"เรือใบสีฟ้า" ไม่ปล่อยสามคะแนนให้หลุดลอยเมื่อเปิดบ้านจัดการเอาชนะ วัตฟอร์ด ไปแบบสนุก 3-1 เกมนี้ ราฮีม สเตอร์ลิง รับบทพระเอกหลังโชว์เพลงแข้งยิงคนเดียวสามเม็ด เป็นแฮตทริกในวันนี้ และประตูที่ 15 ของซีซั่น พาทีมรั้งจ่าฝูงต่อไป โดยมี 74 คะแนนนำ "หงส์แดง" ที่แข่งน้อยกว่า 4 คะแนน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 30 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

แมนฯซิตี้ จ่าฝูงที่นำ ลิเวอร์พูล อยู่หนึ่งคะแนน เกมนี้จัดมาชุดใหญ่ สามประสานแนวรุกนำโดย ราฮีม สเตอร์ลิง, เซร์คิโอ อเกวโร่ และริยาด มาห์เรซ ส่วนวัตฟอร์ดเกมนี้เปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายตำแหน่งแนวรุกทั้ง เคราร์ด เดวโลเฟว, ทรอย ดีนี่ย์ และโรเบร์โต้ เปเรยร่า ต่างเป็นแค่ตัวสำรอง

ครึ่งแรก เริ่มมาได้แค่ 8 นาที เจ้าถิ่นได้ลุ้นก่อนเลยเมื่อ ริยาด มาห์เรซ เปิดโค้งมาให้ ดาบิด ซิลบา โขกบอลเช็ดเสาออกไป ซึ่งภาพช้าฟ้องว่าห้องเครื่องชาวสแปนิชใช้มือเล่นบอล

นาที 11 กุนโดกัน ไหลบอลออกซ้ายให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ตะบันด้วยซ้ายบอลพุ่งเลียดไปแฉลบแนวรับทีมเยือนออกหลังไป

จากนั้น นาที 29 "เรือใบสีฟ้า" ได้ลุ้นอีกครั้ง แบร์นาโด ซิลวา เปิดด้วยซ้ายมาเสาสองให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆ แต่หอกอาร์เจนไตน์สะบัดบอลถากเสาออกหลังไปแบบได้เสียว

ช่วงทดเจ็บท้ายครึ่งแรก กุน อเกวโร่ ได้หวดด้วยซ้ายแต่บอลก็ไปติดมือของ เบน ฟอสเตอร์ ไว้ได้ จบครึ่งแรก ยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกัน 0-0

กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง แค่สองนาทีเท่านั้น "เรือใบสีฟ้า" ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ กุน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไป บอลมาโดน ราฮีม สเตอร์ลิง ก่อนส่งบอลซุกก้นตาข่าย

ซึ่งจังหวะนี้ แข้งวัตฟอร์ดได้รุมมาประท้วงการได้ประตูของเจ้าถิ่น แต่ภายหลังที่ พอล เทียร์นี่ย์ ได้ปรึกษากับไลน์แมนแล้ว ก็ชี้ไปกลางสนามให้ แมนฯซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำ ซึ่งจากภาพช้าเห็นได้ชัดว่า จังหวะแรก กุน ไม่ล้ำหน้าก่อนบอลจะทะลักมาถูก ดารีล ยีนมาต พยายามจะเล่นบอลแต่สกัดไปโดนตัว สเตอร์ลิง ที่แม้จะยืนในตำแหน่งล้ำหน้า เปลี่ยนทางเข้าประตูไป

ดูเหมือนสมาธิของทัพแตนจะแตก อีกสองนาทีต่อมา แมนฯซิตี้ มาบวกประตูที่สองอย่างรวดเร็ว ดาบิด ซิลบา แทงบอลให้ มาห์เรซ ทะลุถึงเส้นหลังก่อนปาดมาหน้าประตูโล่งๆให้ สเตอร์ลิง ยิงเข้าไปง่ายๆให้ "เรือใบ" นำห่าง 2-0 และเป็นประตูที่สองของอดีตปีกหงส์แดงในเกมนี้

