|
6
เม.ย. ซูเปอร์ซับเฮนโด้-ซาลาห์ยิงประตูที่50! ลิเวอร์พูลบี้เซาธ์ฯท้ายเกม แซงเรือคืนจ่าฝูง
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมกลายเป็นซูเปอร์ซับหลังลงมาสำรองโขกต่อให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โซโล่เดี่ยวเข้าไปซัดประตูแรกในรอบ 9 เกม และประตูที่ 50 ในพรีเมียร์ลีก ก่อนที่ห้องเครื่องทีมชาติอังกฤษจะมาซัดปิดกล่องให้ ลิเวอร์พูล บุกไปคว้าชัยเหนือเซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 พร้อมพาทีมหยิบสามแต้มมี 82 คะแนน แซงแมนฯซิตี้2แต้มขึ้นนำเป็นจ่าฝูง ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา สนาม : เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล กุนซือ "นักบุญ" พาทีมคว้าชัยมา 2 เกมติด แมตช์นี้กลับมาเฝ้ารังเปิด เซนต์ แมรี่ส์ รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมฟอร์มร้อนที่คว้าชัย 4 เกมติดทุกรายการ และเกมนี้หากบุกมาเก็บสามแต้มได้จะแซง "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ นำจ่าฝูงทันที โดยทางฝั่ง เซาธ์แฮมป์ตัน เกมนี้เน้นมารัดกุมจัดเซ็นเตอร์แบ็กสามราย เกมรุกสามตัวจัด เชน ลอง, เนธาน เร้ดมอนด์ และ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนสองตำแหน่งจากเกมที่เฉือนสเปอร์ส พัก เจมส์ มิลเนอร์ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นสำรองแล้วส่ง นาบี เกอิต้า และ ฟาบินโญ่ ปั้นเกมตรงกลางร่วมกับ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ส่วนสามประสานยังเหมือนเดิม โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และซาดิโอ มาเน่ เจ้าถิ่นเริ่มได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงแค่ นาทีที่ 9 มาชิงขึ้นนำ "หงส์แดง" ไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ไรอัน เบอร์ทรานด์ เปิดบอลทางด้านซ้ายไปให้ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก โขกบอลเสยไปถึง เชน ลอง ที่ยืนโล่งๆ แปด้วยขวาสวนตัว อลีสซง เสียบมุมซ้ายของประตูเข้าไป นาที 15 เป็นโอกาสได้ลุ้นของฝั่ง "หงส์แดง" บ้าง โม ซาลาห์ ที่จังหวะแรกยิงไม่ได้ม้วนตัวก่อนเปิดด้วยซ้ายมากลางประตูให้ ซาดิโอ มาเน่ เทกตัวโขกลงพื้นแต่บอลไม่ห่าง แอนกุส กันน์ เซฟออกไปแม้ นาบี เกอิต้า จะตามซ้ำด้วยซ้ายแต่บอลไปเข้าข้างตาข่าย นาที 19 เกมรับของลิเวอร์พูล เล่นกันพลาดเมื่อ อลีสซง เล่นสั้นหน้าประตูตัวเองให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลไปติด เนธาน เร้ดมอนด์ ก่อนบอลจะมาถึง ไรอัน เบอร์ทรานด์ ครอสสเลียดเข้าไปถึง เชน ลอง ยิงไม่ดีบอลพุ่งผ่านหน้าประตู แต่ดีที่ ฟาน ไดค์ ตามมาเคลียร์บอลทิ้งไปได้ กระทั้ง นาที 36 "หงส์แดง" มาตามตีเสมอ 1-1 จนได้ บอลต่อเนื่องจากจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสสให้ โม ซาลาห์ โขกไม่โดนเลยมาเข้าเท้า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดด้วยขวามาเสาไกลให้ นาบี เกอิต้า โถมขึ้นโขกสุดแรงบอลพุ่งลงเส้นแม้ แอนกุส กันน์ จะพุ่งปัดได้แต่บอลไปชนเสาเข้าประตูไป ก่อนหมดเวลาแค่นาทีเดียว ทีมเยือนได้เสียวอีก จากจังหวะที่ เทรนท์ อาร์โนลด์ ทุ่มบอลให้ ซาลาห์ ไขว้บอลลงให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ซัดด้วยขวาบอลติดไซด์ออกหลังประตูไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรก เซาธ์แฮมป์ตัน เสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1 ครึ่งหลัง แข้งนักบุญเปิดเกมรุกเข้าใส่ นาที 53 จากความผิดพลาดของทัพหงส์ โดน แยน วาเลรี่ ตัดบอลได้ก่อนไหลเร็วให้ เชน ลอง ซัดไกลนอกกรอบบอลเหินข้ามคานไป นาที 57 แฟนนักบุญเกือบใจเสีย เมื่อ นาบี เกอิต้า พาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนโดน มายะ โยชิดะ พุ่งสไลด์มาขวาง ผู้ตัดสินพอล เทียร์นี่ย์ไม่ว่าอะไร อีกสองนาทีต่อมา เจอร์เก้น คล็อปป์ แก้เกมเปลี่ยนรวดเดียวสองคนถอดเอา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และจอร์จินโย่ ไวนัลดุม ออกแล้วส่ง เจมส์ มิลเนอร์ กับจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงเล่นแทน นาที 62 ทัพหงส์เดินหน้าลุยเต็มสูบ บอลขึ้นทาง มาเน่ กระชากบอลถึงเส้นหลังทางซ้ายก่อนตบเข้ากลางให้ ฟีร์มีโน่ วิ่งมายิงไม่ดีหลุดกรอบออกไป ทีมเยือนพยายามอย่างหนัก ไล่บี้โหมบุกเข้าเจ้าถิ่น แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆเกินๆ นาที 77 เจมส์ มิลเนอร์ ตักบอลมาเสาสองให้ ฟีร์มีโน่ ขึ้นโขกแต่บอลเสียจังหวะหลุดออกหลังไป กลายเป็น "หงส์แดง" มาเฮในช่วง 10 นาทีสุดท้าย จากจังหวะโต้กลับหน้าปากประตูตัวเอง เฮนเดอร์สัน โขกต่อให้ โม ซาลาห์ ใช้ความเร็วควบบอลจากแดนตัวเองขึ้นไปก่อนจะตัดสินใจซัดด้วยซ้ายข้างถนัดบอลพุ่งเสียบมุมขวามือประตูเข้าไป ให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 2-1 ซึ่งเป็นประตูแรกในรอบ 9 เกมทุกรายการ อีกทั้งยังเป็นประตูที่ 50 ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เท่านั้นไม่พอ นาที 86 "หงส์แดง" มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะสวนกลับบอลขึ้นทาง ฟีร์มีโน่ ก่อนที่ดาวยิงบราซิเลี่ยนจะปาดบอลไปในกรอบโล่งๆให้ เฮนเดอร์สัน วิ่งมายิงเข้าไปง่ายๆ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาคว้าชัยเหนือ เซาธ์แฮมป์ตัน แบบสนุก 3-1 เก็บสามแต้มพร้อมแซง แมนฯซิตี้ ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง มี 82 คะแนนมากกว่า "เรือใบ" สองแต้ม รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม เซาธ์แฮมป์ตัน (3-4-3) : แอนกุส กันน์ - แยน เบดนาเร็ค, มายะ โยชิดะ, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด - แยน วาเลรี่, โอริโอล โรเมว, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - เจมส์ วอร์ด-เพราส์, เชน ลอง, เนธาน เร้ดมอนด์ สำรอง: อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ย์, แมตต์ ทาร์เก็ตต์, แจ็ค สตีเฟ่นส์, โจชัว ซิมส์, ชาร์ลี ออสติน, แซม กัลลาเกอร์, สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ผู้จัดการทีม : ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์ สำรอง: ซิมง มิโญเลต์, เดยัน ลอฟเรน, ดิว็อค โอริกี้, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อัลแบร์โต้ โมเรโน่, เซอร์ดาน ชากิรี่, ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์ |
|