18
เม.ย.
3หอกหงส์ดาหน้ายิง-ฟานไดค์ก็มา! ลิเวอร์พูลบุกถล่มปอร์โต้ ลิ่วชนบาร์ซ่ารอบรองฯ


โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ เหมาคนละเม็ด ก่อนปิดท้ายที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ โขกจมตาข่ายพา "หงส์แดง" บุกถล่ม ปอร์โต้ 4-1 รวมผลสองนัดเข้ารอบรองชนะเลิศด้วยประตูรวม 6-1 เข้าไปพบกับ บาร์เซโลน่า ในรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : เอสตาดิโอ โด ดราเกา (ผลนัดแรก ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0)

ปอร์โต้ ไม่มีทางเหลือเกมนี้ต้องเน้นยิงประตูสถานเดียวเพื่อโอกาสไล่ตีเสมอหลังเกมแรกบุกไปพ่ายให้ "หงส์แดง" ที่แอนฟิลด์ 0-2 ทำให้เกมนี้ แซร์โจ้ คอนไซเซา ต้องปรับแท็คติค ส่ง ยาซีน บราฮีมี่ ลงล่าตาข่ายร่วมกับ มุสซ่า มาเรก้า และเฮซุส โกโรน่า ทั้งข่าวดีคือได้ เอคตอร์ เอร์เรร่า กัปตันทีมพ้นโทษแบนมาปั้นเกมตรงกลาง ส่วนแนวรับก็ยังได้ เปเป้ แนวรับวัยเก๋าช่วยบัญชาเกมรับ

ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ สถิติมาเยือนทีนี่ในช่วงหลังค่อนข้างดี เกมล่าสุดเมื่อปีที่แล้วบุกมาถล่มที่สนามแห่งนี้ถึง 5-0 แถมนัดแรกกุมความได้เปรียบมาก่อนหลังเอาชนะไปได้ 2-0 ทำให้ เกมนี้กุนซือชาวเยอรมันปรับเปลี่ยนผู้เล่นพัก โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รวมทั้งนาบี เกอิต้า ไว้ข้างสนามเพื่อรักษาสภาพร่างกายไว้สุ้ในลีก ลุ้นแชมป์กับ แมนฯซิตี้ ต่อไป

โดยเกมรุกสามแนวรุกแดนหน้าส่ง ดิว็อค โอริกี้ ยืนหน้าเป้าแทนโดยมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และซาดิโอ มาเน่ ขนาบข้าง ขณะที่แดนกลาง ฟาบินโญ่ ลงเชื่อมเกมร่วมกับ เจมส์ มิลเนอร์ และจอร์จินโย่ ไวนัลดุม ส่วนเกมรับได้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน พ้นโทษแบนมาประจำการยืนแบ็กซ้ายเหมือนเดิม

เปิดฉากแค่นาทีแรก เจ้าถิ่นเกือบได้ลุ้นก่อนเลยเมื่่อ เฮซุส โกโรน่า หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายแต่บอลเหินสูงข้ามคานออกไป

ถัดมานาที 4 กาซียาส เปิดบอลยาวมาถึง มุสซ่า มาเรก้า ได้หวดเข้ากรอบแต่บอลยังไม่ผ่าน อลีสซง จากนั้นอีกสามนาทีต่อมา ปอร์โต้ ได้เสียวหน้าปากประตูหงส์แดงอีก บอลจาก เปเป้ มาถึง มารเก้า อีกหนก่อนหมุนตัวหวดด้วยขวาแต่ดีที่ อลีสซง ยังล้มตัวรับบอลไว้ได้

เจ้าบ้านโหมบุกกระหน่ำเป็นชุด นาที 14 บอลจากด้านซ้าย อเล็กซ์ เตลเลส แบ็กซ้ายครอสบอลมาถึง มุสซ่า มาเรก้า ที่ยืนโล่งๆก่อนจะวอลเลย์ด้วยซ้ายไม่จับบอลพุ่งหลุดเสาแรกไปแบบได้เสียว

แต่กลายเป็นแฟนบอลเจ้าถิ่นที่ต้องเงียบกริบ หลังนาที 26 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดีดบอลไปให้ ซาดิโอ มาเน่ พุ่งเข้าชาร์จจิ้มบอลด้วยขวาสวนตัว กาซียาส เข้าประตูไป แม้ว่าผู้ช่วยผุ้ตัดสินจะยกธงล้ำหน้า แต่ ดานนี่ มัคเคลี่ เชิ้ตดำกลางสนามขอฟังทีมงาน VAR ก่อนจะกลับคำตัดสินให้ "หงส์แดง" ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 สกอร์รวมสองนัดตอนนี้ ลิเวอร์พูล นำโด่ง 3-0

กระนั้นเจ้าถิ่นก็ไม่ท้อ ยังดาหน้าบุกเหมือนเดิม นาที 29 หวิดได้ลูกตีเสมอเมื่อ เอแดร์ มิลิเตา ครอสบอลทางด้านขวามาให้ ยาซีน บราฮีมี่ วิ่งมากดด้วยขวาแต่บอลยังไม่พ้นตัว อลีสซง เซฟช่วยทีมไว้ได้

นาที 40 เจ้าถิ่นได้ส่องเข้ากรอบอีกหน คราวนี้ เฮซุส โกโรน่า ได้บอลทางขวาก่อนลากตัดเข้าในกรอบผ่าน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก่อนสับไก่ยิงด้วยซ้ายแต่บอลยังพุ่งเข้าซอง อลีสซง รับไว้ไม่มีปัญหา

