23
มี.ค.
สเตอร์ลิงโคตรโหดทำแฮตทริก! อังกฤษประเดิมหรูถล่มเช็กขาดลอย



"สิงโตคำราม" ประเดิมคัดเลือก ยูโร 2020 ได้อย่างสวยหรูหลังเปิด เวมบลี่ย์ ไล่ถล่ม เช็ก ไปแบบขาดลอย 5-0 เกมนี้ ราฮีม สเตอร์ลิง โชว์ฟอร์มพระเอกตะบันแฮตทริก แถมทำให้ทีมได้จุดโทษก่อนคว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ และสามแต้มของทรีไลออนส์ นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เอ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน

ศึกฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ อังกฤษ ลงสนามนัดแรกรับการมาเยือนของทีมชาติเช็ก

แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ เจอปัญหาแนวรุกหลัง มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นรายล่าสุดที่ถอนตัวออกไป ตาม ฟาเบียน เดลฟ์, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, จอห์น สโตนส์, ลุค ชอว์ และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ การจัดทัพรับมือ เช็ก วันนี้ส่ง เจดอน ซานโช่ ประสานงานร่วมกับ แฮร์รี่ เคน และราฮีม สเตอร์ลิง

ส่วนทางฝั่งของ สาธารณรัฐเช็ก ฝากความหวังไว้ที่ พาทริค ชิค หัวหอกจากโรม่าเป็นทีเด็ดล่าตาข่าย ร่วมด้วย ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่ ที่ปรับมาเล่นเป็นปีกทำเกมร่วมกับ วลาดิเมียร์ ดาริด้า และยาคุบ ยังค์โต้

ครึ่งแรกเริ่มเกมมาได้แค่ 13 นาที ทัพสิงโตคำรามต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนแรก หลัง เอริค ดายเออร์ มีอาการเจ็บทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องเปลี่ยนเอา รอสส์ บาร์คลี่ย์ ลงไปเล่นแทน

เกมผ่านไป 20 นาที แม้ว่า อังกฤษ จะเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า แต่โอกาสยิงแทบจะยังไม่มีให้เห็น

ทว่า นาที 23 โอกาสยิงหนแรกของเกม และเป็นทัพทรีไลออนส์ที่ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากการประสานงานของสามหัวหอกของอังกฤษ เริ่มจาก เคน แทงบอลทะลุแนวรับวิสกี้ถึง เจดอน ซานโช่ ที่ควบมาปาดไปหน้าปากประตูให้ ราฮีม สเตอร์ลิง พุ่งสไลด์จิ้มด้วยหัวเกือกส่งบอลซุกก้นตาข่าย

ท้ายครึ่งแรก นาที 44 เคน ได้โอกาสลองหวดหนแรกของเกม แต่บอลยังไปแฉลบแนวรับของเช็กออกหลังไป

ทว่าในช่วงทดเวลาเจ็บ 45+1 "สิงโตคำราม" มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง ราฮีม สเตอร์ลิง พาบอลเลี้ยงแหวกแนวรับเช็กเข้าไปในกรอบก่อนจะโดน พาเวล คาเดราเบ็ค ทำฟาลว์ ผู้ตัดสินที่อยู่ใกล้ๆที่เกิดเหตุชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น แฮร์รี่ เคน ซัดด้วยขวาบอลพุ่งเสียบมุมซ้ายอย่างเด็ดขาด ก่อนจะจบครึ่งแรกเป็นฝั่งทีมชาติ อังกฤษ ที่หนีห่าง เช็ก 2-0

ครึ่งหลัง เช็ก แก้เกมมาดีและเกือบจะตีเสมอได้สำเร็จ ในนาที 51 บอลเปิดจากด้านข้างมาเสาแรกให้ โทมัส ซูเช็ก สะบัดโขกเสาแรกบอลพุ่งถากเสาแรกออกไปแบบน่าเสียดาย

