|
3
มี.ค. มาห์เรซกดชัย! แมนซิตี้บี้บอร์นมัธ แซงลิเวอร์พูลนำฝูง-ซิลบาเจ๋งทำสถิติทาบตำนานผี
"เรือใบสีฟ้า" ฟอร์มยอดเยี่ยมคว้าชัยในเกมลีก 5 นัดติด หลังบุกไปเฉือน บอร์นมัธ หวุดหวิด 1-0 ริยาด มาห์เรซ ตัวสำรองซัดประตูชัย พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บสามแต้มสำคัญมีเพิ่มเป็น 71 แต้มแซง "หงส์แดง" ที่แข่งน้อยกว่ามีแค่ 69 คะแนน ขึ้นนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อีกทั้งเกมนี้ ดาบิด ซิลบา ยังทำสถิติแอสซิสต์ลูกที่ 80 ในพรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับ เดวิด เบ็คแฮม อดีตสตาร์ปีศาจแดง สนาม : ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม ฟอร์มการเล่นของ บอร์นมัธ ในบ้านนั้นแตกต่างอย่างมากมายเมื่อเทียบกับยามออกนอกบ้านที่แพ้รวด 10 นัดเยือนล่าสุด ทำให้ทีมเยือนอย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่ต้องการแค่คะแนนเดียวก็จะกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงด้วยผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่า ลิเวอร์พูล นั้น ไม่อาจจะมาเล่นแบบผ่อนคลายสบายใจได้เลย แค่ 5 นาที เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิง "เรือใบสีฟ้า" ก็แผลงฤทธิ์ยิงด้วยเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษจากการโหม่งชงให้โดย นิโกลัส โอตาเมนดี้ เดชะบุญที่ไปติดบล็อกแนวรับเจ้าบ้าน ก่อนได้ลูกเตะมุมในจังหวะต่อเนื่อง เควิน เดอ บรอยน์ เปิดไปให้ โอตาเมนดี้ โขกหน้าประตูแต่หลุดเสาออกไปทางด้านซ้าย แชมป์เก่ายังครองบุกต่อเนื่องตามหน้าเสื่อ ขณะที่ "เดอะ เชอร์รี่ส์" ต้องเน้นรับให้แน่นไว้ก่อนตามสูตร จนกระทั่งนาทีที่ 19 แมนฯ ซิตี้ น่าขึ้นนำเมื่อ แบร์นาโด้ ซิลวา แทงบอลไปให้ เดอ บรอยน์ ทางฝั่งขวา ก่อนที่ เดอ บรอยน์ จะไหลย้อนเข้ากลางมาให้ ดาบิด ซิลบา แต่รองกัปตันทีม "เรือใบสีฟ้า" กลับยิงออกไปซะงั้น ทีมเยือนยังคงพาบอลป้วนเปี้ยนในเขตโทษเจ้าถิ่น แต่ก็ยังทำอะไรได้ไม่ถนัดนักเมื่อผู้เล่นในชุดแดง-ดำคอยมะรุมมะตุ้มไม่ยอมห่าง ก่อนที่ โอตาเมนดี้ จะได้ลุ้นอีกหนจากจังหวะเปิดลูกเตะมุมของ เดอ บรอยน์ แต่กลับยิงโด่งออกไปเองในนาทีที่ 31 นาทีต่อมา อเกวโร่ ได้วอลเลย์ด้วยเท้าซ้ายแต่ลูกก็ลอยสูงออกไปไกล จนกระทั่งนาทีที่ 41 โอกาสยังเป็นของทีมเยือน อิลคาย กุนโดกัน เปิดให้ ราฮีม สเตอร์ลิง สับไกด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังหลุดเสาออกไปอีกตามเคย สองนาทีถัดมา จอห์น สโตนส์ แนวรับ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นมาโขกแต่ก็ยังเข้ามือ อาเทอร์ โบรุก นายด่าน บอร์นมัธ ช่วงทดเวลาเจ็บ แมนฯ ซิตี้ จำต้องเปลี่ยนตัวคนแรก โดย ริยาด มาห์เรซ ลงมาแทน เดอ บรอยน์ ที่มีอาการบาดเจ็บ หมดครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0-0 ครึ่งหลัง เล่นไปได้แค่ 3 นาที ทีมเยือนเปลี่ยนตัวคนที่ 2 แว็งซ็องต์ ก็องปานี ได้เล่นแทน สโตนส์ ที่เจ็บไปอีกคนแมนฯ ซิตี้ ยังคงบด บอร์นมัธ แบบต่อเนื่อง นาทีที่ 51 มาห์เรซ เปิดให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้ส่องไกล แต่ก็ยังโดนสกัดได้ทัน แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0 จนได้โดย ซิลบา เปิดให้ มาห์เรซ ที่วิ่งมารออยู่โล่งๆ ทางด้านขวา ยิงเข้าไปในนาทีที่ 55 ซึ่งนับเป็นการแอสซิสต์ลูกที่ 80 ของ ซิลบา มากที่สุดเป็นอันดับ 8 ในพรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับ เดวิด เบ็คแฮม ตำนานดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อย แมนฯ ซิตี้ ยังเดินหน้าตามล่าลูกที่ 2 สเตอร์ลิง ยิงไปติดเซฟในนาทีที่ 64 นาทีถัดมา โอตาเมนดี้ ได้ใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม โทษฐานไปทำแฮนด์บอล จากนั้น นาทีที่ 70 สเตอร์ลิง เปิดให้ อเกวโร่ ซัดด้วยขวาหน้าประตู แต่ตรงตัว โบรุก เวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่ม หมดเวลา 90 นาที แมนฯ ซิตี้ บุกชนะ บอร์นมัธ 1-0 แซงกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง มีอยู่ 71 คะแนน จาก 29 นัด มากกว่า ลิเวอร์พูล ที่แข่งน้อยกว่า 1 นัด อยู่ 2 คะแนนเต็มๆ รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม บอร์นมัธ (4-4-1-1) : อาร์เทอร์ โบรุก - เนธาเนียล ไคลน์ (ดีเอโก้ ริโก้ น.83), คริส เมแพม, แจ็ค ซิมพ์สัน (จอร์ดอน ไอบ์ น.83), ชาร์ลี แดเนียลส์ - อดัม สมิธ, นาธาน อาเก้, แอนดรูว์ เซอร์แมน, ไรอัน เฟรเซอร์ - เดวิด บรู๊คส์ (ลิส มูเซ่ต์ น.75) - โจชัว คิง แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์ (แว็งซ็องต์ ก็องปานี น.48), นิโกลัส โอตาเมนดี้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - เควิน เดอ บรอยน์ (ริยาด มาห์เรซ น.45+2), อิลคาย กุนโดกัน, ดาบิด ซิลบา - แบร์นาโด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่ (กาเบรียล เชซุส น.90), ราฮีม สเตอร์ลิง ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์ส |
|