|
6
ธ.ค. คล็อปป์&ทีมสตาฟฟ์วางแผนเตรียมพร้อมโปรแกรมหฤโหด
![]() ลิเวอร์พูล เข้าสู่ช่วงโปรแกรมหฤโหดเมื่อต้องลงเล่น 9 แมตช์ในเวลาเพียงแค่ 26 วันเท่านั้น แถมพวกเขายังต้องเดินทางถึง 11,000 ไมล์ (ประมาณ 17,702 กิโลเมตร) นั่นทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม จำเป็นต้องมีแผนงานร่วมกับทีมสตาฟฟ์เพื่อช่วยในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย และจิตใจให้ขุมกำลัง "หงส์แดง" ให้พร้อมสำหรับทุกๆ แมตช์ในเดือนธันวาคมนี้ หลังจากผ่านเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ด้วยการไล่ถลุง เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลายคนได้เห็นแล้วว่า คล็อปป์ ใช้วิธีการโรเตชั่น เพื่อให้นักเตะตัวหลักมีสภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์ ขณะผู้เล่นที่ลงสนามแทนก็โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น กระนั้น "หงส์แดง" ยังเหลืออีกหลายเกมที่ต้องลงสนาม และยังต้องเดินทางไกลด้วย ทำให้ตอนนี้สิ่งสำคัญที่ คล็อปป์ จำเป็นต้องขบคิดก็คือการที่จะทำยังไงเพื่อรักษาสภาพความฟิตและสภาพจิตใจของนักเตะให้พร้อมอยู่เสมอ นั่นจึงเป็นหน้าที่ของทีมงานของเขาทั้งนักวิทยาศาสตร์การกีฬา, นักโภชนาการ และแพทย์ฟื้นฟูร่างกาย ต้องช่วยกันทำงานหนักเป็นพิเศษในเดือนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สภาพจิตใจ บางทีนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดก็จำเป็นต้องมีการประเมินเรื่องสภาพจิตใจยกตัวอย่าง ซาดิโอ มาเน่ เป็นต้น โดยปีกจอมถล่มประตูชาวเซเนกัลต้องกรำศึกหนักมาตลอด 2 ปี และไม่ค่อยพลาดการลงสนามให้กับ "หงส์แดง" และประเทศชาติ แถมฟอร์มการเล่นในช่วงเวลานี้ค่อนข้างดีซึ่งทำให้เขาได้รับการพิจารณาชื่อชิงบัลลง ดอร์ ประจำปี 2019 (ได้อันดับ 4) อย่างไรก็ตามด้วยโปรแกรมของ ลิเวอร์พูล ที่แน่นเอี๊ยดทั้งการเดินทางไปเยือน บอร์นมัธ, เลสเตอร์ ซิตี้, เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก, แอสตัน วิลล่า และทำศึกชิงโทรฟี่ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่ประเทศกาตาร์ ไม่สามารถลดแรงกระตุ้นในการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสร ฉะนั้นนักเตะต้องมีสมาธิกับการลงสนามและคิดการณ์ไกล มากกว่าการคิดเพียงแค่การลงเล่นในแมตช์ต่อไปเท่านั้น และห้ามไขว้เขวเด็ดขาด เพื่อความสำเร็จ !คล็อปป์&ทีมสตาฟฟ์วางแผนเตรียมพร้อมโปรแกรมหฤโหด "บอกตามตรง ผมคิดว่าผมมีอาการเหนื่อยล้าจริงๆ ดังนั้นการที่ร่างกายได้พักฟื้นเป็นเรื่องดี ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องยากลำบากสำหรับเราที่จะลงเล่นทุกเกม ถ้าทีมและโค้ชต้องการให้เราลงเล่น เราสามารถลงเล่นและช่วยทีมได้ ผมอยู่ที่นี่เพื่อทำงานทุกวัน และพร้อมเสมอ" "คุณต้องมีความเป็นมืออาชีพเท่าที่คุณจะทำได้ การคว้าชัยชนะทุกเกม และคว้าแชมป์เป็นแรงกระตุ้นให้นักเตะตลอด ถ้าเราสามารถคว้าแชมป์สโมสรโลกได้ มันยิ่งทำให้เรามีโมเมนตัมมากขึ้น หวังว่าเราจะคว้าชัยชนะ และเป็นการเติมเต็มพลังให้เราเพื่อลุยในช่วงที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้" มาเน่ ระบุ สภาพความฟิต แน่นอนว่านอกเหนือจากสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งแล้ว ลิเวอร์พูลต้องลงทุนสูงกับการจ้างทีมสตาฟฟ์เพื่อมาช่วยนักเตะของพวกเขา โดยความสำเร็จของทีมมาจากการทำงานหนักของเหล่าสตาฟฟ์เทคนิคที่อยู่เบื้องหลังและมักจะรวมตัวกันเพื่อวิเคราะห์สิ่งต่างๆ รวมทั้งเพื่อช่วยให้ผู้เล่นมีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์ที่สุด อันเดรียส คอร์นเมเยอร์ หัวหน้าฝ่ายดูแลเรื่องสภาพความฟิตร่างกาย และวิทยาศาสตร์การกีฬาชาวเยอรมัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากๆในการรับผิดชอบต่อพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมของทีมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากที่ เซลจ์โก้ บูวัช อดีตผู้ช่วยตัดสินใจลาออก ผลงานของ คอร์นเมเยอร์ ทำให้ คล็อปป์ ยกย่องว่าเป็น "เป็นยอดนักวางแผนตัวจริง" ลิเวอร์พูล มักจะเดินทางไปเข้าแคมป์เก็บตัวที่เมืองเอวิยอง ประเทศฝรั่งเศส เพื่อใช้สำหรับเตรียมความพร้อมก่อนเปิดฤดูกาล แต่แทนที่จะลงฝึกซ้อม 3 ครั้งต่อวันที่เอวิยอง พวกเขาตัดสินใจซ้อมแค่ 2 ครั้งเท่านั้น โดยสตาฟฟ์โค้ชไม่อยากให้ทำงานหนักมากเกินไป สำหรับโปรแกรมที่แน่นเอี๊ยดในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ลิเวอร์พูลจะไม่ทำการฝึกซ้อมมากเกินไป พวกเขามักจะส่งรายงานทุกวันหลังจบการแข่งขึ้นเพื่อนนำไปใช้กับการเข้าคอร์สฟื้นฟูร่างกาย และนักเตะทุกคนจะต้องโปรแกรมการเข้ายิมแบบเฉพาะเจาะจงของแต่ละคนสำหรับช่วงเดือนที่แสนวุ่นวายนี้ นอกจากนี้บรรดาแข้ง "เดอะ เร้ดส์" จะเน้นการสร้างความฟิตพื้นฐานซึ่งทำให้นักเตะไม่สูญเสียความฟิตในช่วงวันหยุดพักผ่อน ส่วนในช่วงที่ต้องเดินทางออกจากเมลวู้ด สิ่งสำคัญก็คือการรักษาสภาพจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส และพร้อมลุยกับโปรแกรมในเดือนหฤโหดนี้ ขณะเดียวกัน ฟิลลิปป์ ยาค็อบเซ่น ผู้จัดการฝ่ายฟื้นฟูสภาพร่างกายกับศักยภาพ และ คริสโตเฟอร์ โรห์บาค นักกายภาพบำบัดซึ่งเคยทำงานร่วมกับ คล็อปป์ ตั้งแต่สมัยที่พวกเขาอยู่กับสโมสรไมนซ์ จะมีบทบาทสำคัญในการดูแลเรื่องสุขภาพของบรรดาทัพ "หงส์แดง" โภชนาการ นอกเหนือจากเรื่องสภาพร่างกาย และจิตใจแล้ว นักเตะลิเวอร์พูลจำเป็นต้องมีการเติมเชื้อเพลิงเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เหมาะสม สำหรับประเด็นนี้เป็นหน้าที่ของ โมน่า เนมเมอร์ หัวหน้าฝ่ายด้านโภชนาการ โดยเธอต้องทำให้แน่ใจว่านักเตะทุกคนได้รับประทานอาหารที่ดีในเวลาที่เหมาะสม ในช่วงที่ ลิเวอร์พูล มีการปรับปรุงอัฒจันทร์ฝั่งเมน สแตนด์ พื้นที่ในส่วนที่ใช้สำหรับรับประทานอาหารมีการปรับปรุงให้อยู่ใกล้กับห้องแต่งตัวเพื่อทำให้แน่ใจว่านักเตะทุกคนสามารถฟื้นฟูร่างกายด้วยคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนภายในช่วงเวลาสำคัญนั่นก็คือ 1 ชั่วโมงแรกหลังจบเกม ถ้าหากนักเตะมีความต้องการที่จะรีบออกจากสโมสรเพื่อกลับบ้านเร็วๆ พวกเขาจะต้องเอากล่องใส่อาหารที่มีพาสต้าและข้าวกลับไปด้วย นอกจากนี้ทีมโภชนาการยังต้องมีการจัดเตรียมอาหารเพื่อนำไปทานทุกครั้งที่สโมสรออกไปเล่นเกมเยือน ทั้งหมดนี้ เนมเมอร์ ต้องรับผิดชอบเพื่อทำให้แน่ใจว่าแข้ง "เดอะ เร้ดส์" หม่ำอาหารที่เหมาะสมบนรถบัส มากกว่าการกินอาหารง่ายๆ และทำเสร็จเร็วๆ ขณะเดียวกัน เนมเมอร์ ได้ทำการติดโปสเตอร์ด้านรายละเอียด และข้อความที่แจกแจงให้เห็นถึงความสำคัญของการรับประทานอาหารที่เหมาะกับสภาพร่างกายของนักเตะ อย่างเช่นปริมาณโปรตีนหรือคาร์โบไฮเดรต เอาไว้ในโรงอาหารสโมสรด้วย ระบบโรเตชั่น เจอร์เก้น คล็อปป์ มักจะใช้งานนักเตะแกนหลักลงเล่นอย่างต่อเนื่องซึ่งสิ่งนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มสุดยอดจนนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ แต่ตอนนี้ กุนซือชาวเยอรมัน จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากขุมกำลังที่มีอยู่ในทีมทุกคน มีผู้เล่นหลายคนของทีมที่ต้องนั่งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองบ่อยๆ อย่าง นาบี เกอิต้า, เซอร์ดาน ชากีรี่ และ โจ โกเมซ ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ไม่ค่อยได้ลงเล่นตัวจริงมากนักอย่างที่เขาต้องการ กระนั้น คล็อปป์ ยังคงยืนกรานว่าเวลาของนักเตะเหล่านี้จะมาถึงในเร็วๆ นี้ และพวกเขาต้องพร้อมลงสนาม เมื่อทีมต้องการใช้งาน อย่างในแมตช์ล่าสุดที่ไล่ถลุง เอฟเวอร์ตัน สกอร์ 5-2 คล็อปป์ ใช้การโรเตชั่นในแนวรุกด้วยการส่ง ดิว็อค โอริกี้ กับ ชากีรี่ ทำหน้าที่แทน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ขณะเดียวกันในแผงกองกลางใช้งาน อดัม ลัลลาน่า กับ มิลเนอร์ แทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ ที่อยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกายจากอาการบาดเจ็บ "นี่คือเหตุผลที่เราต้องมีการเปลี่ยนแปลง ในฐานะผู้จัดการทีมคุณคาดหวังในเรื่องนี้ และจากนั้นนักเตะก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยม มันไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับผม แต่ผมไม่ได้คาดหวังขนาดนี้ มันเป็นเรื่องดีจริงๆ สิ่งนี้ช่วยเราได้ ตอนนี้นักเตะรู้ว่ามันเป็นเรื่องง่ายสำหรับผมที่จะบอกพวกเขาให้ทำผลงานให้ดีได้ยังไงแม้พวกเขาไม่ได้ลงเล่น" "เมื่อไหร่ที่พวกเขาลงเล่น และแสดงผลงานได้อย่างที่พวกเขาทำในคืนนี้ (วันพุธ) มันยิ่งเป็นเรื่องดีสำหรับขุมกำลังของทีม การได้เห็นความกระตือรือร้นของนักเตะเหล่านี้ นี่คือเหตุผลที่เราทำการเปลี่ยนแปลง และเมื่อเราได้เห็นนักเตะทำผลงานได้แบบนั้นมันยิ่งเป็นเรื่องน่ายินดีมากขึ้น" คล็อปป์ ให้เหตุผลที่ โรเตชั่น ในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ธันวาหฤโหดกับโปรแกรมสยอง ลิเวอร์พูล 4 ธันวาคม - เอฟเวอร์ตัน (เหย้า) 7 ธันวาคม - บอร์นมัธ (เยือน) 10 ธันวาคม - เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (เยือน) 14 ธันวาคม - วัตฟอร์ด (เหย้า) 17 ธันวาคม - แอสตัน วิลล่า (เยือน) 18 ธันวาคม - ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (รอบรองชนะเลิศ) 21 ธันวาคม - ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (ชิงที่ 3 หรือ ชิงชนะเลิศ 26 ธันวาคม - เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน) 29 ธันวาคม - วูล์ฟส์ (เหย้า) |
|