นาที 59 แมนฯซิตี้ ได้ประตูนำโด่งเป็น 3-0 บอลเริ่มจาก ซิลบา จ่ายทะลุตัดหลังแนวรับให้ สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปก่อนลากเข้าบริเวณกลางประตูแล้วชิพนิ่มๆ ข้ามตัว ฟอสเตอร์ เข้าไปอย่างเหนือชั้น เป็นแฮตทริกในเกมนี้ของปีกทีมชาติอังกฤษ และประตูที่ 15 ในซีซั่นนี้

นาที 65 เป๊ป เปลี่ยนตัวคนแรกถอดเอา ราฮีม สเตอร์ลิง ที่เหมาคนเดียวสามเม็ดออกแล้วส่ง ลีรอย ซาเน่ ลงไปเล่นแทน

ส่วน "แตนอาละวาด" ส่ง ทรอย ดีนี่ย์ และเกราร์ด เดวโลเฟว ลงไปเล่นแทน กีโก้ เฟร์นานเดซ และอิซัค ซัคเซสส์

และเพียงแค่สัมพัสแรกของสองสำรองวัตฟอร์ดก็ช่วยให้ทีมตีไข่แตกได้สำเร็จ ไล่ เจ้าถิ่นมาเป็น 1-3 นาที 66 จากจังหวะที่ เบน ฟอสเตอร์ เตะบอลยาวมาหน้าปากประตูเรือใบ ทรอย ดีนี่ย์ เทกตัวโขกชงบอลให้ เคราร์ด เดวโลเฟว จับบอลก่อนจิ้มผ่านมือ เอแดร์ซอน เข้าประตูไป

นาที 78 เจ้าถิ่นชวดโอกาสได้ประตูที่สี่ เมื่อแบร์นาโด้ ซิลวา หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ เบน ฟอสเตอร์ ก่อนจะชิพไปติดหัวของนายด่านทีมเยือน และถัดมาไม่ถึงนาที แบร์นาโด้ ไหลบอลให้ ลีรอย ซาเน่ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่บอลหลุดเสาเข้าข้างตาข่ายไป

ท้ายเกม ยังคงเป็นเจ้าถิ่นที่ครองบอลได้เหนือกว่า นาที 84 กุนโดกัน จ่ายบอลทะลุให้ กาเบรียล เชซุส ตัวสำรองที่ลงมาแตะบอลหลบ เบน ฟอสเตอร์ ได้แล้วแต่เสียจังหวะก่อนยิงข้ามคานไป จบเกม แมนฯ ซิตี้ ไล่บดเอาชนะ วัตฟอร์ด 3-1 เก็บสามแต้มพร้อมนำจ่าฝูงหนี ลิเวอร์พูล ที่แข่งในวันอาทิตย์ไปเป็น 4 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, นิโกลัส โอตาเมนดี้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน, ดาบิด ซิลบา, ริยาด มาห์เรซ (ฟิล โฟเด้น น.90), เซร์คิโอ อเกวโร่ (กาเบรียล เชซุส น.80), ราฮีม สเตอร์ลิง (ลีรอย ซาเน่ น.64)

วัตฟอร์ด (4-2-2-2) : เบน ฟอสเตอร์, ดารีล ยันมาต, มิเกล บริตอส (เคร็ก แคธคาร์ต น.82), คริสติย็อง กาบาเซเล่, อดัม มาซิน่า, เอเตียน กาปู, อับดูลาย ดูกูเร่, กีโก้ เฟเมเนีย (เคราร์ด เดวโลเฟว น.65), ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, อังเดร เกรย์ ,ไอแซ็ค ซัคเซสส์ (ทรอย ดีนี่ย์ น.65)

ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์

สยามสปอร์ต