอกาสให้ ลิเวอร์พูล ได้คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกในรอบ 29 ปีเลยทีเดียว แต่หากผลตรงกันข้าม "เรือใบสีฟ้า" ก็แทบจะแบเบอร์ป้องกันแชมป์ลีกได้สำเร็จ "ปีศาจแดง" อยู่ในช่วงขาลงแบบฮวบฮาบนับตั้งแต่ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ได้รับสัญญาถาวร แม้ว่าแฟนบอล "เร้ด อาร์มี่" ยังคงให้ความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัว "น้าลูกอม" แต่สำหรับนักเตะชุดนี้สาวก "ผีแดง" ต่างส่ายหัว และแทบรับไม่ได้กับการเล่นที่ขาดความกระตือรือร้น สำหรับเกมที่ "โรงละครแห่งความฝัน" นอกจากจะมีส่วนเกี่ยวพันกับการลุ้นแชมป์ลีกเมืองผู้ดีแล้ว ยังมีส่วนต่อการเรียกศรัทธาของแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด และโอกาสในการติดท็อปโฟร์ของ "เร้ด เดวิลส์" ฉะนั้นนี่จึงเป็นเกมที่มีความหมายกับทั้งสองทีม กระนั้นคงไม่ต้องแปลกใจหากสาวก "เดอะ ค็อป" รวมไปถึงนักเตะลิเวอร์พูล จะส่งกำลังใจเชียร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ในแมตช์นี้ !!! 1. โซลชา จะนำ แมนฯ ยูฯ กลับมาได้ไหม ? มีหลายสิ่งที่ไปได้สวยตอนที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามารับตำแหน่งแทน โชเซ่ มูรินโญ่ เมื่อกลางเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา โดยพวกเขากลับมามีลุ้นอันดับท็อปโฟร์เคียงข้าง "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล และ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์ "ปีศาจแดง" เกิดอาการสะดุด เพลาหัก สลักหาย เมื่อฟอร์มของทีมร่วมกราวรูดโดยแพ้เกมเยือน 5 แมตช์ติดต่อกัน ทำให้สถานการณ์ในการลุ้นโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต้องตึงเครียดอีกครั้ง ที่สำคัญพวกเขามีเกมหนักทั้งดวล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันพุธนี้ และ เชลซี วันอาทิตย์ ในเกมดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ หาก "เร้ด เดวิลส์" เก็บ 3 คะแนนได้ พวกเขาจะฟื้นคืนชีพลุ้นติดท็อปโฟร์ทันที ยิ่งไปกว่านั้นหาก โซลชา นำ แมนฯ ยูไนเต็ด คว่ำ "เรือใบสีฟ้า" ได้สำเร็จ จะทำให้ทีมมี 67 คะแนนเท่ากับ เชลซี (เสมอ เบิร์นลี่ย์) ทันที ฉะนั้นการเอาชนะทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีความหมายทั้งเรื่องคะแนน และขวัญกำลังใจของนักเตะ เพราะพวกเขามีคิวต้องรับมือ เชลซี ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สุดสัปดาห์นี้ด้วย ฉะนั้นฝันหลายที่จะติดท็อปโฟร์ยังมีอยู่ เพียงแต่ "ผีแดง" จะทำภารกิจสำคัญวันพุธนี้ได้หรือเปล่า !? 2. แมนฯ ซิตี้ จะกลับมาคุมสถานการณ์ลุ้นแชมป์ได้หรือเปล่า ? ต้องบอกเลยว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ สิบปี (หรือมากกว่านั้น) ที่จะเห็นสาวก "เดอะ ค็อป" ส่งใจเชียร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้คว้าชัยชนะในเกมกลางสัปดาห์นี้ เพราะนั่นหมายความว่า "เดอะ เร้ดส์" จะมีโอกาสปลดแอกคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ทำสำเร็จเมื่อปี 1990 อย่างไรก็ตาม "เรือใบสีฟ้า" ยังไม่เคยทำแต้มหลุดมือเลยในเกมพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่จบเดือนมกราคมตอนที่พวกเขาแพ้ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-2 ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค (วันที่ 30 ม.ค. 2019) ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้านทานความร้อนแรงของ "เพื่อนบ้านน่ารำคาญ" แมนฯ ซิตี้ คว้าชัยชนะเกมลีก 10 แมตช์รวดรวมไปถึงเกมที่พวกเขาปะทะกับทีมท็อปซิกซ์ทั้ง เชลซี, อาร์เซน่อล และสเปอร์ส แม้ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในเอติฮัด สเตเดี้ยม ก็ตาม กระนั้น "เดอะ ซิติเซนส์" มักจะทำผลงานได้ดีเยี่ยมในการเล่นเกมเยือนกับทีมท็อปซิกซ์ในฤดูกาลนี้ พวกเขาหักด่าน "ปืนใหญ่" และ "ไก่เดือยทอง" ขณะเดียวกันก็เสมอ ลิเวอร์พูล ซึ่งเกมนั้น ริยาด มาห์เรซ ยิงจุดโทษพลาดในนาทีสุดท้าย และแพ้แค่ เชลซี เท่านั้น ขณะเดียวกัน แมนฯ ซิตี้ เอาชนะในศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ ครั้งล่าสุดที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยสกอร์ 2-1 เมื่อเดือนธันวาคม 2017 ก่อนจะกรุยทางไปสู่การคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ฉะนั้นหาก เป๊ป นำทีมคว้า 3 คะแนนได้ โอกาสที่พวกเขาจะคว้าแชมป์เริ่มสดใสทันที เพราะการดวลเกมที่เหลือกับ เบิร์นลี่ย์, เลสเตอร์ ซิตี้ และ ไบรท์ตัน คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงแน่นอน 3. อเล็กซิส ซานเชซ ควรได้โอกาสเล่นตัวจริง ต้องยอมรับว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีปัญหาเยอะแยะมากมายในฤดูกาลนี้ ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดการทีมตอนที่ มูรินโญ่ กุมบังเหียน กับนักเตะสำคัญๆ หลายคนโดยเฉพาะ ปอล ป็อกบา ทำให้ทีมทำผลงานได้ย่ำแย่ จนสุดท้ายบอร์ดบริหารต้องตัดปัญหาด้วยการปลด "เฮียมู" สำหรับหนึ่งในปัญหาต่างๆ ที่ถาโถมเข้าใส่ "โรงละครแห่งความฝันก็คือเรื่องฟอร์มการเล่นของนักเตะหลายคนโดยเฉพาะ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ยังไม่สามารถงัดผลงานสุดยอดออกมาได้เลยนับตั้งแต่ที่ย้ายจาก อาร์เซน่อล มาสวมชุด "ปีศาจแดง" เมื่อเดือนมกราคมปี 2018 (ว่ากันว่าฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาก็คือตอนเล่นเปียโนเปิดตัว) ตอนนี้มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า อดีตสตาร์ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า พร้อมที่จะมองหาอนาคตใหม่ของเขาด้วยการเก็บเสื้อผ้าออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อย่างไรก็ตามจากปัญหาที่ถาโถมในเวลานี้ สื่อหลายสำนักกระตุ้น โซลชา กล้าให้โอกาส ซานเชซ ลงเล่นตัวจริง เหตุผลสำคัญที่สื่อเลือก กองหน้าทีมชาติชิลี ลงสนามตัวจริงเหนือ อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล กับ เจสซี่ ลินการ์ด เพราะนักเตะรายนี้มีศักยภาพที่อาจทำให้ แมนฯ ซิตี้ ต้องช็อกได้ 4. ดับเบิ้ล "Silva" สองกองกลางที่ชื่อสะกดเหมือนกันเป๊ะแต่อ่านต่างกัน ! ดาบิด ซิลบา จอมทัพชาวสแปนิช กับ เบร์นาร์โด้ ซิลวา กองกลางเลือดโปรตุเกส ทำผลงานได้เข้าขาสุดๆ ในช่วงเวลานี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ทีมไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ ทั้งคู่สามารถแบกทีมได้สบายๆ ไม่มีปัญหา เป๊ป เพิ่งจะออกมายืนยันด้วยปากตัวเองว่า เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม จะไม่ได้ลงช่วย "เรือใบสีฟ้า" ในเกมบุกไปเยือน "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันพุธที่ 24 เมษายนนี้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่า แน่นอนว่าเกมนี้ นายใหญ่ชาวสแปนิช น่าจะเลือกใช้ระบบการเล่นมิดฟิลด์ 3 ตัว ด้วยการจับ ซิลบา กับ ซิลวาเล่นร่วมกับ แฟร์นันดินโญ่ ที่จะทำหน้าที่คอยตัดเกมคู่แข่งแดนกลาง ส่วน ลีรอย ซาเน่ ขยับไปเล่นตัวรุกทางริมเส้น โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิง กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ ช่วยตะบันตาข่าย 5. ศรัทธาแห่ง "ปีศาจแดง" หลังจากที่แพ้ยับไม่นับญาติในเกมเยือน เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้บรรดานักเตะ "ผีแดง" เกิดวิกฤติรัทธาจากสาวก "เร้ด อาร์มี่" รวมไปถึงอดีตนักเตะของแมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนออกโรงจวกบรรดาแข้งลุ้นน้องที่เล่นเหมือนไม่ให้เกียรติสีเสื้ออันทรงคุณค่า และเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกาะอังกฤษ ช่วงที่ผ่านมา โซลชา ได้ออกโรงขอโทษแฟนบอลแมนฯ ยูฯ เกี่ยวกับฟอร์มที่ย่ำแย่ของทีมที่แพ้ไป 6 จาก 8 เกมหลังสุด และเจ้าตัวประกาศชัดเจนว่าในเกมดาร์บี้แมตช์รับมือ แมนฯ ซิตี้ ที่ "เธียเตอร์ออฟดรีม" พวกเขาจะขอกู้ศรัทธาด้วยการจัดเต็ม "เรือใบสีฟ้า" แม้ว่าชัยชนะในแมตช์นี้ อาจจะส่งให้ ลิเวอร์พูล คู่อริตลอดกาล ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกของพวกเขา จะว่าไปแล้วมีกระแสจากแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด บางราย คาดหวังที่จะเห็นทีมรักของตัวเองแพ้สโมสรร่วมเมือง และยินดีไม่มีปัญหาหากทีมพลาดอันดับท็อปโฟร์ อดไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า เพราะไม่อยากเห็น "หงส์แดง" โบกบินเป็นแชมป์ลีก หากเกิดกรณีนั้นขึ้นมาจริงๆ แฟนผีต้องทำใจเสียสตาร์อย่าง ดาบิด เด เคอา, ปอล ป็อกบา รวมไปถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด เพราะนักเตะเหล่านี้คงไม่อยู่กับทีมที่ไม่ได้เล่นถ้วยใบโตยุโรป อีกเรื่องก็คือเมื่อทีมจะทุ่มเงินซื้อแข้งใหม่ แล้วจะมีสตาร์ลูกหนังคนไหนอยากมาร่วมทัพกับสโมสรที่ได้เล่นแค่ถ้วยยูโรปา ลีก ..... |
|