นาที 59 แฮร์รี่ เคน หลุดกับดักล้ำหน้าไปถึงเส้นหลังก่อนตบเข้ากลางให้ เจดอน ซานโช่ ยิงแค่ 6 หลาแต่บอลไปติด โทมัส คาลาส

กระนั้นอีกสามนาทีถัดมา อังกฤษ หนีเป็น 3-0 จนได้ บอลขึ้นจากแดนกลาง ไคล์ วอล์คเกอร์ แทงบอลขึ้นหน้า แต่แนวรับของเช็กสกัดบอลกันไม่ดีไปติดพวกเดียวกันเอง ก่อนบอลจะหลุดไปถึง สเตอร์ลิง ในกรอบเขตโทษบังบอลก่อนหมุนตัวเทิร์นแล้วยิงด้วยซ้ายบอลโค้งเสียบมุมเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูที่สองของปีกเรือใบในเกมนี้

นาที 63 เซาธ์เกต เปลี่ยนตัวคนที่สองถอดเอา เดเล่ อัลลี่ ออกมาพักแล้วส่ง ดีแคลน ไรซ์ ลงไปเล่นแทนซึ่งเป็นการประเดิมสนามเกมแรกของห้องเครื่องจากเวสต์แฮม

นาที 68 "สิงโตคำราม" ทะยานนำโด่งเป็น 4-0 และเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง ที่โชว์ความร้อนแรงด้วยการปั่นบอลด้วยขวานอกกรอบบอลไปแฉลบ ออนเดรย์ เซลุสต์ก้า เปลี่ยนทางเข้ากลางประตูไป ทว่าเป็นเครดิตของอดีตแข้งหงส์แดง และเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย และเป็นแอ็คชั่นสุดท้ายก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออก แล้วส่ง คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ที่ประเดิมเกมแรกลงเล่นแทน

นาที 75 ทัพผู้ดีเกือบไปลูกที่ห้าหนีห่าง หลัง แฮร์รี่ เคน สับไกบนเส้น 18 หลาบอลพุ่งแรงแต่ดีที่ยังไม่ห่างตัว พาฟเลนก้า นายด่านของเช็กที่ทุบออกไปได้

ท้ายเกม นาที 85 แนวรับของเช็กมาพลาดเสียประตูที่ห้าจนได้ จากจังหวะที่ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย พาบอลเข้ามายิงก่อนจะโดน ยิรี่ พาฟเลนก้า พุ่งเซฟทว่าเจ้ากรรมบอลไปโดน โทมัส คาลาส กระดอนเข้าประตูตัวเองไป ให้ "สิงโตคำราม" นำโด่ง 5-0

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกมทีมชาติ อังกฤษ เปิดรังไล่ถล่ม สาธารณรัฐเช็ก ไปขาดลอย 5-0 คว้าสามแต้มนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เอ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

อังกฤษ (4-3-3) :
จอร์แดน พิคฟอร์ด - ไคล์ วอล์คเกอร์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ไมเคิ่ล คีน, เบน ชิลเวลล์ - เดเล่ อัลลี่ (ดีแคลน ไรซ์ น.63), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอริค ดายเออร์ (รอสส์ บาร์คลี่ย์ น.13) - เจดอน ซานโช่, แฮร์รี่ เคน (กัปตันทีม), ราฮีม สเตอร์ลิง (คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย น.70)

สาธารณรัฐเช็ก (4-2-3-1) : ยิรี่ พาฟเลนก้า - พาเวล คาเดราเบ็ค, ออนเดรย์ เซลุสต์ก้า, โทมัส คาลาส, ฟิลิป โนวัค - โทมัส ซูเซ็ก, ดาวิด พาเวลก้า - ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่, วลาดิเมียร์ ดาริด้า (กัปตันทีม), ยาคุบ ยังค์โต้ (มาเตจ์ วีดร้า น.46) - พาทริค ชิค (มิลาน สโคด้า น.82)

ผู้ตัดสิน : อาร์ตูร์ โซอาเรช ดิอาช (โปรตุเกส)

สยามสปอร์ต

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.