ช่วงทดเจ็บนาที 45+3 "หงส์แดง" เกือบบวกเพิ่มอีกเม็ดหลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แหวกบอลเข้ามาแล้วครอสบอลมาเสาแรก เจมส์ มิลเนอร์ ตวัดด้วยขวาบอลเฉี่ยวเสาสองออกหลังไปหวุดหวิด

จบครึ่งแรก ปอร์โต้ ตามหลัง ลิเวอร์พูล 0-1 สกอร์รวมสองนัด "หงส์แดง" นำห่าง 3-0

ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวเป็นคนแรกถอดเอา โอตาวินโญ่ ออกแล้วส่ง ฟรานซิสโก้ ซัวอาเรส ลงเล่นแทน เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงไปเล่นแทน ดิว็อค โอริกี้

นาที 54 เอคตอร์ เอร์เรร่า ได้บอลขึ้นทางขวาก่อนเปิดบอลมาเข้าหัว ฟรานซิสโก้ ซัวอาเรส ตัวสำรองที่เพิ่งลงไปขึ้นโขกกดลงพื้นแต่บอลหลุดกรอบไปแบบไม่มีลุ้น อีกสี่นาทีต่อมา เอร์เรร่า ได้กดนอกกรอบเต็มแรงบอลพุ่งเสาแรกแต่ยังไปตรงตัว อลีสซง รับไว้ได้

แม้นานๆจะบุกมาที แต่นาที 65 ทำเอาแฟนเจ้าถิ่นเซ็งอีกรอบ เมื่อมาเสียประตูที่สองให้ "หงส์แดง" จากจังหวะสวนกลับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จ่ายบอลทะลุเซ็นเตอร์แบ็กให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้ามาดวลกับ กาซียาส ก่อนเลือกยิงเสาแรกเข้าไปง่ายๆ ให้ ลิเวอร์พูล บุกมานำ 2-0 สกอร์รวมตอนนี้ทัพ "เร้ด แมชีน" นำโด่ง 4-0

นาที 66 เจอร์เก้น คล็อปป ถอดเอา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ออกไปพักแล้วส่ง โจ โกเมซ ลงเล่นแทน

ทว่า นาที 68 ปอร์โต้ มาได้ลูกตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จนได้ จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย อเล็กซ์ เตลเลส เปิดบอลมากลางประตูให้ เอแดร์ มิลิเตา ขึ้นโขกบอลตุงตาข่ายไป รวมสองนัดไล่มา 1-4

นาที 71 "หงส์แดง" เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงไปเล่นแทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

และเพียงแค่สองนาทีที่อยู่ในสนาม เฮนเดอร์สัน ก็โชว์สกิลจ่ายบอลแทงตัดแนวรับปอร์โต้ให้ มาเน่ หลุดเข้าไปก่อนแตะบอลหลบ อีเกร์ กาซียาส แต่จังหวะสุดท้ายดันหลักไม่ดีล้มตัวยิงด้วยขวาหลุดกรอบออกไป

3หอกหงส์ดาหน้ายิง-ฟานไดค์ก็มา! ลิเวอร์พูลบุกถล่มปอร์โต้ ลิ่วชนบาร์ซ่ารอบรองฯ

กระทั่ง นาที 77 ลิเวอร์พูล ได้ประตูออกนำ 3-1 สมใจ และก็เป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมที่เปิดบอลทางขวาอย่างแม่นยำมาเข้าหัว โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โขกบอลกดพื้นสวนตัว กาซียาส เข้าไปเป็นประตูที่ 4 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่ากับ ซาดิโอ มาเน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ และทำให้สกอร์สองนัดนำโด่งเป็น 5-1

นาที 84 "เร้ด แมชีน" มานำโด่งเป็น 4-1 บอลจากมุมธงด้านซ้าย เจมส์ มิลเนอร์ เปิดเตะมุมมาเสาแรกให้ มาเน่ โขกเช็ดบอลไปกลางประตูให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เกร็งหัวโขกเข้าไปง่ายๆ

จบเกม ลิเวอร์พูล บุกขนะ ปอร์โต้ 4-1 รวมผลสองนัดเข้ารอบตัดเชือกด้วยประตูรวม 6-1 เข้าไปพบกับ บาร์เซโลน่า ในรอบรองชนะเลิศ สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เอฟซี ปอร์โต้ (4-3-3) : อีเกร์ กาซียาส - เอแดร์ มิลิเตา, เปเป้, เฟลิเป้, อเล็กซ์ เตลเลส - โอตาวินโญ่, ดานิโล่ เปเรยร่า, เอคตอร์ เอร์เรร่า - เฮซุส โกโรน่า, มุสซ่า มาเรก้า, ยาซีน บราฮีมี่

สำรอง: วานญ่า, แฟร์นานเดา, บรูโน่ คอสต้า, อันเดร เปเรยร่า, แม็กซี่ เปเรยร่า, ฟรานซิสโก้ ซัวอาเรส, โอลิเบร์ ตอร์เรส

เทรนเนอร์ : แซร์โจ้ คอนไซเซา

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิว็อค โอริกี้ (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.46), ซาดิโอ มาเน่

สำรอง: ซิมง มิโญเลต์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โจ โกเมซ, เซอร์ดาน ชากิรี่, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

ผู้ตัดสิน : ดานนี่ มัคเคลี่ (ฮอลแลนด์)

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.