เจมี่ วาร์ดี้ ระเบิดฟอร์มเก่งซัดคนเดียวสองตุงแทบจ่ายให้เพื่อนซัดอีกหนึ่งประตูช่วย "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ต้อน "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม 3-1 นับเป็นการประเดิมคุมทีมในรังเหย้านัดแรกได้อย่างสวยหรูของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2562
เลสเตอร์ ซิตี้ 3 - 1 ฟูแล่ม

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

นัดนี้ถือเป็นการประเดิมเกมในบ้านนัดแรกของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือเลสเตอร์ ภายหลังเปิดตัวคุมทีมนัดแรกไปแล้ว ด้วยการออกไปพ่ายวัตฟอร์ดแบบหวุดหวิด 1-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา

เจ้าบ้านทักทายก่อนนาทีที่ 6 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ จ่ายให้ยูริ ตีเลม็องส์ ซัดด้วยเท้าซ้าย แต่ลอยโด่งข้ามคานออกไป ก่อนที่จะมีโอกาสจากลูกเตะมุมในนาทีที่ 13 บอลมาถึงริคาร์โด้ เปเรยร่า ที่ยืนอยู่โล่งๆ แต่เจ้าตัวกลับยิงพลาดไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาทีต่อมายังเป็น "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ที่มีลุ้นต่อเนื่อง เดมาไร เกรย์ ผ่านให้วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ยิงไกลด้วยเท้าขวาแต่ก็ยังสูงเกินไปอีก ก่อนจะมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อคาลั่ม แชมเบอร์ส ดาวเตะฟูแล่ม โดนเอ็นดิดี้ที่ขึ้นมาบีบสูง ฉกบอลไปได้ บอลไปถึง เจมี่ วาร์ดี้ หลุดเข้าไปไหลต่อให้ ตีเลม็องส์ ส่งลูกตุงตาข่ายในนาทีที่ 21 ซึ่งถือเป็นประตูแรกของมิดฟิลด์ชาวเบลเยียมในสีเสื้อเลสเตอร์อีกด้วย

เจ้าบ้านยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ และมีลุ้นได้ประตูที่ 2 เป็นระยะๆ โดยเจมส์ แมดดิสัน ได้ลองสับไกนอกกรอบเขตโทษ 2 หนซ้อนๆ ทั้งซ้ายทั้งขวาในนาทีที่ 30 และ 32 ตามลำดับ แต่ยังไม่เข้าเป้า ก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดให้วาร์ดี้ยิงด้วยขวาไปติดบล็อกในจังหวะถัดมา

นาทีที่ 38 แมดดิสัน จ่ายให้ตีเลม็องส์ลุ้นส่องลูกที่ 2 แต่ยังไปติดเซฟของเซร์คิโอ ริโก้ นายด่าน "เจ้าสัวน้อย" เลสเตอร์ยังครองเกมมากกว่า แต่ยังไม่ได้ประตูเพิ่ม หมดครึ่งแรก เลสเตอร์นำฟูแล่ม 1-0

ครึ่งหลัง สกอตต์ พาร์เกอร์ กุนซือชั่วคราวฟูแล่ม รีบแก้เกมเปลี่ยนฟลอยด์ อายิเต้ ลงมาแทนไรอัน แซสเซอญง ตั้งแต่นาทีที่ 45 หลังครึ่งแรกยังไม่มีโอกาสสับไกเลยสักครั้ง

เลสเตอร์ยังได้บุก นาทีที่ 49 ตีเลม็องส์โยนให้วาร์ดี้ได้โหม่ง แต่ยังโด่งเกินไป ก่อนที่จะกลายเป็นทีมเยือนที่ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากโอกาสครั้งแรก อายิเต้ที่อยู่ในสนามแค่ 6 นาทีกลายเป็นซูเปอร์ซับยิงด้วยซ้ายในนาทีที่ 51 บอลดูเหมือนจะไปเฉี่ยวแฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก่อนผ่านตัวแคสเปอร์ ชไมเคิ่ล จอมหนึบ "เดอะ ฟ็อกซ์" เข้าประตูไปในบั้นปลาย

ไรอัน บาเบิล ปีกฟูแล่ม ได้ใบเหลืองเป็นคนแรก หลังไปฟาวล์หนักใส่ เบน ชิลเวลล์ แนวรับเลสเตอร์ ในนาทีที่ 55 เกมชักสะดุดเมื่อมีการทำฟาวล์เป็นระยะๆ จนกระทั่งนาทีที่ 60 โจ ไบรอัน แบ็กซ้ายทีมเยือน โดนใบเหลืองไปเป็นคนที่ 2 โทษฐานไปอัดเกรย์

ริโก้ ต้องออกแรงเซฟช่วยฟูแล่มอีกครั้ง จากจังหวะที่ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ยิงเต็มเหนี่ยวจากนอกเขตโทษแบบได้ลุ้นสุดๆ ในนาทีที่ 63 อีก 6 นาทีต่อมา บาเบิลได้ลองยิงไกลแต่ก็พลาดเป้าไปเอง ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 67 ฌอง มิเชล เซรี ลงมาแทน

ทีมเยือนมีลุ้นบ้างในนาทีที่ 68 อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ได้โหม่ง แต่ชไมเคิ่ลยังเอาอยู่ ก่อนที่เลสเตอร์จะเปลี่ยนตัว 2 คนรวด เอาชินจิ โอกาซากิ กับราชิด เกซซาล ลงมาแทนเกรย์กับตีเลม็องส์ตามลำดับในนาทีที่ 72 และมาได้ประตูนำ 2-1 จนได้จากจังหวะสวนกลับเร็ว แมดดิสัน จ่ายให้ วาร์ดี้ ซัดเข้าไปในนาทีที่ 78

กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นอีกครั้ง เมื่อวาร์ดี้ซัดนำห่าง 3-1 ในนาทีที่ 86 จากการส่งของ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ จากริมเส้นฝั่งซ้าย ส่งผลให้ วาร์ดี้ยิงไปแล้ว 101 ในสีเสื้อเลสเตอร์ หมดเวลา 90 นาทีบวกทดเจ็บ 4 นาที เลสเตอร์ชนะฟูแล่ม 3-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เลสเตอร์ (4-2-3-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, จอนนี่ อีแวนส์, เบน ชิลเวลล์ - ยูริ ตีเลม็องส์ (ราชิด เกซซาล น.72), วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ - เดมาไร เกรย์ (ชินจิ โอกาซากิ น.72), เจมส์ แมดดิสัน (น็อมปาลิส เมนดี้ น.81), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - เจมี่ วาร์ดี้

ฟูแล่ม (4-2-3-1) : เซร์คิโอ ริโก้ - เดนิส โอดอย, ฮาวาร์ด นอร์ดไวท์, ทิม รีม, โจ ไบรอัน - คาลั่ม แชมเบอร์ส, เควิน แม็คโดนัลด์ (ลูเซียโน่ วิเอตโต้ น.82), ทอม แคร์นี่ย์ - ไรอัน บาเบิล (ฌอง มิเชล เซรี น.67), อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช , ไรอัน แซสเซอญง (ฟลอยด์ อายิเต้ น.45)

ผู้ตัดสิน : เดวิด คูท

สยามสปอร์ต