|
19
เม.ย. 'เปโดร' เบิ้ลพาเชลซีย้ำแค้นสลาเวียปรากทะลุตัดเชือกยูโรปา
แม้ครึ่งหลัง เชลซี จะมีแผ่วปลายเสียถึงสองประตู แต่ครึ่งแรก สิงห์บลูส์ ตุนสกอร์ ไว้จากการยิงเบิ้ลของ เปโดร โรดริเกซ พร้อมทำอีกหนึ่งแอสซิสต์ ช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จในศึก ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง) เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา (รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง) วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน 2562 เชลซี (อังกฤษ) 4 - 3 สลาเวีย ปราก (เช็ก) (เชลซี ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 5-3) สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ เริ่มเกมมาได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น เชลซีขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะต่อบอลสุดสวยขึ้นเกมมาทางฝั่งขวา เปโดร โรดริเกซ ส่งบอลให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ตอกส้นกลับมาให้ เปโดร อีกครั้งก่อนเจ้าตัวจะจ่ายไปที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ยืนรอหน้ากรอบเขตโทษ และเป็น เปโดร ที่ทำชิ่งกับ ชิรูด์ อีกครั้งจนเจ้าตัวหลุดเข้าไปยิงสวนตัว ออนเดรจ์ โคลาร์ นายด่าน สลาเวีย ปราก แข้งทีมเยือนพยายามเตะเคลียร์บอลแต่ไม่พ้นเข้าประตูไป ดูเหมือนว่า สลาเวีย ปราก ยังตั้งตัวไม่ได้สี่นาทีถัดมาโดนเชลซีนำห่าง 2-0 โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ แทงบอลให้ เอแด็น อาซาร์ หลุดไปเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนจ่ายย้อนมาถึง เปโดร แปบอลไปโดนเสาอย่างจังแต่เทพีแห่งโชคกลับเข้าข้างบอลกระดอนไปโดนตัว ซิมง เดลี่ กองหลังทีมเยือนเข้าไปเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง นาทีที่ 16 ปราก ได้โต้กลับขึ้นมาบ้างและเป็น จาโรเมียร์ ซมาร์ฮาล์ ได้โอกาสกดด้วยขวาแต่นำหนักและทิศทางของบอลไม่ดีเลยออกเสาไกลไปไม่ได้ลุ้น นาทีถัดมากลับเป็นเชลซี นำห่าง 3-0 เปโดรหลุดขึ้นไปทางฝั่งขวาก่อนจ่ายบอลย้อนมาให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่จุดนัดพบวิ่งมาแปบอลด้วยเท่าขวาเข้าไปอย่างง่ายดาย นาทีที่ 25 ปราก ตีตื้นขึ้นมาเป็น 1-3 จากลูกเตะมุมที่โยนมาเข้าหัว โทมัส ซูเช็ค สะบัดโหม่งเต็มกระบาลเสียบมุมทำเอา เกปา อาร์รีซาบาลาก้า นายด่านเจ้าถิ่นได้แต่ยืนมองด้วยสายตา สองนาทีถัดมานาทีที่ 27 เชลซีนำห่างอีกครั้ง 4-1 จากจังหวะที่ เอแด็น อาซาร์ จ่ายบอลให้ เอเมอร์สัน ขึ้นมาเปิดบอลสุดริมเส้นฝั่งซ้ายเลยไปถึง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ตะวัดยิงไปติดตัว ออนเดรจ์ โคลาร์ ผู้รักษาประตูปรากแต่บอลกระดอนไปเข้าทาง เปโดร ที่เอี้ยวตัวยิงด้วยเท้าซ้ายเข้าไป นับเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย ดูเหมือนว่า เชลซี จะผ่อนเกมลงและพอใจกับสกอร์นี้ทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้จบครึ่งแรก เชลซี เปิดบ้านนำห่าง สลาเวีย ปราก ถึง 4-1 และเมื่อรวมผลสองนัด ณ เวลานี้ เชลซี นำขาด 5-1 มาลุ้นกันต่อในครึ่งเวลาหลังมาได้ 2 นาที ปราก ได้ลูกเตะมุมเป็น โทมัส ซูเช็ค ได้ขึ้นโหม่งแต่บอลทิศทางไม่ดีข้ามคานออกไป นาทีที่ 51 ปราก ไล่ขึ้นมาเป็น 2-4 จาก เพทร์ อีวิค ที่ตะบันไกลหน้ากรอบเกือบ 23 หลาบอลพุ่งมุดเสียบโคนเสาเข้าไป นาทีที่ 54 สลาเวีย ปราก ดูเหมือนจะได้จะไล่มาเป็น 3-4 จากลูกยิงสุดสวยของ เพทร์ อีวิค ที่กดเต็มข้อระยะประมาณ 20 หลามุมกรอบเขตโทษฝั่งขวาบอลพุ่งดุจจรวดเสียบคานบนเข้าไปหมดปัญญาที่ เกปา นายด่านเจ้าถิ่นจะบินป้องกันได้ ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมต่างเปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างสนุกและมีลุ้นบวกสกอร์หลายครั้งแต่ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้จบเกม เชลซี เปิดบ้านชนะ สลาเวีย ปราก 4-3 เมื่อรวมผลการแข่งขันทั้งสองนัดเป็น เชลซี ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ หรือ รอบ 4 ทีมสุดท้ายต่อไปด้วยผลสกอร์ 5-3 รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, เอเมอร์สัน - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, รอสส์ บาร์คลี่ย์ (จอร์จินโญ่ น.70) - เปโดร โรดริเกซ (คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย น.87), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, เอแด็น อาซาร์ (วิลเลี่ยน น.65) เทรนเนอร์ : เมาริซิโอ ซาร์รี่ สลาเวีย ปราก (4-2-3-1) : ออนเดรจ์ โคลาร์ - ออนเดรจ์ คูเดลา, มิชาแอล เอ็นกาเดอ-เอ็นกัดฌุย, ซิมง เดลี่, ยาน โบริล - โทมัส ซูเช็ค, อเล็กซ์ คราล - อิบราฮิม ตราโอเร่, เพทร์ อีวิค (มิโลเซฟ สต๊อท น.78), จาโรเมียร์ ซมาร์ฮาล์ (มิลาน สโคดา น.85) - ลูคัส มาโซปุสต์ (เปเตอร์ โอลายินก้า น.52) เทรนเนอร์ : ยินดริช เทอร์ปิซอฟสกี้ |
|